“สูตรปรองดอง”จะ“เจ๋ง หรือ จ๋อย?”

“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ความดี กับ ความชั่ว คือ ความแตกต่าง คือ ความขัดแย้ง ดังนั้น คนดี กับ คนชั่ว จึงแตกต่างกัน จึงแตกแยกกัน จึงไม่รักกัน..!

คนดีแท้จริงของชาติไทย ต้องคิดดี ต้องทำดี ผลงานต้องออกมาดี ดี-เพื่อตัวเอง ดี-เพื่อครอบครัว ดี - เพื่อส่วนรวม ดี – เพื่อชาติ – ศาสน์ – กษัตริย์ - ประชาชน

ส่วนคนชั่วทำชั่ว - ต่อชาติ ต้องถูกรัฐและกระบวนการยุติธรรมลงโทษ จับติดคุกตะราง!

คนดี -คือ-คนส่วนใหญ่ของชาติไทยแน่นอน ถ้าคนชั่วเป็นคนส่วนใหญ่-ชาติไทยล่มสลายไปนานแล้ว!

สรุปว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นคนดีทำดี จึงรักสามัคคีปรองดองกันอย่างเหนียวแน่นอยู่แล้ว นั่นคือ ความจริง..ใช่ไหม?

ถ้าใครไม่เข้าใจความดังกล่าวข้างต้น แสดงว่า หนึ่ง -โคตรโง่ สอง -จงใจแกล้งโง่ สาม -มีผลประโยชน์ทับซ้อนซ่อนเร้น..จึงแกล้งโง่(ว่ะ)

ก่อนอื่น..ต้องรู้ตรงกันก่อนนะว่า ทุกชาติในโลกรวมทั้งชาติไทย ผู้คนไม่ต้องการอะไรและต้องการอะไร?

ถ้าชาติใช้ระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก โดยชาติและประชาชนมีความไม่พร้อมในหลายมิติ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการอะไรบ้าง..

หนึ่ง -ประชาชนไม่ต้องการนักการเมือง ยึดอำนาจรัฐผ่านการเลือกตั้ง ด้วยการใช้เงินซื้อเสียง ผสมกับการโกงสารพัดวิธี

สอง -ประชาชนไม่ต้องการนักการเมือง ที่ทำให้รัฐสภาอันควรจะทรงเกียรติ์ ออกกฎหมายที่ดีเป็นประโยชน์ ต่อชาติและคนไทยส่วนใหญ่ กลายเป็น “เครื่องมือ” และ “ซ่องโจร” ของนักการเมืองชั่ว

ที่สำคัญ.. สภา-ต้องไม่ยอมให้นักการเมือง ใช้ความเป็น “เผด็จการรัฐสภา” ปฏิบัติการปล้นชาติปล้นประชาชนโดยเด็ดขาด

สาม -ประชาชนไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ใช้อำนาจรัฐผสานกลไกรัฐทุจริตโกงชาติ โดยเฉพาะนายกฯบางคนและรัฐบาลบางคณะ ที่เหิมเกริมถึงขนาดบังอาจคิด และกระทำการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพเทิดทูนยิ่งของปวงชนชาวไทย

ถ้าชาติมีรัฐบาลมาจากการทำรัฐประหาร ที่โค่นล้มรัฐบาลอันมิใช่ประชาธิปไตยแท้จริง ซึ่งซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อโกงกินชาติบ้านเมือง

หนึ่ง -ประชาชนไม่ต้องการสภาพ “หนีเสือปะจระเข้” หรือ มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล มาจากรัฐประหารที่บริหารชาติแบบ “สมบัติผลัดกันโกง”

สอง -ประชาชนไม่ต้องการรัฐบาลรัฐประหาร ที่ไม่ทำการปฏิรูปชาติในมิติสำคัญๆ และแก้ปัญหาชาติด้วยการจัดเลือกตั้งใหม่ โดยไร้มาตรการที่ได้ผลในการป้องกัน มิให้กลุ่มคนชั่วมาสมัครรับเลือกตั้ง เข้ามาใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง เพื่อยึดอำนาจรัฐไปโกงชาติครั้งแล้วครั้งเล่า

ถ้าเป็นเช่นนั้นเท่ากับ.. รัฐบาลทหารและคณะรัฐประหาร ปล่อยให้กลุ่มคนชั่วกลับมาปกครองชาติ โดยไม่รับผิดชอบต่อชาติและประชาชนนั่นเอง

โคตรน่าเบื่อเลย! เพราะประชาชนไม่ต้องการเหตุการณ์ซ้ำซาก กับการมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งชั่วโกงชาติ และรัฐบาลรัฐประหารที่ “เสียของ-เยี่ยวไม่สุด-มวยล้มต้มคนดู” เพราะ “วงจรอุบาทว์” ที่เกิดครั้งแล้วครั้งเล่า ล้วนทำร้ายทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ไม่มากก็น้อยมาตลอด

ด้วยทั้งรัฐบาลชั่วโกงเลือกตั้งและโกงชาติ กับ รัฐบาลจากการทำรัฐประหารที่ไม่ปฏิรูปชาติ ล้วนทำให้ประชาชนผู้รักชาติอีกนั่นแหละ อดรนทนไม่ไหวกับความเสียหายของชาติ จนต้องออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลทั้ง 2 รูปแบบ จนบาดเจ็บล้มตายมากมายไปกับ “วงจรอุบาทว์” วนเป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่แค่..

หนึ่ง -มีสภาและรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งสกปรก-ที่โกงชาติ สอง -ประชาชนผู้รักชาติอดรนทนไม่ไหว-ต้องต่อสู้ขับไล่รัฐบาลชั่ว สาม -คณะทหารที่ผ่านมาทำรัฐประหาร แต่ไม่ทำการปฏิรูปชาติอย่างจริงจัง สี่-รัฐบาลทหารแก้ปัญหาด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้ง

แล้วชาติไทยก็เริ่มนับหนึ่งใหม่ -ด้วยการได้รัฐบาลมาจากการซื้อเสียงและโกงชาติ... วงจรอุบาทว์แบบนี้แหละที่ประชาชนเอือมระอาและโคตรเบื่อ...เพราะ..

ท.ทหาร.. รัฐประหารมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง มองโลกสวยเกินจริงมาแล้วไม่รู้กี่ครา เพราะหลงเชื่อว่า..การเลือกตั้งจะแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองไทยได้ โดยไม่เคยสรุปบทเรียนว่า วิธีนี้แก้ปัญหาวิกฤตชาติไม่ได้เลย..จริงไหมล่ะ?

ท.ทหาร.. รัฐประหารมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ไม่เคยทำให้กลุ่มนักการเมืองชั่ว ยุติการใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อปล้นชาติได้เลย..จริงไหมล่ะ?

ท.ทหาร.. รัฐประหารมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ไม่เคยทำให้กลุ่มนักการเมืองชั่ว ยุติการใช้อำนาจรัฐกับกลไกรัฐและเผด็จการรัฐสภา ปล้นชาติปล้นประชาชนได้เลย..จริงไหมล่ะ?

ท.ทหาร.. รัฐประหารมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ไม่เคยทำตามพระราชดำรัสของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” อันทรงเปี่ยมวิสัยทัศน์ และแก้ปัญหาชาติได้จริงแท้แน่นอน ที่ว่า..

ต้องทำให้คนดีขึ้นปกครองชาติบ้านเมือง และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ ก่อความเดือดร้อนให้กับส่วนรวม

ท.ทหาร..ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ? นั่นเป็น “คำถาม” ที่ไม่เคยมี “คำตอบ” เจ๋งเป้งเลย..จริงไหม?

ที่สำคัญ - คือ - มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แบบตะวันตกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ชาติไทยกลับได้นักการเมืองไร้คุณภาพมากขึ้น ได้นักการเมืองขี้โกงทั้งการเลือกตั้งและโกงชาติมากขึ้น ได้นักการเมืองไม่รักชาติไม่รักประชาชนมากขึ้น ได้นักการเมืองชั่วก่อเกิดวิกฤตชาติหนักขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆไม่สิ้นสุด ฯลฯ

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น - คือ - นักการเมืองไม่เคยรู้ และสำนึกในเรื่องดีหรือชั่ว ถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร ฯลฯ ไม่รู้กระทั่งว่า..พวกตนเหล่านักการเมืองนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุก่อเกิดการรัฐประหาร เป็นต้นเหตุก่อเกิดปัญหาการคอร์รัปชั่นโกงชาติ เป็นต้นเหตุก่อเกิดวิกฤตอันเลวร้ายมากมายในชาติ เป็นต้นเหตุก่อเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมากมิติในชาติ เป็นต้นเหตุปัญหาทำให้ชาติไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าที่ควร ฯลฯ

โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมืองทุนสามานย์บางกลุ่ม นอกจากจะยึดครองราชอาณาจักร ด้วยวิธีโกงเลือกตั้งและโกงชาติแล้ว ยังคิดจะยึดครองศาสนจักรอีกด้วย เพราะหวังจะใช้สงฆ์หย่อนธรรมวินัยและอลัชชี เป็น “เครื่องมือ” ในการหาเสียงจากชาวบ้านให้พวกของตน

แถมยังตั้งกองกำลังอันธพาลการเมือง ก่อความรุนแรงด้วยการฆ่าและทำร้ายทหารและประชาชน มุ่งจะโค่นล้มรัฐไทย เพื่อสร้าง “รัฐไทยใหม่” เลียนแบบชาติตะวันตกทั้งดุ้น

ทั้งหมดนี้ คือต้นเหตุปัญหาที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย ทำให้คนดีต้องออกมาต่อสู้กับคนชั่ว เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อมิให้คนชั่วมีและใช้อำนาจรัฐ ปล้นชาติปล้นประชาชน ฯลฯ

มิใช่เรื่อง “คนไทยทะเลาะกันส่งเดช” มิใช่ “คนไทยใส่เสื้อสีนั้นสีนี้” ไม่ถูกกันแบบไร้สาระ ยิ่งมิใช่ “คนไทยทั้งชาติแตกแยก” เป็นสองฝ่ายทะเลาะกัน

หากแต่เป็นเรื่องระหว่าง “กลุ่มนักการเมืองชั่ว” และพวก ที่เป็น “รัฐบาลชั่วทำร้ายทำลายชาติ” กับ “คนไทยผู้รักชาติ” จำนวนมหาศาลไม่ยอมจำนน จึงออกมาต่อสู้ปกป้องชาติด้วยเลือดเนื้อและชีวิต

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นได้ เพราะผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ปล่อยให้ชาติไทยมี “รัฐบาลชั่ว” โกงเลือกตั้งและโกงชาติ โดยไม่ทำให้กฎหมายเป็นกฎหมายอย่างตรงไปตรงมานั่นเอง

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่- ความดีกับความชั่ว - ต้องแตกต่างกัน! ความดีกับความชั่ว -ไม่เคยปรองดองกัน เพราะเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาแต่โบราณกาล

โลกและชาติไทย จึงมีคนดีกับคนชั่วเป็นคู่ต่อสู้ เจอกันที่ไหนเป็น “ฉะ” กันที่นั่น คนดีที่เป็นคนส่วนใหญ่ พวกเขาปรองดองกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นการปรองดองบนหลักการ ทำดี-ทำถูกต้อง-ทำสิ่งที่ควรทำ-ทำเพื่อส่วนรวม

ปรองดองที่แท้จริงเป็นเรื่องดี! ผมจึงขอตามดู “สูตรปรองดอง” อำนวยการสร้างโดย “บิ๊กตู่” ผลิตโดย “บิ๊กป้อม” ว่า ตอนจบ “ดีเลิศประเสริฐศรี” หรือจบแบบ “จ๋อย” ตามรอยผู้อำนวยการสร้างคนก่อนๆ ..?..