ผู้จัดการรายวัน 360 - “เบสท์รินฯ” อ่วมหนัก หลัง กรมศุลกากร โชว์หลักฐานเด็ดรถเมล์ NGV ประกอบจากจีนทั้งคัน ฟาก ขสมก. ยกเลิกสัญญาซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน พร้อมยึดเงินประกัน 330 ล้านบาท มีผลทันที 9 ก.พ.60 “ผอ.ขสมก.” เผยทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าแล้ว 30 วันตามขั้นตอน เตรียมหารือบอร์ด ขสมก. เดินหน้าประมูลใหม่ คาดต้องปรับ TOR ให้รอบคอบขึ้น นายกฯ ย้ำเป็นปัญหาของชาติที่ต้องรีบแก้ไข
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายสมควร นาสนม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ 1 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจรับรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน ว่า ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาไปยัง บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจะมีผลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ซึ่งเป็นการแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ตามกระบวนการ เนื่องจาก บริษัท เบสท์รินฯ ไม่สามารถส่งมอบรถให้ได้ตามสัญญา
สำหรับรถเมล์ NGV ที่มีการจดทะเบียนแล้วบางส่วนในชื่อ ขสมก. แต่เนื่องจากไม่ได้มีการตรวจรับ ดังนั้นจึงยังไม่ถือว่ารถดังกล่าวเป็นสมบัติของ ขสมก. ซึ่งหลังการยกเลิกสัญญาแล้ว มีผลให้ ขสมก. ต้องดำเนินการจัดหารถเมล์ใหม่จำนวน 489 คันทันที โดยตนได้รับรายงานว่าอาจจะต้องมีการทบทวนร่าง TOR ให้มีความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น แม้จะมีการระบุว่ากระบวนการจัดซื้อตาม TOR จนถึงลงนามสัญญาไม่พบปัญหา แต่มีปัญหาช่วงการนำเข้าและส่งมอบก็ตาม แต่ ขสมก. ก็คงต้องทบทวนเพื่อปรับแก้ในส่วนของขั้นตอนการรับมอบไม่ให้เกิดความล่าช้าในการประมูลใหม่
“ขสมก.จะต้องเดินหน้าการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน เพราะเป็นมติเดิมของคณะรัฐมนตรี และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนในกรณีเปิดประมูลใหม่แล้ว บริษัท เบสท์รินฯ จะถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่นั้น อยู่ที่ ขสมก. จะกำหนดเงื่อนไขใน TOR ใหม่ ส่วนการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คันนั้น กระทรวงคมนาคม ได้เสนอไปยัง ครม. แล้ว” นายพิชิตกล่าว
*** ขสมก. แจงส่งหนังสือแจ้งครบ 30 วัน ***
ด้าน นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ขสมก. จะทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญากับ บริษัท เบสท์รินฯ ซึ่งจะมีผลทันทีเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ขสมก. ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง เบสท์รินฯแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อให้เร่งรัดส่งมอบรถเมล์ NGV ตามสัญญา พร้อมให้ทำแผนการส่งมอบให้ครบภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้
ทั้งนี้ ตามสัญญากำหนดค่าปรับในการส่งมอบรถล่าช้า โดยมีหนังสือค้ำประกันวงเงิน 330 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงิน 10% ของมูลค่าสัญญา ซึ่งนับจากวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ที่ครบกำหนดส่งมอบรถ เงินค่าปรับจะครบวงเงินค้ำประกันที่วางมัดจำไว้ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560
*** นายกฯ ไม่ขัด ขสมก. ยกเลิกสัญญา ***
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เนื่องจากมีปัญหาการสำแดงภาษีเป็นเท็จว่า ตนเคารพผลสรุปการตรวจสอบโดย กรมศุลกากร ต่อกรณีที่มีการสำแดงภาษีเป็นเท็จซึ่งถือเป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวน ส่วน ขสมก. จะทำโครงการจัดซื้อรถเมล์ขึ้นมาใหม่ก็ให้ดำเนินการมาในภายหลัง
“นี่คือปัญหาของประเทศของเรา ถ้าทุกคนบอกตรงกันว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ก็ต้องมองทั้งในแง่ของการจับตาจากภายนอกและจากภาคีภาครัฐ อีกทั้งยังต้องไปดูด้วยว่าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นจะแก้ไขเรื่องของผู้ให้และผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างไร แม้ตอนนี้เรากำลังไล่ปรับแก้ไปมากแล้วแต่ปัญหานี้ก็ยังมีอยู่ อีกทั้งปัญหาเรื่องการให้และเรียกรับผลประโยชน์ในบางเรื่องเกิดขึ้นพอกพูนทับซ้อนกันมาตั้งแต่อดีต แต่เรายังพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังแก้ไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม” นายกรัฐมนตรีกล่าว
*** กรมศุลฯ โชว์หลักฐานมัดรถเมล์ NGV นำเข้าจากจีนทั้งคัน ***
ด้าน นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมศุลกากร ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถเมล์ NGV ของ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด มากพอสมควรว่าเป็นรถที่ประกอบในประเทศจีน โดยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แสดงหลักฐานภาพถ่ายรถเมล์ NGV ที่ประกอบเรียบร้อยทั้งคันมาจากประเทศจีน แล้วนำมาลงที่ท่าเรือในประเทศมาเลเซียเพื่อเตรียมจัดส่งให้ บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีให้ บริษัท เบสท์รินฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าเป็นการนำรถเข้ามาจากจีนทั้งคันโดยไม่ได้นำเข้าและประกอบในประเทศมาเลเซีย เพื่อขอรับสิทธิการลดหย่อนภาษีนำเข้า 40% ภายใต้ข้อตกลงในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ส่วนเอกสารอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อรูปคดีหากขบวนการฟ้องร้องถึงชั้นศาล
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายสมควร นาสนม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ 1 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจรับรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน ว่า ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาไปยัง บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจะมีผลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ซึ่งเป็นการแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ตามกระบวนการ เนื่องจาก บริษัท เบสท์รินฯ ไม่สามารถส่งมอบรถให้ได้ตามสัญญา
สำหรับรถเมล์ NGV ที่มีการจดทะเบียนแล้วบางส่วนในชื่อ ขสมก. แต่เนื่องจากไม่ได้มีการตรวจรับ ดังนั้นจึงยังไม่ถือว่ารถดังกล่าวเป็นสมบัติของ ขสมก. ซึ่งหลังการยกเลิกสัญญาแล้ว มีผลให้ ขสมก. ต้องดำเนินการจัดหารถเมล์ใหม่จำนวน 489 คันทันที โดยตนได้รับรายงานว่าอาจจะต้องมีการทบทวนร่าง TOR ให้มีความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น แม้จะมีการระบุว่ากระบวนการจัดซื้อตาม TOR จนถึงลงนามสัญญาไม่พบปัญหา แต่มีปัญหาช่วงการนำเข้าและส่งมอบก็ตาม แต่ ขสมก. ก็คงต้องทบทวนเพื่อปรับแก้ในส่วนของขั้นตอนการรับมอบไม่ให้เกิดความล่าช้าในการประมูลใหม่
“ขสมก.จะต้องเดินหน้าการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน เพราะเป็นมติเดิมของคณะรัฐมนตรี และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนในกรณีเปิดประมูลใหม่แล้ว บริษัท เบสท์รินฯ จะถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่นั้น อยู่ที่ ขสมก. จะกำหนดเงื่อนไขใน TOR ใหม่ ส่วนการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คันนั้น กระทรวงคมนาคม ได้เสนอไปยัง ครม. แล้ว” นายพิชิตกล่าว
*** ขสมก. แจงส่งหนังสือแจ้งครบ 30 วัน ***
ด้าน นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ขสมก. จะทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญากับ บริษัท เบสท์รินฯ ซึ่งจะมีผลทันทีเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ขสมก. ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง เบสท์รินฯแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อให้เร่งรัดส่งมอบรถเมล์ NGV ตามสัญญา พร้อมให้ทำแผนการส่งมอบให้ครบภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ศกนี้
ทั้งนี้ ตามสัญญากำหนดค่าปรับในการส่งมอบรถล่าช้า โดยมีหนังสือค้ำประกันวงเงิน 330 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงิน 10% ของมูลค่าสัญญา ซึ่งนับจากวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ที่ครบกำหนดส่งมอบรถ เงินค่าปรับจะครบวงเงินค้ำประกันที่วางมัดจำไว้ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560
*** นายกฯ ไม่ขัด ขสมก. ยกเลิกสัญญา ***
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เนื่องจากมีปัญหาการสำแดงภาษีเป็นเท็จว่า ตนเคารพผลสรุปการตรวจสอบโดย กรมศุลกากร ต่อกรณีที่มีการสำแดงภาษีเป็นเท็จซึ่งถือเป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวน ส่วน ขสมก. จะทำโครงการจัดซื้อรถเมล์ขึ้นมาใหม่ก็ให้ดำเนินการมาในภายหลัง
“นี่คือปัญหาของประเทศของเรา ถ้าทุกคนบอกตรงกันว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ก็ต้องมองทั้งในแง่ของการจับตาจากภายนอกและจากภาคีภาครัฐ อีกทั้งยังต้องไปดูด้วยว่าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นจะแก้ไขเรื่องของผู้ให้และผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างไร แม้ตอนนี้เรากำลังไล่ปรับแก้ไปมากแล้วแต่ปัญหานี้ก็ยังมีอยู่ อีกทั้งปัญหาเรื่องการให้และเรียกรับผลประโยชน์ในบางเรื่องเกิดขึ้นพอกพูนทับซ้อนกันมาตั้งแต่อดีต แต่เรายังพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังแก้ไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม” นายกรัฐมนตรีกล่าว
*** กรมศุลฯ โชว์หลักฐานมัดรถเมล์ NGV นำเข้าจากจีนทั้งคัน ***
ด้าน นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมศุลกากร ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถเมล์ NGV ของ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด มากพอสมควรว่าเป็นรถที่ประกอบในประเทศจีน โดยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แสดงหลักฐานภาพถ่ายรถเมล์ NGV ที่ประกอบเรียบร้อยทั้งคันมาจากประเทศจีน แล้วนำมาลงที่ท่าเรือในประเทศมาเลเซียเพื่อเตรียมจัดส่งให้ บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีให้ บริษัท เบสท์รินฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าเป็นการนำรถเข้ามาจากจีนทั้งคันโดยไม่ได้นำเข้าและประกอบในประเทศมาเลเซีย เพื่อขอรับสิทธิการลดหย่อนภาษีนำเข้า 40% ภายใต้ข้อตกลงในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ส่วนเอกสารอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อรูปคดีหากขบวนการฟ้องร้องถึงชั้นศาล