ผู้จัดการรายวัน360-ซัมซุงประกาศชัดเจน ต้นเหตุข้อผิดพลาดที่ทำให้สมาร์ทโฟน Galaxy Note 7 ระเบิด มาจากแบตเตอรี่ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์โทรศัพท์แต่อย่างใด
ดี เจ โกห์ ประธานฝ่ายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ซัมซุง บริษัท Samsung Electronics จำกัด เปิดเผยว่า ข้อผิดพลาดของแบตเตอรี่ที่พบใน Galaxy Note 7 โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกผิดพลาดที่กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งให้พื้นที่กล่องแบตเตอรี่แคบเกินไป ทำให้อิเล็กโทรดภายในเกิดการกดทับ เป็นเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจร โดยกลุ่มนี้พบการเผาไหม้ที่มุมขวาบนของแบตเตอรี่ ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Note 7 ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งซัมซุงได้เปลี่ยนแบตเตอรี่จากผู้ผลิตแบตเตอรี่กลุ่มแรกมาเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยขึ้น แต่แบตเตอรี่เวอร์ชันนี้ กลับพบปัญหาการผลิตที่ภายในเซลล์แบตเตอรี่เอง และกลุ่มนี้มีจุดเริ่มเผาไหม้ที่ตอนกลางแบตเตอรี่
ข้อสรุปเรื่องการผิดพลาดของผู้ผลิตแบตเตอรี่ทั้ง 2 กลุ่ม ผ่านการพิสูจน์จากวิศวกรมากกว่า 700 คน ซึ่งวิเคราะห์ Note 7 จำนวน 2 แสนเครื่อง ท่ามกลางแบตเตอรี่ 3 หมื่นชิ้น ยังมีองค์กรกลางจากหลายประเทศเช่น UL, Exponent และ TUV Rheinland ซึ่งทำให้ซัมซุง สรุปได้ว่า เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตที่เร่งรีบ และตัวแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ทั้งหมดนี้ ประธานซัมซุงโมบาย ไม่เพียงประกาศขออภัยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวางจำหน่าย แต่ยังระบุว่า นักวิจัยมากมายได้ร่วมกันตรวจสอบระบบชาร์จทั้งแบบไร้สาย และผ่านสายอย่างเต็มที่ รวมถึงการตรวจสอบพอร์ต USB Type-C และคุณสมบัติใหม่อย่างการสแกนม่านตา ซึ่งทุกอย่างผ่านการทดสอบอย่างไร้กังวล
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเรียกคืนครอบคลุมราว 96% ของจำนวน Note 7 ทั้งหมด 3 ล้านเครื่องในตลาด ซึ่งเหลืออีก 4% ที่ยังเป็นปริศนา และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
คำแถลงสาเหตุนี้ตรงกับการคาดการณ์ว่า ซัมซุงจะยกความผิดให้แบตเตอรี่ ซึ่งถูกออกแบบให้มีความจุมากกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 16% โดยความผิดที่โยนให้แบตเตอรี่จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของซัมซุง กลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีนี้
สำหรับ Galaxy Note 7 ถูกเปิดตัวตั้งแต่เดือนส.ค.2559 ที่ผ่านมา ไม่กี่วันหลังเปิดตัว ผู้ใช้ Note 7 บางรายร้องเรียนว่า พบปัญหาเครื่องร้อนจัดจนเกิดระเบิด ถัดมาในเดือนก.ย.2559 ซัมซุงตัดสินใจเรียกคืนเครื่องจำนวน 2.5 ล้านเครื่อง จาก 10 ตลาดทั่วโลก วิกฤตนี้ซัมซุง ประเมินว่า จะขาดทุนจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 3 ไตรมาส ได้แก่ 2 ไตรมาสหลังสุดของปี 2016 และไตรมาสแรกของปี 2017
ดี เจ โกห์ ประธานฝ่ายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ซัมซุง บริษัท Samsung Electronics จำกัด เปิดเผยว่า ข้อผิดพลาดของแบตเตอรี่ที่พบใน Galaxy Note 7 โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกผิดพลาดที่กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งให้พื้นที่กล่องแบตเตอรี่แคบเกินไป ทำให้อิเล็กโทรดภายในเกิดการกดทับ เป็นเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจร โดยกลุ่มนี้พบการเผาไหม้ที่มุมขวาบนของแบตเตอรี่ ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Note 7 ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งซัมซุงได้เปลี่ยนแบตเตอรี่จากผู้ผลิตแบตเตอรี่กลุ่มแรกมาเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยขึ้น แต่แบตเตอรี่เวอร์ชันนี้ กลับพบปัญหาการผลิตที่ภายในเซลล์แบตเตอรี่เอง และกลุ่มนี้มีจุดเริ่มเผาไหม้ที่ตอนกลางแบตเตอรี่
ข้อสรุปเรื่องการผิดพลาดของผู้ผลิตแบตเตอรี่ทั้ง 2 กลุ่ม ผ่านการพิสูจน์จากวิศวกรมากกว่า 700 คน ซึ่งวิเคราะห์ Note 7 จำนวน 2 แสนเครื่อง ท่ามกลางแบตเตอรี่ 3 หมื่นชิ้น ยังมีองค์กรกลางจากหลายประเทศเช่น UL, Exponent และ TUV Rheinland ซึ่งทำให้ซัมซุง สรุปได้ว่า เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตที่เร่งรีบ และตัวแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ทั้งหมดนี้ ประธานซัมซุงโมบาย ไม่เพียงประกาศขออภัยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวางจำหน่าย แต่ยังระบุว่า นักวิจัยมากมายได้ร่วมกันตรวจสอบระบบชาร์จทั้งแบบไร้สาย และผ่านสายอย่างเต็มที่ รวมถึงการตรวจสอบพอร์ต USB Type-C และคุณสมบัติใหม่อย่างการสแกนม่านตา ซึ่งทุกอย่างผ่านการทดสอบอย่างไร้กังวล
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเรียกคืนครอบคลุมราว 96% ของจำนวน Note 7 ทั้งหมด 3 ล้านเครื่องในตลาด ซึ่งเหลืออีก 4% ที่ยังเป็นปริศนา และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
คำแถลงสาเหตุนี้ตรงกับการคาดการณ์ว่า ซัมซุงจะยกความผิดให้แบตเตอรี่ ซึ่งถูกออกแบบให้มีความจุมากกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 16% โดยความผิดที่โยนให้แบตเตอรี่จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของซัมซุง กลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีนี้
สำหรับ Galaxy Note 7 ถูกเปิดตัวตั้งแต่เดือนส.ค.2559 ที่ผ่านมา ไม่กี่วันหลังเปิดตัว ผู้ใช้ Note 7 บางรายร้องเรียนว่า พบปัญหาเครื่องร้อนจัดจนเกิดระเบิด ถัดมาในเดือนก.ย.2559 ซัมซุงตัดสินใจเรียกคืนเครื่องจำนวน 2.5 ล้านเครื่อง จาก 10 ตลาดทั่วโลก วิกฤตนี้ซัมซุง ประเมินว่า จะขาดทุนจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 3 ไตรมาส ได้แก่ 2 ไตรมาสหลังสุดของปี 2016 และไตรมาสแรกของปี 2017