คู่รักหยุดโลกที่ครั้งหนึ่งแวดวงไฮโซและวงการบันเทิงยกให้เป็น "กิ่งทองใบหยก" หลายคนคงไม่ลืม นางเอก ม.ดาราเจ้าบทบาททั้งจอแก้ว และจอเงิน ส่วนชายผู้โชคดี แต่เขาก็เป็นหนุ่มในฝันของสาวไทยหลายคน หากเอ่ยชื่อสารวัตร ก.บรรดามิตรรักแฟนเพลงประเภทชีวิตรักดาราน่าจะเดากันไม่ยาก
"หมิว"ลลิตา ปัญโญภาส (ศศิประภา) คือ นางเอกดาวค้างฟ้า หากจะนับด้านชื่อเสียง ผลงานและฝีไม้ลายมือ "หมิว"ลลิตา คือนางเอกแถวหน้าตัวจริงเทียบเท่ากับนางเอกรุ่นแม่จารุวรรณ ปัญโญภาส คือเพชรา เยาวราช และรุ่นคุณอา คือ จารุณี สุขสวัสดิ์
"หมิว"ลลิตา คือ ดาราเจ้าบทบาทตัวจริง-เสียงจริงทั้งใจจอแก้ว และวงการภาพยนตร์ แม้เธอจะหลังหลังให้กับวงการมายาไปอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "หมิว"ลลิตา คือนางเอกทั้งในจอและนอกจอของแฟนๆ ทุกคน
จึงไม่แปลกอะไรที่ข่าว "เตียงหัก" แยกทางกับสารวัตรก้อง พ.ต.ท.นรบดี ศศิประภา ทายาทนายทหารคนดัง "ขาใหญ่" ระดับเจ้าพ่อเรียกเฮีย มาเฟียเรียกพี่ (พล.อ.อรรคเดช ศศิประภา) จะสร้างความรู้สึกประหลาดใจให้กับบรรดามิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย ไม่เว้นกระทั่งบรรดานักข่าวสายบันเทิงทุกสำนัก จนหลายคนต้องตั้งหลัก-ดึงสติถามกันวุ่นว่า จริงหรือ เลิกกันนานหรือยัง ด้วยสาเหตุอะไร !!??
หลายคนไม่อยากเชื่อแม้ก่อนหน้าจะมีข่าว "เขย่าเตียง" ออกมาเป็นระยะๆ จนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลุดมาจากปากของนางเอก "หมิว"ลติตา เอง แต่ก็เป็นการปฏิเสธมิได้มีเรื่องค้างคาใจจนอาจเดินหน้าชีวิตคู่ต่อไปไม่ได้
"หมิว" ยอมรับว่าเธอก็เหมือนกับคู่ผัวตัวเมียอื่นๆ คือ ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง มีทั้งสุขและทุกข์แต่ผู้คนภายนอกอาจจะเห็นแต่ภาพอบอุ่น ภาพครอบครัวที่มีครบถ้วนจนอาจลืมไปว่าครอบครัวของเธอก็คือปุถุชนคนธรรมดาเช่นกัน
สุดท้ายของการให้สัมภาษณ์ "หมิว"ลลิตา ฝากข้อคิดไว้ว่าวิธีลืม หรือการให้อภัยคือคาถาที่เชื่อว่าจะสามารถรักษาครอบครัวเอาไว้ได้
"หมิว"ลลิตา บอกกับนักข่าวไว้เพียงเดือนเดียว วันที่ 21 ธ.ค.2559 หรือเกือบ 16 ปีแห่งความหลังทั้งก้อง และหมิว ต่างตกลงจบชีวิตคู่ด้วยการขับรถไปยังสำนักงานเขตดอนเมือง คนละคันแล้วขอร้องให้นายทะเบียนลงมาจัดทำเอกสารการหย่าร้างให้ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวทีมข่าวผู้จัดการได้นำเสนอไปก่อนหน้าแล้ว
ท่ามกลางความสนใจจากบรรดาแฟนคลับคู่รัก "หมิว-ก้อง"มีคำถามต่างๆ อย่างมากมาย ข่าวยืนยันขนาดนั้น เรื่องยกเมฆ-นั่งเทียนคงเป็นไปไม่ได้ แต่ทำไมไม่นำเสนออย่างละเอียด เลิกกันเพราะอะไร ใครผิดใครคือสาเหตุ รุกเร้ากันขนาดนี้จนไม่อาจเอาใจท่านผู้มีอุปาระคุณได้ถูก!!??
เอาเป็นว่าในเบื้องต้น ถ้าฝ่ายหมิว และก้อง ยังกบดานเงียบไม่ออกมาไขข้องสงสัย ก็คงต้องใช้วิทยายุทธไปคุ้ยแคะแกะเกาหาสำเนาใบหย่าจากสำนักงานเขตดอนเมือง มารับรองข้อเท็จจริงกันให้ได้ ส่วนสาเหตุเบื้องหน้าเบื้องหลัง ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ผิดหรือถูก อันนี้ใครหน้าไหนก็ไม่อาจยืนยันได้เพราะ "ชีวิตคู่" มันเป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องของ "ผัวเมีย" ถ้ารู้ได้ รู้จริงอาจจะหมายความว่าคงแอบอยู่ใต้เตียง หรือเป็นเงาคอยติดตามครอบครัวหมิว-ก้อง อยู่ตลอดเวลา 16 ปี
แต่เพื่อสนองบรรดาแฟนคลับ หรือชมรมคนสอดรู้ หลักทั่วไปเรื่องของคนสองคน ฝ่ายหนึ่งเป็นผัว ฝ่ายหนึ่งเป็นเมีย มันต้องมีใครคนใดคนหนึ่งล่ะที่เป็นสาเหตุ หรืออาจจะมาจากทั้งคู่ ไม่ต้องประหลาดใจกับคู่ "หมิว-ก้อง" แม้แต่คู่รักเขย่าระดับโลกแองเจลิน่า โจลี่ กับคุณพี่แบรด พิตต์ นางเอก-พระเอก พันล้านตัวจริงเสียงจริงยังเรือล่มปากอ่าวปิดฉากความรัก 12 ปี ครอบครัวแสนอบอุ่นให้เห็นเป็นขวัญตากันมาแล้ว
ก่อนเซ็นใบหย่า "หมิว" เองก็เหมือนจะบอกใบ้กับพี่ๆ นักข่าว ที่ออกตัวว่าครอบครัวเธอก็เหมือนกับครอบครัวคนทั่วไป ที่มีทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งผิดและถูก และวิธีที่จะให้ครอบครัวอยู่รอดก็คือ "การลืม" ความผิด กับการให้อภัย
เท่าที่ได้ฟังจากผู้ใก้ลชิดครอบครัวสารวัตรก้อง ซึ่งความจริงหน้าที่การงานของ พ.ต.ท.นรบดี ศศิประภา ตอนนี้เป็น รองผกก.ตรวจคนเข้าเมือง ประจำจังหวัดนครปฐม ทีมข่าวผู้จัดการทราบมาว่าเกิดความกระทบกระทั่งกันมานานพอสมควรแล้ว
เหตุผลหนึ่งอาจจะมาจากฝ่ายหญิง แม้จะสุขสบาย เพราะข้างสามีมีทั้งชื่อเสียง มีฐานะทางสังคม และเรื่องเศรษฐกิจของครอบครัวก็อยู่ในขั้นมีกินมีใช้เหลือเฟือ แต่อาจเป็นเพราะต้องอยู่ในสายตาผู้หลักผู้ใหญ่สกุลศศิประภาโดยตลอด ชีวิตครอบครัวยาวนาน 15-16 ปีนี้จึงอาจสร้างความอึดอัดให้ได้
แต่ที่สำคัญ และค่อนข้างซีเรียส ก็คือ หน้าที่การงานของ สารวัตรก้อง หรือ รองฯ ก้อง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ เวลาที่ให้กับครอบครัวจึงไม่เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ฝ่ายชายจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักครอบครัว รักลูกรักภรรยาอย่างที่สุด ขณะเดียวกันชีวิตส่วนตัวอีกด้านหนึ่งที่มีเพื่อนฝูงหลายคน ย่อมมีการพบปะสังสวรรค์ เฮฮาปาร์ตี้กันตามประสา
สิ่งที่ทั้ง 2 ต้องหันหลังให้กัน ชีวิตรักต้องสะบั้นจากกันมีคนบอกว่าเพียงเพราะคำขาดไม่ให้คบค้าสมาคมกับเพื่อนๆ และให้หันมาใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น เมื่อเกิดความเห็นต่าง ความขัดแย้งที่สะสมกันตลอดเวลา 16 ปีจึงถูกนำมาผสมปนเป จากเรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นประเด็นสู่ความไม่เข้าอกเข้าใจถึงขั้นไม่อาจใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปได้
แน่นอนว่าคนเป็นแม่และภรรยา ย่อมมีมุมมองในอีกด้าน แต่คนเป็นพ่อและเป็นสามี และยิ่งเติบโตมากับครอบครัวทหาร พร้อมกับวัฒนะธรรมของครอบครัวที่มีสังคมเพื่อนฝูงมากมายทุกสาขาอาชีพ
เมื่อความคิดไม่สามารถบรรจบกันได้ต่อไป เราคงไม่อาจตำหนิว่าใครผิดใครถูก แต่หวังว่าบทเรียนของครอบครัวอันแสนอบอุ่นของ "หมิว-ก้อง"น่าจะเป็นบทเรียนสอนใจคู่รักอื่นๆ ที่ควรศึกษาดูใจกันให้ดี หากตกล่องปล่องชิ้นกันไปแล้ว คาถาต่อไปก็คืออดทน และให้อภัย
อย่าให้เดินซ้ำรอยชมรมคนบ้านแตก เพราะไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านเดินดินกินข้างแกง หรือระดับโลกอย่างแองเจลิน่า โจลี่ กับคุณพี่แบรดพิตต์ คนที่ทุกข์ก็คือตัวคุณเองกับสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องอยู่ในภวังค์เศร้าโศกอีกพักใหญ่จนกว่าจะผ่านเหตุการณ์ไปได้ซึ่งไม่แน่ว่าต่อไปในอนาคตจะกระทบกับลูกๆ ที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยหรือเปล่า !!??
"หมิว"ลลิตา ปัญโญภาส (ศศิประภา) คือ นางเอกดาวค้างฟ้า หากจะนับด้านชื่อเสียง ผลงานและฝีไม้ลายมือ "หมิว"ลลิตา คือนางเอกแถวหน้าตัวจริงเทียบเท่ากับนางเอกรุ่นแม่จารุวรรณ ปัญโญภาส คือเพชรา เยาวราช และรุ่นคุณอา คือ จารุณี สุขสวัสดิ์
"หมิว"ลลิตา คือ ดาราเจ้าบทบาทตัวจริง-เสียงจริงทั้งใจจอแก้ว และวงการภาพยนตร์ แม้เธอจะหลังหลังให้กับวงการมายาไปอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "หมิว"ลลิตา คือนางเอกทั้งในจอและนอกจอของแฟนๆ ทุกคน
จึงไม่แปลกอะไรที่ข่าว "เตียงหัก" แยกทางกับสารวัตรก้อง พ.ต.ท.นรบดี ศศิประภา ทายาทนายทหารคนดัง "ขาใหญ่" ระดับเจ้าพ่อเรียกเฮีย มาเฟียเรียกพี่ (พล.อ.อรรคเดช ศศิประภา) จะสร้างความรู้สึกประหลาดใจให้กับบรรดามิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย ไม่เว้นกระทั่งบรรดานักข่าวสายบันเทิงทุกสำนัก จนหลายคนต้องตั้งหลัก-ดึงสติถามกันวุ่นว่า จริงหรือ เลิกกันนานหรือยัง ด้วยสาเหตุอะไร !!??
หลายคนไม่อยากเชื่อแม้ก่อนหน้าจะมีข่าว "เขย่าเตียง" ออกมาเป็นระยะๆ จนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลุดมาจากปากของนางเอก "หมิว"ลติตา เอง แต่ก็เป็นการปฏิเสธมิได้มีเรื่องค้างคาใจจนอาจเดินหน้าชีวิตคู่ต่อไปไม่ได้
"หมิว" ยอมรับว่าเธอก็เหมือนกับคู่ผัวตัวเมียอื่นๆ คือ ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง มีทั้งสุขและทุกข์แต่ผู้คนภายนอกอาจจะเห็นแต่ภาพอบอุ่น ภาพครอบครัวที่มีครบถ้วนจนอาจลืมไปว่าครอบครัวของเธอก็คือปุถุชนคนธรรมดาเช่นกัน
สุดท้ายของการให้สัมภาษณ์ "หมิว"ลลิตา ฝากข้อคิดไว้ว่าวิธีลืม หรือการให้อภัยคือคาถาที่เชื่อว่าจะสามารถรักษาครอบครัวเอาไว้ได้
"หมิว"ลลิตา บอกกับนักข่าวไว้เพียงเดือนเดียว วันที่ 21 ธ.ค.2559 หรือเกือบ 16 ปีแห่งความหลังทั้งก้อง และหมิว ต่างตกลงจบชีวิตคู่ด้วยการขับรถไปยังสำนักงานเขตดอนเมือง คนละคันแล้วขอร้องให้นายทะเบียนลงมาจัดทำเอกสารการหย่าร้างให้ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวทีมข่าวผู้จัดการได้นำเสนอไปก่อนหน้าแล้ว
ท่ามกลางความสนใจจากบรรดาแฟนคลับคู่รัก "หมิว-ก้อง"มีคำถามต่างๆ อย่างมากมาย ข่าวยืนยันขนาดนั้น เรื่องยกเมฆ-นั่งเทียนคงเป็นไปไม่ได้ แต่ทำไมไม่นำเสนออย่างละเอียด เลิกกันเพราะอะไร ใครผิดใครคือสาเหตุ รุกเร้ากันขนาดนี้จนไม่อาจเอาใจท่านผู้มีอุปาระคุณได้ถูก!!??
เอาเป็นว่าในเบื้องต้น ถ้าฝ่ายหมิว และก้อง ยังกบดานเงียบไม่ออกมาไขข้องสงสัย ก็คงต้องใช้วิทยายุทธไปคุ้ยแคะแกะเกาหาสำเนาใบหย่าจากสำนักงานเขตดอนเมือง มารับรองข้อเท็จจริงกันให้ได้ ส่วนสาเหตุเบื้องหน้าเบื้องหลัง ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ผิดหรือถูก อันนี้ใครหน้าไหนก็ไม่อาจยืนยันได้เพราะ "ชีวิตคู่" มันเป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องของ "ผัวเมีย" ถ้ารู้ได้ รู้จริงอาจจะหมายความว่าคงแอบอยู่ใต้เตียง หรือเป็นเงาคอยติดตามครอบครัวหมิว-ก้อง อยู่ตลอดเวลา 16 ปี
แต่เพื่อสนองบรรดาแฟนคลับ หรือชมรมคนสอดรู้ หลักทั่วไปเรื่องของคนสองคน ฝ่ายหนึ่งเป็นผัว ฝ่ายหนึ่งเป็นเมีย มันต้องมีใครคนใดคนหนึ่งล่ะที่เป็นสาเหตุ หรืออาจจะมาจากทั้งคู่ ไม่ต้องประหลาดใจกับคู่ "หมิว-ก้อง" แม้แต่คู่รักเขย่าระดับโลกแองเจลิน่า โจลี่ กับคุณพี่แบรด พิตต์ นางเอก-พระเอก พันล้านตัวจริงเสียงจริงยังเรือล่มปากอ่าวปิดฉากความรัก 12 ปี ครอบครัวแสนอบอุ่นให้เห็นเป็นขวัญตากันมาแล้ว
ก่อนเซ็นใบหย่า "หมิว" เองก็เหมือนจะบอกใบ้กับพี่ๆ นักข่าว ที่ออกตัวว่าครอบครัวเธอก็เหมือนกับครอบครัวคนทั่วไป ที่มีทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งผิดและถูก และวิธีที่จะให้ครอบครัวอยู่รอดก็คือ "การลืม" ความผิด กับการให้อภัย
เท่าที่ได้ฟังจากผู้ใก้ลชิดครอบครัวสารวัตรก้อง ซึ่งความจริงหน้าที่การงานของ พ.ต.ท.นรบดี ศศิประภา ตอนนี้เป็น รองผกก.ตรวจคนเข้าเมือง ประจำจังหวัดนครปฐม ทีมข่าวผู้จัดการทราบมาว่าเกิดความกระทบกระทั่งกันมานานพอสมควรแล้ว
เหตุผลหนึ่งอาจจะมาจากฝ่ายหญิง แม้จะสุขสบาย เพราะข้างสามีมีทั้งชื่อเสียง มีฐานะทางสังคม และเรื่องเศรษฐกิจของครอบครัวก็อยู่ในขั้นมีกินมีใช้เหลือเฟือ แต่อาจเป็นเพราะต้องอยู่ในสายตาผู้หลักผู้ใหญ่สกุลศศิประภาโดยตลอด ชีวิตครอบครัวยาวนาน 15-16 ปีนี้จึงอาจสร้างความอึดอัดให้ได้
แต่ที่สำคัญ และค่อนข้างซีเรียส ก็คือ หน้าที่การงานของ สารวัตรก้อง หรือ รองฯ ก้อง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ เวลาที่ให้กับครอบครัวจึงไม่เหมือนกับอาชีพอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ฝ่ายชายจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักครอบครัว รักลูกรักภรรยาอย่างที่สุด ขณะเดียวกันชีวิตส่วนตัวอีกด้านหนึ่งที่มีเพื่อนฝูงหลายคน ย่อมมีการพบปะสังสวรรค์ เฮฮาปาร์ตี้กันตามประสา
สิ่งที่ทั้ง 2 ต้องหันหลังให้กัน ชีวิตรักต้องสะบั้นจากกันมีคนบอกว่าเพียงเพราะคำขาดไม่ให้คบค้าสมาคมกับเพื่อนๆ และให้หันมาใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น เมื่อเกิดความเห็นต่าง ความขัดแย้งที่สะสมกันตลอดเวลา 16 ปีจึงถูกนำมาผสมปนเป จากเรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นประเด็นสู่ความไม่เข้าอกเข้าใจถึงขั้นไม่อาจใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปได้
แน่นอนว่าคนเป็นแม่และภรรยา ย่อมมีมุมมองในอีกด้าน แต่คนเป็นพ่อและเป็นสามี และยิ่งเติบโตมากับครอบครัวทหาร พร้อมกับวัฒนะธรรมของครอบครัวที่มีสังคมเพื่อนฝูงมากมายทุกสาขาอาชีพ
เมื่อความคิดไม่สามารถบรรจบกันได้ต่อไป เราคงไม่อาจตำหนิว่าใครผิดใครถูก แต่หวังว่าบทเรียนของครอบครัวอันแสนอบอุ่นของ "หมิว-ก้อง"น่าจะเป็นบทเรียนสอนใจคู่รักอื่นๆ ที่ควรศึกษาดูใจกันให้ดี หากตกล่องปล่องชิ้นกันไปแล้ว คาถาต่อไปก็คืออดทน และให้อภัย
อย่าให้เดินซ้ำรอยชมรมคนบ้านแตก เพราะไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านเดินดินกินข้างแกง หรือระดับโลกอย่างแองเจลิน่า โจลี่ กับคุณพี่แบรดพิตต์ คนที่ทุกข์ก็คือตัวคุณเองกับสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องอยู่ในภวังค์เศร้าโศกอีกพักใหญ่จนกว่าจะผ่านเหตุการณ์ไปได้ซึ่งไม่แน่ว่าต่อไปในอนาคตจะกระทบกับลูกๆ ที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยหรือเปล่า !!??