xs
xsm
sm
md
lg

ฉัพพรรณรังสีของ “อภิสิทธิ์”/ทับทิม พญาไท

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


อ่านข่าวท่านอดีตนายกฯ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ไปพูดที่สถาบันพระปกเกล้า เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา งานนี้...ต้องเรียกว่า “ฉัพพรรณรังสี” ที่เคยหมองๆ ลงไปเยอะ หลังจากบ้านเมืองต้องอยู่ในช่วง “ระยะผ่าน” มาเกือบ 3 ปีเต็มๆ ชักทำท่าว่าน่าจะ “เปล่งรัศมี” ขึ้นมาบ้างแล้วนิดๆ ยิ่งเมื่อได้ฟังคำพูดแบบสั้นๆ ง่ายๆ ตรงไป-ตรงมา ที่ระบุเอาไว้ว่า “อีกไม่กี่วัน...ท่านนายกฯ (บิ๊กตู่) จะต้องตัดสินใจเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งผมขอพูดตรงๆ ว่า ถ้าหากท่านตกลงจะสร้าง และถ้าผมมีโอกาสเป็นรัฐบาล ถ้าเลิกได้ ผมจะเลิกทันที เพราะปัจจุบันโรงงานไฟฟ้าถ่านหินนั้น ไม่ได้มีส่วนสำคัญกับความมั่นคงทางพลังงานมากมายนัก เพราะมันน่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน อย่างโรงไฟฟ้าน้ำมันปาล์มมากกว่า...”

นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ แต่งานนี้...น่าจะ “ได้ใจ” ใครต่อใครแบบเต็มๆ เนื้อๆ เพราะคงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า โดยแนวโน้มความเป็นไปของโลกแทบจะทั้งโลก นับจากนี้เป็นต้นไป สิ่งที่เรียกว่า “ความมั่นคงทางพลังงาน” นั้น มันจำต้องใส่ “หมายเหตุ” ในเรื่อง “ความมั่นคงทางด้านสิ่งแวดล้อม” เข้าไปด้วย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น และบรรดาพลังงานที่ไม่ได้ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ทั้งหลาย ไม่ว่าน้ำมัน แก๊ส และโดยเฉพาะพลังงานถูกๆ อย่าง “ถ่านหิน” ด้วยแล้ว ออกจะเป็นอะไรที่ “ไดโนเสาร์-เต่าล้านปี” หนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าสำหรับประเทศประชาธิปไตย หรือเผด็จการก็ตามแต่...

ไม่งั้น...เผด็จการคอมมิวนิสต์จีนที่มี “อำนาจรวมศูนย์” ยิ่งกว่ามาตราฉี่ฉิบฉี่อยู่ในมือไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เขาคงไม่ตัดสินใจปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินภายในประเทศไปถึง 85 โรง เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ยกเลิกโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้ากั้น “แม่น้ำนู” (Nu River) หรือที่เรียกๆ กันในหมู่ชาวพม่าและชาวไทยว่า “แม่น้ำสาละวิน” (Salween River) รวดเดียวถึง 13 โครงการด้วยกัน จากนั้น...หันไปทุ่มเท ทุ่มทุน ยอมควักเม็ดเงินจากภาษีอากรของราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อใช้รองรับ “ยุทธศาสตร์ชาติ” ด้านพลังงานตลอดช่วงระยะ 5 ปี นับจากนี้ หรือยุทธศาสตร์ที่จะนำพาประเทศจีนไปสู่ความเป็น “อารยธรรมแห่งนิเวศน์” ให้จงได้...

อะไรถูก-อะไรผิด อะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ...นั่นคงต้องไปว่ากันอีกที แต่ถ้ามองกันในแง่ “วิสัยทัศน์” หรือ “ปรีชาญาณ” ก็แล้วแต่ คงต้องยอมรับว่า... “วิชั่น” ของท่านอดีตนายกฯ “อภิสิทธิ์” นั้น ออกจะสอดคล้องต้องกันกับความเป็นไปของโลกในอนาคตข้างหน้ามิใช่น้อย ไม่ได้ออกไปทาง “วิสั้น” ซึ่งอาจถูกนำไปบรรจุไว้ในแผนระยะยาวระดับ 20-30 ปีใดๆ ก็ตาม “ฉัพพรรณรังสี” ที่เคยหมองๆ ไปบ้าง ในบางเรื่อง บางกรณี เลยชักทำท่าว่าเริ่มๆ สาดส่องแวบๆ แวมๆ จากบางเรื่องบางกรณีที่แยกไม่ออกไปจาก “อนาคตประเทศไทย” ในระยะข้างหน้า ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ...

คือเรื่องของชาติบ้านเมืองนั้น...อะไรดี-ไม่ดี อะไรถูกๆ- ผิดๆ มันค่อนข้างจะหา “คำจำกัดความ” ลำบากอยู่บ้างตามสมควร เพราะสิ่งเคยดูดีในช่วงหนึ่ง อาจดูไม่ดีในอีกช่วงหนึ่ง...ก็เป็นได้ คือมันออกจะเป็น “สิ่งสัมพัทธ์” ไม่ใช่ “สิ่งสัมบูรณ์” หรือเป็นเรื่องของความเหมาะ-ไม่เหมาะ มากกว่าดี-ไม่ดี อะไรทำนองนั้น ดังนั้น...แม้ว่าบางเรื่องบางกรณีอาจทำให้ “นักการเมือง” อย่างท่านอดีตนายกฯ “อภิสิทธิ์” ดูแย่ ดูไม่ดี หนักไปทางประเภท “สลิ่ม” หรือ “แมงสาบ” หรืออะไรต่อมิอะไรแล้วแต่ใครจะประดิษฐ์คิดค้นฉายาให้ แต่ไม่เพียงเฉพาะแค่เรื่อง “พลังงาน” เท่านั้น....ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแม้เพียงระยะสั้นๆ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภายใต้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของท่านนายกฯ “อภิสิทธิ์” นั้น ก็มี “บางเรื่อง-บางกรณี” อยู่บ้างเช่นกัน ที่พอนำมาใช้เป็นข้อพิสูจน์ยืนยันว่า เอาไป-เอามาแล้ว...ท่านอาจ “เหมาะ” กับสภาพความเป็นไปของบ้านเมืองในอนาคตข้างหน้าอยู่ไม่น้อย เพราะแม้ว่ามันมี “บางเรื่อง บางกรณี” ที่รัฐบาลประชาธิปไตยทำไม่ได้ แต่รัฐบาลเผด็จการทำได้ แต่มันก็มี “บางเรื่อง บางกรณี” อีกเช่นกัน ที่รัฐบาลเผด็จการทำไม่ได้ แต่รัฐบาลประชาธิปไตยทำได้ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น