00 ดีใจกับ “ท่านรองฯมือไว”สุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ไปขโมยภาพวาดในโรงแรมที่ญี่ปุ่น จนถูกทางการญี่ปุ่นจับกุมตัวในคดีลักทรัพย์ ขายขี้หน้าไปทั่วโลก สุดท้ายแฮปปี้เอนดิ้ง ได้รับการปล่อยตัว หลังเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ไปเจรจากับผู้แทนฝ่ายโรงแรม จนอัยการสั่งปล่อยตัว เห็นว่าตอนนี้รอกระทรวงต่างประเทศประสานงานนำตัวกลับประเทศอยู่ สรุปรอดคุกที่ญี่ปุ่นแล้วชัวร์ …คนในรัฐบาลต่างบอกเรื่อง“รองฯสุภัฒ”เป็นเรื่องส่วนตัว-เฉพาะบุคคล อย่าไปเหมารวม “ข้าราชการ”ทั้งหมด แต่ก็เห็นๆอยู่ว่าไม่ได้เห็นเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างที่พูด ก็ยังต้องเอาเจ้าหน้าที่รัฐไปเจรจาให้ทางนู้นถอนแจ้งความ ส่วนค่าเสียหายที่เห็นว่าต้องจ่านั้น ก็ไม่รู้ว่าเงินส่วนตัว หรือชักภาษีของเราๆไปจ่ายกันแน่
00 แถมก็มีมือดีไป“ขุด”เอากรณีเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มี“สาวไทย”ไปขโมยของในสวนสนุกที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่“ตอนนั้น”สถานทูตไทยในกรุงโตเกียว ระบุว่า ไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวก่าย-แทรกแซง ระบบยุติธรรมหรือกฎหมายของญี่ปุ่นได้ ทำให้สาวเจ้าต้องติดคุกแดนปลาดิบนานกว่า 2 เดือน ตอกย้ำความสม่ำเสมอเรื่อง“สองมาตรฐาน”ของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ... เรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่เกิดกับ“ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่”หรือเกิดกับ“ประชาชนตาดำๆ”การให้ความเห็น หรือการให้ความช่วยเหลือ แตกต่างกันฟ้ากับเหว
00 นี่ก็“ท่านรองฯ”อีกคน แต่ไม่ได้ไปฉกอะไร "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ มือกฎหมายประเทศไทย ไม่ชี้ชัด-ไม่ฟันธง ยังพูดกำกวมเหมือนหลายกรณีๆในระยะหลัง บอกเรื่อง“ท่านรองฯสุภัฒ”หากวัดตามมาตรฐานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะระบุว่า“การลักทรัพย์ไม่ใช่ความผิดวินัยร้ายแรง”แต่หากการลักทรัพย์ใดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงประเทศชาติ และกระทบต่อส่วนรวม อาจเป็นความผิดวินัยร้ายแรงได้ ซึ่งก็อยู่ที่ผลสอบของคณะกรรมการที่ทางกระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้น จะออกหน้าไหนใน 5 ขั้นวามผิด“ภาคทัณฑ์-ตัดเงินเดือน-ลดเงินเดือน-ปลดออก-ไล่ออก”หรือจะอุ้มกันแบบใสๆ ไร้ความผิด ก็มีแววนะ ... ข้าราชการไทย อภิสิทธิ์ชนซะอย่าง
************
00 ปกติเห็นเป็นข่าวเฉพาะเวลาทำนายทายทักดวงบ้านดวงเมือง วันก่อนเห็นข่าวแปลก "วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ" เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นนายทหารระดับวีไอพีเพียบ จนได้ฉายา“โหร คมช.”เปิดบ้านพัก เชิญเจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตำรวจภูธรภาค 5 มาตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในความครอบครองของตัวเอง ทั้งวิหารหลวงปู่เกวลัน โครงการหมู่บ้านฮิมมา และโรงแรมรีสอร์ตซอมพอร์ ลานนา กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อยืนยันว่าไม้ที่ใช้ก่อสร้างแต่ละที่นั้น ถูกต้องตามกฎหมาย แก้ข้อกล่าวหาที่ "สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ทนายชื่อดัง และ"พ.ต.อ.สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์" อดีตผู้กำกับโรงพักที่ จ.น่าน ระบุว่า มี “โหรชื่อดัง”ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือ ลักลอบตัดไม้สักทองจำนวนมากในโครงการพระราชดำริฯ ในอุทยานแห่งชาติ จ.น่าน เพื่อนำไปทำรีสอร์ต - บ้านไม้สักหรูในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมระบุด้วยว่า ลักลอบตัดป่าไม้คุ้มครองมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2549 แล้ว
00 จากข่าว"โหรวารินทร์" มีหลายเรื่องน่าสนใจ เรื่องที่เป็นโหร อันนั้นคนรู้กันทั่วประเทศ แต่เรื่อง“ผู้มีอิทธิพล”เพิ่งแน่ใจ ก็ใหญ่ขนาดเรียก“รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5”มาฟอกขาวตัวเองได้ถึงที่บ้าน การันตีให้ด้วยว่า ถูกกฎหมายทุกประการ ... ส่วนอีกเรื่องที่เพิ่งรู้จริงๆก็ “คุณวารินทร์”ไม่ได้ดูหมอหาเลี้ยงตัวเอง แต่เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเชียงใหม่เสียด้วย โดยให้“ลูกสาว”เป็นผู้ดูแลบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้าน ทั้งหมู่บ้านฮิมมา-รีสอร์ตซอมพอร์ลานนา-คอนโดฯ หรูๆ ทั้งนั้น บ้านแต่ละหลัง ขายกัน 24 ล้าน จนถึง 50 กว่าล้าน ... บ้าน“โหรวารินทร์”ก็อยู่ในโครงการนั้นแหละ เป็นหมอดู (ทหาร) รวยกว่าที่คิดจริงๆ
***********
00 เมื่อวานองค์กรวิชาชีพสื่อกว่า 30 องค์กรได้จัดประชุมหารือเกี่วกับร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อ สิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ... ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แน่นอนว่าทั้ง 30 องค์กร แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ว่า ซึ่งก็มีเหตุผลที่หลากหลาย เรื่องสำคัญก็คือมองว่า“ฝ่ายรัฐ”พยายามเข้ามาควบคุม-แทรกแซงเสรีภาพของสื่อฯ แต่ก็นั่นแหละ“ช.ชฎา”เคยบอกไปแล้วว่า จะเป็นการตั้งสถาบันตรวจสอบการทำงานเชิงวิชาชีพสื่อฯ เหมือน “แพทยสภา–สภาทนายความ”เพราะที่ผ่านมาเวลาสื่อฯ ดูแลตรวจสอบกันเองได้จริง ก็“เหลว”ทุกที จะมีหน่วยงานอะไรแบบนี้ขึ้น มันก็ดีเหมือนกัน ... แต่การยัดทะนาน“ตัวแทนภาครัฐ”เข้าไปนั่งในกรรมการคุมสื่อเต็มไปหมด ส่วนตัวแทนสื่อฯ มีแบบกระปริบ กระปรอย แบบนี้มันก็ไม่สวย ...ขัดกับกับ“เสรีภาพสื่อ”ชัดเจน
00 ขอทิ้งท้ายด้วยข้อความของ อาจารย์วิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. คนดัง คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ส่งข้อความผ่านไลน์ ถึงพรรคพวกระบุว่า “ในประสบการณ์การตรวจสอบอำนาจรัฐของผม เราจะไม่สามารถตรวจพบการทุจริตได้เลย ถ้าสื่อฯไม่ช่วยเปิดโปง และติดตามค้นหา สื่อฯ จึงมีคุณูปการต่องานของป.ป.ช.มาก ... สื่อฯ เป็นช่องทางสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทุจริต คอร์รัปชัน ฉะนั้นความพยายามปิดปากสื่อฯ เท่ากับความพยายามที่จะปกปิดความจริงในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันทั้งปวงของรัฐ ทำให้รัฐขาดความโปร่งใส และการตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล" ก็ขอฝากไปถึง"ท่านผู้มีอำนาจ" คิดให้ดี-ตรองให้หนัก.
00 แถมก็มีมือดีไป“ขุด”เอากรณีเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มี“สาวไทย”ไปขโมยของในสวนสนุกที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่“ตอนนั้น”สถานทูตไทยในกรุงโตเกียว ระบุว่า ไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวก่าย-แทรกแซง ระบบยุติธรรมหรือกฎหมายของญี่ปุ่นได้ ทำให้สาวเจ้าต้องติดคุกแดนปลาดิบนานกว่า 2 เดือน ตอกย้ำความสม่ำเสมอเรื่อง“สองมาตรฐาน”ของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ... เรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่เกิดกับ“ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่”หรือเกิดกับ“ประชาชนตาดำๆ”การให้ความเห็น หรือการให้ความช่วยเหลือ แตกต่างกันฟ้ากับเหว
00 นี่ก็“ท่านรองฯ”อีกคน แต่ไม่ได้ไปฉกอะไร "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ มือกฎหมายประเทศไทย ไม่ชี้ชัด-ไม่ฟันธง ยังพูดกำกวมเหมือนหลายกรณีๆในระยะหลัง บอกเรื่อง“ท่านรองฯสุภัฒ”หากวัดตามมาตรฐานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะระบุว่า“การลักทรัพย์ไม่ใช่ความผิดวินัยร้ายแรง”แต่หากการลักทรัพย์ใดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงประเทศชาติ และกระทบต่อส่วนรวม อาจเป็นความผิดวินัยร้ายแรงได้ ซึ่งก็อยู่ที่ผลสอบของคณะกรรมการที่ทางกระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้น จะออกหน้าไหนใน 5 ขั้นวามผิด“ภาคทัณฑ์-ตัดเงินเดือน-ลดเงินเดือน-ปลดออก-ไล่ออก”หรือจะอุ้มกันแบบใสๆ ไร้ความผิด ก็มีแววนะ ... ข้าราชการไทย อภิสิทธิ์ชนซะอย่าง
************
00 ปกติเห็นเป็นข่าวเฉพาะเวลาทำนายทายทักดวงบ้านดวงเมือง วันก่อนเห็นข่าวแปลก "วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ" เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นนายทหารระดับวีไอพีเพียบ จนได้ฉายา“โหร คมช.”เปิดบ้านพัก เชิญเจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตำรวจภูธรภาค 5 มาตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในความครอบครองของตัวเอง ทั้งวิหารหลวงปู่เกวลัน โครงการหมู่บ้านฮิมมา และโรงแรมรีสอร์ตซอมพอร์ ลานนา กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อยืนยันว่าไม้ที่ใช้ก่อสร้างแต่ละที่นั้น ถูกต้องตามกฎหมาย แก้ข้อกล่าวหาที่ "สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ทนายชื่อดัง และ"พ.ต.อ.สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์" อดีตผู้กำกับโรงพักที่ จ.น่าน ระบุว่า มี “โหรชื่อดัง”ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือ ลักลอบตัดไม้สักทองจำนวนมากในโครงการพระราชดำริฯ ในอุทยานแห่งชาติ จ.น่าน เพื่อนำไปทำรีสอร์ต - บ้านไม้สักหรูในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมระบุด้วยว่า ลักลอบตัดป่าไม้คุ้มครองมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2549 แล้ว
00 จากข่าว"โหรวารินทร์" มีหลายเรื่องน่าสนใจ เรื่องที่เป็นโหร อันนั้นคนรู้กันทั่วประเทศ แต่เรื่อง“ผู้มีอิทธิพล”เพิ่งแน่ใจ ก็ใหญ่ขนาดเรียก“รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5”มาฟอกขาวตัวเองได้ถึงที่บ้าน การันตีให้ด้วยว่า ถูกกฎหมายทุกประการ ... ส่วนอีกเรื่องที่เพิ่งรู้จริงๆก็ “คุณวารินทร์”ไม่ได้ดูหมอหาเลี้ยงตัวเอง แต่เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเชียงใหม่เสียด้วย โดยให้“ลูกสาว”เป็นผู้ดูแลบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้าน ทั้งหมู่บ้านฮิมมา-รีสอร์ตซอมพอร์ลานนา-คอนโดฯ หรูๆ ทั้งนั้น บ้านแต่ละหลัง ขายกัน 24 ล้าน จนถึง 50 กว่าล้าน ... บ้าน“โหรวารินทร์”ก็อยู่ในโครงการนั้นแหละ เป็นหมอดู (ทหาร) รวยกว่าที่คิดจริงๆ
***********
00 เมื่อวานองค์กรวิชาชีพสื่อกว่า 30 องค์กรได้จัดประชุมหารือเกี่วกับร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อ สิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ... ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แน่นอนว่าทั้ง 30 องค์กร แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ว่า ซึ่งก็มีเหตุผลที่หลากหลาย เรื่องสำคัญก็คือมองว่า“ฝ่ายรัฐ”พยายามเข้ามาควบคุม-แทรกแซงเสรีภาพของสื่อฯ แต่ก็นั่นแหละ“ช.ชฎา”เคยบอกไปแล้วว่า จะเป็นการตั้งสถาบันตรวจสอบการทำงานเชิงวิชาชีพสื่อฯ เหมือน “แพทยสภา–สภาทนายความ”เพราะที่ผ่านมาเวลาสื่อฯ ดูแลตรวจสอบกันเองได้จริง ก็“เหลว”ทุกที จะมีหน่วยงานอะไรแบบนี้ขึ้น มันก็ดีเหมือนกัน ... แต่การยัดทะนาน“ตัวแทนภาครัฐ”เข้าไปนั่งในกรรมการคุมสื่อเต็มไปหมด ส่วนตัวแทนสื่อฯ มีแบบกระปริบ กระปรอย แบบนี้มันก็ไม่สวย ...ขัดกับกับ“เสรีภาพสื่อ”ชัดเจน
00 ขอทิ้งท้ายด้วยข้อความของ อาจารย์วิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. คนดัง คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ส่งข้อความผ่านไลน์ ถึงพรรคพวกระบุว่า “ในประสบการณ์การตรวจสอบอำนาจรัฐของผม เราจะไม่สามารถตรวจพบการทุจริตได้เลย ถ้าสื่อฯไม่ช่วยเปิดโปง และติดตามค้นหา สื่อฯ จึงมีคุณูปการต่องานของป.ป.ช.มาก ... สื่อฯ เป็นช่องทางสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทุจริต คอร์รัปชัน ฉะนั้นความพยายามปิดปากสื่อฯ เท่ากับความพยายามที่จะปกปิดความจริงในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันทั้งปวงของรัฐ ทำให้รัฐขาดความโปร่งใส และการตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล" ก็ขอฝากไปถึง"ท่านผู้มีอำนาจ" คิดให้ดี-ตรองให้หนัก.