คู่รักบันเทิงเจ้าของฉายา“กิ่งทองใบหยก”สร้างความช็อกให้กับสถาบันครอบครัวครั้งนี้ เปิดเผยโดยผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท. "ก." ซึ่งกลายเป็นอดีตสามีนางเอกไปอย่างไม่น่าเชื่อว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.59 ชีวิตรักอันหวานชื่น ระหว่าง พ.ต.ท. "ก." ทายาทนายทหารคนดัง มีอันต้องถึงจุดจบ ไม่สามารถไปต่อได้ โดยฝ่ายชายพร้อมกับภรรยา นางเอก ม. หรือชื่อเต็มขึ้นต้นด้วยอักษร " ล." พากันเดินทางมายังสำนักงานเขตดอนเมือง เพื่อจดทะเบียนหย่า
แหล่งข่าวใกล้ชิด ระบุว่า วันดังกล่าวทั้งคู่ได้ประสานกับผู้ใหญ่ให้ช่วยอนุเคราะห์ทำการจดทะเบียนหย่า ด้วยการให้นายทะเบียน นำคำร้อง และเอกสารต่างๆ มาให้ พ.ต.ท. "ก." และนางเอก ม. ซึ่งต่างเดินทางมาด้วยรถเก๋งคนละคัน โดยทั้งคู่ไม่ยอมขึ้นไปสำนักงานเขตดอนเมือง เนื่องจากเกรงตกเป็นข่าวอื้อฉาว จึงขอให้นายทะเบียน ช่วยบริการหอบเอกสาร รวมทั้งตรวจความเรียบร้อยทำการจดทะเบียนหย่าในรถของ สารวัตร ก. และ นางเอก ม.นั่นเอง
เมื่อตรวจสอบหลักฐานถูกต้อง เห็นว่าเป็นความสมัครใจของทั้ง 2 นายทะเบียน จึงทำใบหย่าให้ตามประสงค์โดยมีข้อตกลงกันว่า นางเอกม. จะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองลูกชายที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นทั้ง 2 ส่วนทรัพย์สินส่วนใหญ่ ฝ่ายชายได้ยกให้กับนางเอก ม. เกือบทั้งหมด
สำหรับสาเหตุการหย่าร้าง ผู้ใกล้ชิดระบุว่า น่าจะมาจากผู้ใหญ่บางคนเห็นว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความรักของทั้งสองเริ่มเกิดความเย็นชา ทั้งนี้อาจจะมาจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งทางจิตใจ เมื่อคราวนางเอก ม. เดินทางปลีกวิเวกไปต่างประเทศนานแรมเดือน ทำให้ พ.ต.ท."ก." เกิดความกลัดกลุ้ม ถึงกับโกนศรีษะประท้วง ซึ่งในตอนนั้น ทั้งสองมีพยานรักกันแล้ว 1 คน ต่อมาเมื่อปรับความเข้าใจกันได้ ข่าวคราว“เตียงหัก”หรือรักร้าวคู่รัก“กิ่งทองใบหยก”เริ่มมีงานโฆษณาเข้ามาอีกหลายตัว โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการสื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น เป็นคู่รักและครอบครัวในฝัน ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมเลยทีเดียว
แต่หลังจากมีบุตรคนที่ 2 ความรักที่ทั้งคู่พยายามประคอง กลับดูเหมือนว่าค่อยๆ จืดจางลงแม้ พ.ต.ท."ก. " จะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักครอบครัว และรักลูกมาก แต่ยังไม่เพียงพอในสายตาของญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาบางคน ฉากชีวิตก็ต้องปิดลง ปีที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบว่า ข่าวคราวการออกสังคมแบบพร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัวนี้ เงียบหายไป กระทั่งจุดจบของชีวิตคู่มายุติลงดังกล่าว
"สารวัตร ก. เขาก็พยายามปรับตัว ทำทุกอย่างเพื่อให้ความสุขในครอบครัวกลับคืนมา แต่มีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงบางคน ไม่พยายามประสานรอยร้าวให้ หากจะว่ามีมือที่สามหรือไม่ ขอยืนยันว่า ไม่มี ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แต่น่าจะเป็นเรื่องความรักจืดจาง และฝ่ายหญิงอยากไปมีอนาคตใหม่ เพราะการหย่าร้าง ฝ่ายนางเอก ม. เป็นคนเอ่ยปากขอเองหลายครั้ง หลายหน จนสารวัตร ก. เขาก็ทนยื้อต่อไปไม่ไหว
ทุกวันนี้น่าเห็นใจ สารวัตร ก.มาก เขายังทำใจไม่ได้ ยังมีความผูกพันกับอดีตภรรยา และคิดถึงลูก แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสได้เจอลูกบ้าง แต่มิได้ปกครองลูกอีกต่อไป วันนี้อยากให้เขากลับมาดีกัน แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว" ผู้ใกล้ชิดครอบครัว พ.ต.ท. "ก." และนางเอก ม. แสดงความเห็นปิดท้าย
แหล่งข่าวใกล้ชิด ระบุว่า วันดังกล่าวทั้งคู่ได้ประสานกับผู้ใหญ่ให้ช่วยอนุเคราะห์ทำการจดทะเบียนหย่า ด้วยการให้นายทะเบียน นำคำร้อง และเอกสารต่างๆ มาให้ พ.ต.ท. "ก." และนางเอก ม. ซึ่งต่างเดินทางมาด้วยรถเก๋งคนละคัน โดยทั้งคู่ไม่ยอมขึ้นไปสำนักงานเขตดอนเมือง เนื่องจากเกรงตกเป็นข่าวอื้อฉาว จึงขอให้นายทะเบียน ช่วยบริการหอบเอกสาร รวมทั้งตรวจความเรียบร้อยทำการจดทะเบียนหย่าในรถของ สารวัตร ก. และ นางเอก ม.นั่นเอง
เมื่อตรวจสอบหลักฐานถูกต้อง เห็นว่าเป็นความสมัครใจของทั้ง 2 นายทะเบียน จึงทำใบหย่าให้ตามประสงค์โดยมีข้อตกลงกันว่า นางเอกม. จะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองลูกชายที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นทั้ง 2 ส่วนทรัพย์สินส่วนใหญ่ ฝ่ายชายได้ยกให้กับนางเอก ม. เกือบทั้งหมด
สำหรับสาเหตุการหย่าร้าง ผู้ใกล้ชิดระบุว่า น่าจะมาจากผู้ใหญ่บางคนเห็นว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความรักของทั้งสองเริ่มเกิดความเย็นชา ทั้งนี้อาจจะมาจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งทางจิตใจ เมื่อคราวนางเอก ม. เดินทางปลีกวิเวกไปต่างประเทศนานแรมเดือน ทำให้ พ.ต.ท."ก." เกิดความกลัดกลุ้ม ถึงกับโกนศรีษะประท้วง ซึ่งในตอนนั้น ทั้งสองมีพยานรักกันแล้ว 1 คน ต่อมาเมื่อปรับความเข้าใจกันได้ ข่าวคราว“เตียงหัก”หรือรักร้าวคู่รัก“กิ่งทองใบหยก”เริ่มมีงานโฆษณาเข้ามาอีกหลายตัว โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการสื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น เป็นคู่รักและครอบครัวในฝัน ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมเลยทีเดียว
แต่หลังจากมีบุตรคนที่ 2 ความรักที่ทั้งคู่พยายามประคอง กลับดูเหมือนว่าค่อยๆ จืดจางลงแม้ พ.ต.ท."ก. " จะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักครอบครัว และรักลูกมาก แต่ยังไม่เพียงพอในสายตาของญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาบางคน ฉากชีวิตก็ต้องปิดลง ปีที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบว่า ข่าวคราวการออกสังคมแบบพร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัวนี้ เงียบหายไป กระทั่งจุดจบของชีวิตคู่มายุติลงดังกล่าว
"สารวัตร ก. เขาก็พยายามปรับตัว ทำทุกอย่างเพื่อให้ความสุขในครอบครัวกลับคืนมา แต่มีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงบางคน ไม่พยายามประสานรอยร้าวให้ หากจะว่ามีมือที่สามหรือไม่ ขอยืนยันว่า ไม่มี ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แต่น่าจะเป็นเรื่องความรักจืดจาง และฝ่ายหญิงอยากไปมีอนาคตใหม่ เพราะการหย่าร้าง ฝ่ายนางเอก ม. เป็นคนเอ่ยปากขอเองหลายครั้ง หลายหน จนสารวัตร ก. เขาก็ทนยื้อต่อไปไม่ไหว
ทุกวันนี้น่าเห็นใจ สารวัตร ก.มาก เขายังทำใจไม่ได้ ยังมีความผูกพันกับอดีตภรรยา และคิดถึงลูก แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสได้เจอลูกบ้าง แต่มิได้ปกครองลูกอีกต่อไป วันนี้อยากให้เขากลับมาดีกัน แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว" ผู้ใกล้ชิดครอบครัว พ.ต.ท. "ก." และนางเอก ม. แสดงความเห็นปิดท้าย