วานนี้ (31 ม.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติอนุมัติโครงการย้ายสายไฟฟ้าบนดิน ลงสู่ใต้ดิน ในวงเงิน 9,000 ล้านบาท ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1. โครงการที่บริเวณถนนปทุมวัน พญาไท และจิตรลดา 2. โครงการที่บริเวณถนนพระราม 3 และ 3. โครงการที่บริเวณช่องนนทรี ซึ่งในสมัยก่อนจะทำเป็นท่อร้อยสายแล้วนำสายไฟฟ้ามาใส่ แต่พอปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นก็ขุดรอบที่ 1 เพื่อเพิ่มจำนวน มีการคำนวณอย่างเบ็ดเสร็จในระยะเวลาข้างหน้า 5ปี หรือ 10ปี ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะสูงขึ้นมากน้อยขนาดไหนจากเดิมที่ต้องการ 24 ท่อร้อยสาย เพิ่มเป็น 30 ท่อร้อยสาย แต่ก็ยังมีสายเคเบิ้ล และสายโทรศัพท์มากมาย มารวมกันหมด ดังนั้น จะไม่ทำท่อร้อยสาย แต่เปลี่ยนมาเป็นการขุดอุโมงค์ เพื่อนำท่อร้อยสายทุกชนิดใส่ ลงไป ถือเป็นการจัดระเบียบพื้นที่ให้เป็นด้วยความสะอาดเรียบร้อย และเป็นมิติใหม่ในการพัฒนาอีกด้วย
** ซื้อวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก59ล.
ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 หมวดงบกลาง จำนวน 58.99 ล้านบาท ให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้แก่เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ให้ครอบคลุมทั่วประเทศจำนวน 4 แสนคน เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ
รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าสาขาวิชามะเร็งนรีเวชวิทยา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และเลขาธิการสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม และมีสถิติเสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 12 คน แม้ว่าที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้หญิงไทย เข้ารับการตรวจคัดกรอง แต่ร้อยละ 60 ของหญิงไทยไม่เคยเข้ารับการตรวจ เนื่องจากอายหรือกลัวเจ็บ
“ จากผลการศึกษาพบว่า การฉีดวัคซีนเอชพีวีในเด็กหญิงอายุ 11-12 ปี ถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมากเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลามรายละหลายแสนบาท ไม่นับรวมการสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมในหลายมิติ เนื่องจากหญิงที่เป็น โรคนี้มักอยู่ในวัยทำงาน" รศ.นพ.วิชัย ระบุ
เช่นเดียวกับ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ที่กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลจะสนับสนุนวัคซีนให้กับเด็กหญิงในช่วงก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จึงเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะเมื่อไปมีเพศสัมพันธ์จะได้ไม่ติดเชื้อทำให้ลดโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตลงไปด้วย เช่นเดียวกับการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีแก่เด็กแรกเกิดทุกคน จนปัจจุบันนี้ปัญหาโรคตับแข็งและมะเร็งตับลดลงไปอย่างมาก.
** ซื้อวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก59ล.
ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 หมวดงบกลาง จำนวน 58.99 ล้านบาท ให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้แก่เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ให้ครอบคลุมทั่วประเทศจำนวน 4 แสนคน เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ
รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าสาขาวิชามะเร็งนรีเวชวิทยา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และเลขาธิการสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม และมีสถิติเสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 12 คน แม้ว่าที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้หญิงไทย เข้ารับการตรวจคัดกรอง แต่ร้อยละ 60 ของหญิงไทยไม่เคยเข้ารับการตรวจ เนื่องจากอายหรือกลัวเจ็บ
“ จากผลการศึกษาพบว่า การฉีดวัคซีนเอชพีวีในเด็กหญิงอายุ 11-12 ปี ถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมากเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลามรายละหลายแสนบาท ไม่นับรวมการสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมในหลายมิติ เนื่องจากหญิงที่เป็น โรคนี้มักอยู่ในวัยทำงาน" รศ.นพ.วิชัย ระบุ
เช่นเดียวกับ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ที่กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลจะสนับสนุนวัคซีนให้กับเด็กหญิงในช่วงก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จึงเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะเมื่อไปมีเพศสัมพันธ์จะได้ไม่ติดเชื้อทำให้ลดโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตลงไปด้วย เช่นเดียวกับการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีแก่เด็กแรกเกิดทุกคน จนปัจจุบันนี้ปัญหาโรคตับแข็งและมะเร็งตับลดลงไปอย่างมาก.