คำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช.ประกาศใช้มาตรา 44 ให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้กฎหมาย มีขึ้น 3 วันหลังจากมีการสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 5/2560 ให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมการเข้าออกในพื้นที่วัดธรรมกาย สั่งให้บุคคลออกจากพื้นที่ ควบคุมระบบสาธารณูปโภค ระบบการสื่อสาร ตรวจค้น รื้อถอนทำลายเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้าง และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นตามสมควรแก่กรณี
เป็นท่าทีที่ชัดเจนว่า คสช.และรัฐบาล “เอาจริง” ที่จะจัดการกับลัทธิธรรมกาย อย่างเด็ดขาด ด้วยการเข้าเคลียร์พื้นที่วัดพระธรรมกาย เพื่อนำตัวธัมมชโยมาดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร
3-4 วันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า รัฐบาลซึ่งระดมกำลังทหาร ตำรวจกว่าหนึ่งพันนาย เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายจะล้มเหลว ไม่สามารถจับตัวธัมมชโยมาดำเนินคดีได้ เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
แต่ควบคู่ไปกับปฏิบัติการล่าตัวเจ้าสำนักธรรมกาย คือ การบุกเข้าไปในดินแดนอันลึกลับ นับเป็นครั้งแรกที่พื้นที่อันเป็นฐานที่มั่นของลัทธิธรรมกายถูกล่วงล้ำ ภาพสิ่งก่อสร้างที่ถูกเปิดเผยออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ เช่น อุโมงค์ใต้ดิน คลังน้ำมัน ห้องหับ ข้าวของเครื่องใช้ของธัมมชโย ฯลฯ ทำให้สังคมยิ่งเคลือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมของธัมมชโย
เปรียบเสมือนการทลายป้อมค่ายศัตรู แม้แม่ทัพใหญ่อันเป็นเป้าหมายจะหลบลี้หนีรอดไปได้ แต่ก็สร้างความระส่ำระสายเสียขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าสาวกผู้รับใช้มิใช่น้อย
วัดพระธรรมกายที่ปราศจากธัมมชโย เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา ก็จะเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง ก็อาจหายไปจากการรับรู้ของสังคมไปเลย
ธัมมชโย อาจจะหลบหนีไปอยู่ที่สาขาของวัดธรรมกายในต่างประเทศ สาขาใดสาขาหนึ่ง แล้วเผยแพร่ลัทธิธรรมกายขายบุญให้ผู้ที่ศรัทธาได้ต่อไป แต่การไปอยู่ในต่างประเทศ ไม่เหมือนกับอยู่ที่วัดธรรมกายแน่ เพราะสภาพแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างกัน กลุ่มเป้าหมายหลักตลาดขายบุญของธรรมกายคือ คนไทยในประเทศไทย คนไทยในประเทศที่วัดธรรมกายมีสาขาอยู่ ที่ศรัทธาหลงเชื่อในลัทธิธรรมกาย มีแน่นอน แต่น่าจะเป็นส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา
ดูอย่างยันตระที่มักจะถูกอ้างอิงเสมอว่า ยังมีผู้นับถือศรัทธาอยู่ แม้จะเป็นอลัชชีที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ แต่คนที่ยังนับถือศรัทธาในตัวยันตระนั้น มีสักกี่คน เมื่อเทียบกับครั้งยังห่มผ้าเหลือง ไม่ถูกเปิดโปงพฤติกรรม
การหลบหนีไม่ยอมมามอบตัวสู้คดี จะทำให้ธัมมชโยต้องหลบหนีตลอดไป ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่สามารถปรากฏตัวเรี่ยไรขายบุญได้ ถึงทำได้มีข้อจำกัดมากมาย
คนอย่างธัมมชโย ซึ่งเคยมีคนเคารพบูชากราบไหว้เป็นหมื่นเป็นแสนคน จะยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้หรือ
การใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 เป็นการใช้อำนาจของอาณาจักรคือ รัฐบาลเข้าจัดการกับลัทธิธรรมกาย โดยการดำเนินคดีกับเจ้าลัทธิในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ซึ่งเป็นความผิดในทางโลก
แต่สำหรับศาสนจักรที่ผ่านมา นอกจากจะไม่ได้จัดการปัญหาการละเมิดพระธรรมวินัยบิดเบือนพระไตรปิฎกแล้ว ยังปกป้องธัมมชโยอย่างเปิดเผยด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลัทธิธรรมกายเติบใหญ่อย่างรวดเร็ว
การสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ทำให้ศาสนาจักรมีประมุข คือ สมเด็จพระสังฆราชอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่มีการแต่งตั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราชเมื่อ พ.ศ. 2547 และเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ มรณภาพ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้เป็นประธานผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราชต่อมา จนกระทั่งมีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20
มหาเถรสมาคมในยุคที่ไม่มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระประธานนั้น ตกอยู่ใต้อิทธิพลของธัมมชโยอย่างชัดเจน
ฝ่ายอาณาจักรคือ รัฐบาลได้ลงมือจัดการกับลัทธิธรรมกาย โดยใช้อำนาจเท่าที่มีอยู่ คงต้องรอดูฝ่ายศาสนจักรว่า จะมีท่าทีต่อธรรมกายแตกต่างจากที่ผ่านมาหรือไม่