“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก (โชห่วย) ที่ขายบุหรี่จำนวน 1,030 ร้านทั่วประเทศ ในประเด็นผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-25ม.ค.60 โดยระบุว่า ร้านค้าโชห่วย ร้อยละ 78 มองว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการออกกฎหมายควบคุมยาสูบที่ส่งผลต่อการค้าขาย แต่ควรให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น เศรษฐกิจ และการปฏิรูปประเทศ มากกว่า
และกว่าร้อยละ 64 เห็นว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ควรพิจารณาผลกระทบของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งอุตสาหกรรม นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นหลักเพียงอย่างเดียว รวมถึงให้ความสำคัญกับมุมมองของหน่วยราชการอื่นทีเกี่ยวข้องด้วย
ส่วนประเด็นมาตรการซองเรียบ ที่เสนอให้บรรจุเข้าในร่างกฎหมาย เพื่อบังคับให้บุหรี่ทุกยี่ห้อมีสีและรูปแบบซองเหมือนกันหมดนั้น ร้อยละ 83.50 มองว่า จะทำให้เกิดบุหรี่ปลอมมากขึ้น และ ร้อยละ 82.33 มองว่า จะส่งผลให้ผู้บริโภคจะไปหาของถูกในตลาดมืดที่ซองบุหรี่ยังมีตราสินค้าและหาซื้อได้ในราคาถูกกว่า ตลอดจนส่งผลจัดให้มีความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดสต๊อกสินค้าขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. โดยมีการบัญญัติข้อบังคับใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า อาทิ กำหนดอายุผู้ขายไม่ต่ำกว่า 18 ปี ห้ามร้านค้าแบ่งขายเป็นมวน ห้ามแสดงป้ายราคา ห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน และข้อกำหนดเรื่องซองเรียบ โดยซองบุหรี่ทุกยี่ห้อต้องใช้สีเดียวกันหมดและห้ามพิมพ์โลโก้หรือเครื่องหมายการค้าใดๆ
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวถึงผลสำรวจดังกล่าวว่า เป็นสิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า ร้านค้ามีความกังวลอย่างแท้จริงต่อร่างกฎหมายที่มีความสุดโต่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องซองเรียบ ที่คนค้าขายมองว่าจะทำให้เกิดบุหรี่ปลอมมากขึ้น สร้างภาระร้านค้าสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้าสมาชิกของสมาคมฯได้แต่หวังว่า สนช. จะมีการรับฟังปัญหาและผลกระทบนี้อย่างจริงจังและแก้ไขกฎหมายไม่ให้มาสร้างภาระกับร้านค้าโชห่วยเล็กๆอีก แล้ววันนี้เราก็จะไลฟ์ผ่านเฟสบุ้ค ‘NO TPCA เราคัดค้านร่างพรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ’ เพื่อแจ้งให้สมาชิกของเราทราบผลสำรวจอีกทางด้วย.
และกว่าร้อยละ 64 เห็นว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ควรพิจารณาผลกระทบของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งอุตสาหกรรม นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นหลักเพียงอย่างเดียว รวมถึงให้ความสำคัญกับมุมมองของหน่วยราชการอื่นทีเกี่ยวข้องด้วย
ส่วนประเด็นมาตรการซองเรียบ ที่เสนอให้บรรจุเข้าในร่างกฎหมาย เพื่อบังคับให้บุหรี่ทุกยี่ห้อมีสีและรูปแบบซองเหมือนกันหมดนั้น ร้อยละ 83.50 มองว่า จะทำให้เกิดบุหรี่ปลอมมากขึ้น และ ร้อยละ 82.33 มองว่า จะส่งผลให้ผู้บริโภคจะไปหาของถูกในตลาดมืดที่ซองบุหรี่ยังมีตราสินค้าและหาซื้อได้ในราคาถูกกว่า ตลอดจนส่งผลจัดให้มีความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดสต๊อกสินค้าขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. โดยมีการบัญญัติข้อบังคับใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า อาทิ กำหนดอายุผู้ขายไม่ต่ำกว่า 18 ปี ห้ามร้านค้าแบ่งขายเป็นมวน ห้ามแสดงป้ายราคา ห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน และข้อกำหนดเรื่องซองเรียบ โดยซองบุหรี่ทุกยี่ห้อต้องใช้สีเดียวกันหมดและห้ามพิมพ์โลโก้หรือเครื่องหมายการค้าใดๆ
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวถึงผลสำรวจดังกล่าวว่า เป็นสิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า ร้านค้ามีความกังวลอย่างแท้จริงต่อร่างกฎหมายที่มีความสุดโต่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องซองเรียบ ที่คนค้าขายมองว่าจะทำให้เกิดบุหรี่ปลอมมากขึ้น สร้างภาระร้านค้าสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้าสมาชิกของสมาคมฯได้แต่หวังว่า สนช. จะมีการรับฟังปัญหาและผลกระทบนี้อย่างจริงจังและแก้ไขกฎหมายไม่ให้มาสร้างภาระกับร้านค้าโชห่วยเล็กๆอีก แล้ววันนี้เราก็จะไลฟ์ผ่านเฟสบุ้ค ‘NO TPCA เราคัดค้านร่างพรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ’ เพื่อแจ้งให้สมาชิกของเราทราบผลสำรวจอีกทางด้วย.