xs
xsm
sm
md
lg

โลกเริ่มเย็นๆ ลงมามั่ง

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียน “โดนัลด์ ทรัมป์” ไปแล้ว...สำหรับข้อตกลง “Trans-Pacific Partnership” หรือ “TPP” ที่รวมเอาออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ไปจนถึงชิลี เม็กซิโก เปรู เข้ามาจับมือ-จับไม้กับสหรัฐฯ สร้างเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อ “ปิดล้อม” คุณพี่จีนโดยเฉพาะ ตามแนวนโยบายเพื่อหวังจะ “ปักหมุดในเอเชีย” กันให้ถนัดๆ...

แต่ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา...ว่ากันว่า ประธานาธิบดีรายใหม่อย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้ตัดสินใจตวัดปากกาเซ็นอนุมัติให้อเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงร่วมดังกล่าว ตามคำสัญญาที่ได้เคยให้ไว้ในตอนหาเสียงมาโดยตลอด และเมื่อไม่มีอเมริกาซะอย่าง!!! ย่อมต้องถือเป็นอันว่า...ข้อตกลงดังกล่าวได้ “เจ๊ง” ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว โดยไม่เพียงไม่ต้องเสียเวลามานั่งเถียงกันในหมู่ชาวไทยแลนด์แดนสยาม ว่าอะไรได้-อะไรเสีย คุ้ม-ไม่คุ้ม กันอีกต่อไป แต่ยังมีส่วนทำให้ภูมิภาคเอเชียทั้งภูมิภาค ไม่ต้องมานั่งเกร็งไป-เกร็งมากับการ “เล่นไพ่ 2 หน้า” หรือกับแรงเสียดสีเสียดทานในการแย่งชิงอิทธิพลระหว่าง 2 อภิมหาอำนาจในภูมิภาคนี้...

อีกทั้งการยกเลิกข้อตกลง “TPP” ของ “ทรัมป์” ยังอาจถือเป็นภาพสะท้อนได้อีกว่า การหยิบเอาเรื่อง “จีนเดียว” หรือ “สองจีน” มาตีปลาหน้าไซไว้ก่อนล่วงหน้านั้น คงไม่ได้ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไรมากมาย หรืออาจเป็นแค่ “สไตล์การต่อรอง” แบบนักธุรกิจธรรมดาๆ ต่างไปจากคำพูดหวานๆ แบบ “โอมาบ้า” แต่ออกไปทาง “ก้นเปรี้ยว” สุดๆ ถึงขั้นคิดเอา “TPP” มาปิดล้อม ปักหมุด เล่นงานคุณพี่จีนอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ ดังนั้น...ไม่ว่าโดยคำพูดคำจาของประธานาธิบดีรายใหม่รายนี้อาจหยาบๆ สากๆ คายๆ อยู่บ้าง แต่ในทางปฏิบัติที่แสดงให้เห็นจากการยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว อาจถือเป็น “จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้” ในการ “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” ของบรรดามหาอำนาจทั้งหลาย หรือของโลกที่ประกอบไปด้วย “หลายขั้วอำนาจ” ซึ่งคงต้องพยายามหาทางสร้าง “ระเบียบโลกแบบใหม่” ที่แตกต่างไปจากเดิมกันต่อไป...

ไม่เพียงแต่บรรยากาศแห่งการยื้อแย่งแข่งขันในภูมิภาคเอเชียสูญสลายหายไปพร้อมๆ กับการยกเลิกข้อตกลง “TPP” ของอเมริกาแต่เพียงเท่านั้น ถ้าว่ากันตาม “รายงานข่าว” ของสำนักข่าว “Daily Express” วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวที่ชื่อว่า “Marco Giannangeli” และ “Caroline Wheeler” ที่ไปเจาะข่าว “เอกซ์คลูซีฟ” มาจากแหล่งข่าวซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอังกฤษทำหน้าที่ประสานงานกับเพนตากอน ถึงกับระบุไว้ในพาดหัวแบบตรงไป-ตรงมาเอาเลยว่า “Donald Trump Batter Brussels with order to Stop EU Army plans or lose US-NATO support” หรือพูดง่ายๆ ว่า ให้เร่งยกเลิกแผนการทางทหารที่กำลังเพิ่มความตึงเครียดให้กับพรมแดนยุโรปตะวันออกด้านที่ติดกับรัสเซียโดยใช่เหตุ ไม่งั้น...อาจถูกตัดงบประมาณช่วยเหลือ ที่สหรัฐฯ ต้องควักจ่ายให้กับ NATO อันเป็นองค์กรที่ถ้าว่ากันคำพูดของ “ทรัมป์” แล้ว ออกไปทางประเภทไดโนเสาร์เต่าล้านปี หรือเป็นองค์กรที่ “พ้นสมัย” (Obsolete) ไปนานแล้ว...

แน่ล่ะว่า...ถ้า “รายงานข่าว” ของ “Daily Express” เป็นจริงตามนั้น อุณหภูมิความตึงเครียดในยุโรปตะวันออก ย่อมลดลงแบบฮวบๆ ฮาบๆ โดยทันที กำลังทหาร 6 กองพลของสหรัฐฯ ในยุโรป และเพิ่งถูกเพิ่มเข้าไป

อีก 1 กองพลโดยคำสั่งของ “โอมาบ้า” คือกองพลทหารม้าที่ 3 ที่ขนเอารถถังนับร้อยๆ คัน ทหารม้าอีก 3,500 นาย เข้าไปประชิดติดพรมแดนรัสเซียเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นต้อง “แยงกี้ โกโฮม” ไปเป็นแถวๆ ส่วนถ้าหากผู้นำ EU ทั้งหลาย คิดจะ “บ้าต่อ” โดยไม่สนใจท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายใหม่อีกต่อไป การเลือกตั้งผู้นำรายใหม่ในฝรั่งเศสและเยอรมนีในปีนี้ ย่อมเป็นตัวให้คำตอบได้เองว่า ควรจะบ้ามาก บ้าน้อย ไปตามสภาพ...

ส่วนที่คงต้องจับตาท่าทีของ “ทรัมป์” ในอีกเรื่อง...หนีไม่พ้นไปจาก “การเจรจาสันติภาพในซีเรีย” ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์นี้ ที่กรุง Astana ประเทศคาชัคสถาน ก่อนหน้านั้นในช่วง 6 ปีของความพยายามกอบกู้สันติภาพในตะวันออกกลางให้กลับคืนมา ความล้มเหลวของการเจรจาถึง 3 ครั้ง 3 ครา ก็สืบเนื่องมาจากคุณพ่ออเมริกาภายใต้การนำของเจ้าของรางวัลโนเบิลเพื่อสันติภาพ อย่าง “โอมาบ้า” ไม่คิดจะเอาด้วยนั่นเอง หรือเป็นอุปสรรคขัดขวางกระบวนการดังกล่าวมาโดยตลอด ภายใต้ช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน ในตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ “ทรัมป์” จะใช้อำนาจเหล่านี้ไปในทิศทางใด นั่นคงต้องคอยติดตามกันต่อ แต่ด้วยความพยายามของรัสเซีย อิหร่าน ตุรกี ที่ไปลากเอารัฐบาลซีเรียกับพวกกบฏมานั่งโต๊ะเจรจากันแบบตัวต่อตัวได้เป็นครั้งแรก ถ้าหากไม่มีมหาอำนาจรายใด คิดแหย่ส้นตีนเข้ามาขวาง โอกาสที่โลกทั้งโลก...จะเย็นๆ ลงได้มั่ง อันเนื่องมาจากแนวรบทุกๆ ด้าน ไม่ว่ายุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และทะเลจีนใต้ เริ่มคลายความตึงเครียดลงไปตามลำดับ จึงมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
กำลังโหลดความคิดเห็น