บช.ปส.จับเครือข่ายยาเสพติด “ไซซะนะ” ยึดยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด ไอซ์ 87 กิโลกรัม เผยพบความเคลื่อนไหวกลุ่มวงการบันเทิง ไฮโซ และวงการรถหรู เกี่ยวข้องเพื่อทำหน้าที่ฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด เตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีพร้อมชงป.ป.ง.ตามยึดทรัพย์
วานนี้ (1 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายม่าง ย่างคีรี อายุ 38 ปี ที่อยู่ 15/1 หมู่ 1 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมพวกชาวม้ง ยึดยาบ้าจำนวน 720,000 เม็ด
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตรวจสามารถตรวจยึดยาไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดผลึกสีขาวใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม จำนวน 87 ถุง รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 87 กิโลกรัม กัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 24.10 กรัม และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน PEM 1957 จำนวน 1 คัน หลังทำการเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 793/9 หมู่บ้านชยนันท์ เฟส 2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และบริเวณหน้าบริษัทออร์เนท กรุ๊ป ถ.เพชรเกษม ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดรายใหญ่ ที่ถูกทางการไทยจับกุมได้ก่อนหน้านี้ และกลุ่มผู้ต้องหาจะรับงานจากกลุ่มม้งชาวไทยที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะลำเลียงยาเสพติดมาส่งตามจุด
ด้านพล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า หลังตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติดของนายเล่าต๋า และนายไซซะนะ เครือข่ายได้กระจายจำหน่ายยาเสพติดหลายพื้นที่ บางส่วนหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน และส่งยาเสพติดตามชายแดน ก่อนนำเข้ามาพักที่บ้านที่อยู่ลับตาคน ในพื้นที่ปริมณฑล และกระจายเข้าสู่กรุงเทพฯ
ล่าสุด จากการจับกุมผู้ต้องหาชาวม้ง 3 คน ที่ลักลอบขนยาบ้า 720,000 เม็ด พบเป็นเครือข่ายของนายไซซะนะ และมีความชำนาญในพื้นที่ รู้ความเคลื่อนไหวของตำรวจท้องที่ จึงต้องใช้ชุดปฏิบัติการพิเศษติดตามจับกุม ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้จะรับยาเสพติดจากเครือข่ายชาวม้งที่มีหมายจับในประเทศไทย และหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ มีผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินให้การซัดทอด ว่า มีเครือข่ายของนายไซซะนะแฝงตัวอยู่ในหลายวงการ โดยเฉพาะวงการไฮโซ วงการบันเทิง และวงการรถหรู ทำหน้าที่ดูแลและโยกย้ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด โดย ปส. จะมีการประชุมร่วมเจ้าหน้าที่ ปปง.และ ป.ป.ส. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี ต่อไป
วานนี้ (1 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายม่าง ย่างคีรี อายุ 38 ปี ที่อยู่ 15/1 หมู่ 1 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมพวกชาวม้ง ยึดยาบ้าจำนวน 720,000 เม็ด
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตรวจสามารถตรวจยึดยาไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดผลึกสีขาวใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม จำนวน 87 ถุง รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 87 กิโลกรัม กัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 24.10 กรัม และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน PEM 1957 จำนวน 1 คัน หลังทำการเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 793/9 หมู่บ้านชยนันท์ เฟส 2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และบริเวณหน้าบริษัทออร์เนท กรุ๊ป ถ.เพชรเกษม ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดรายใหญ่ ที่ถูกทางการไทยจับกุมได้ก่อนหน้านี้ และกลุ่มผู้ต้องหาจะรับงานจากกลุ่มม้งชาวไทยที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะลำเลียงยาเสพติดมาส่งตามจุด
ด้านพล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า หลังตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติดของนายเล่าต๋า และนายไซซะนะ เครือข่ายได้กระจายจำหน่ายยาเสพติดหลายพื้นที่ บางส่วนหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน และส่งยาเสพติดตามชายแดน ก่อนนำเข้ามาพักที่บ้านที่อยู่ลับตาคน ในพื้นที่ปริมณฑล และกระจายเข้าสู่กรุงเทพฯ
ล่าสุด จากการจับกุมผู้ต้องหาชาวม้ง 3 คน ที่ลักลอบขนยาบ้า 720,000 เม็ด พบเป็นเครือข่ายของนายไซซะนะ และมีความชำนาญในพื้นที่ รู้ความเคลื่อนไหวของตำรวจท้องที่ จึงต้องใช้ชุดปฏิบัติการพิเศษติดตามจับกุม ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้จะรับยาเสพติดจากเครือข่ายชาวม้งที่มีหมายจับในประเทศไทย และหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ มีผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินให้การซัดทอด ว่า มีเครือข่ายของนายไซซะนะแฝงตัวอยู่ในหลายวงการ โดยเฉพาะวงการไฮโซ วงการบันเทิง และวงการรถหรู ทำหน้าที่ดูแลและโยกย้ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด โดย ปส. จะมีการประชุมร่วมเจ้าหน้าที่ ปปง.และ ป.ป.ส. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี ต่อไป