นายอภิชาต โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ภาคใต้ กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้จัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ประกอบอาหาร เพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัย ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง ตรัง และ ประจวบคีรีขันธ์ รวม 22 จุด โดยทำอาหารแจกจ่ายแล้วกว่า 269,000 ชุด
ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วยการประกอบอาหารสด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 55 โดยได้ตกลงร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ด้วยการจัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประกอบและแจกจ่ายอาหารสด โดย มีผู้นำชุมชน อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) กลุ่ม องค์กร เครือข่ายพัฒนาชุมชน เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เข้าร่วมดำเนินการ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จะมอบเงินให้คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน (กพสม.) เป็นแกนหลักในการจัดซื้อ จัดหาวัตถุดิบในการประกอบอาหาร และการปรุงอาหารส่วนการแจกจ่ายจะบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดยานพาหนะนำไปแจกจ่ายถึงบ้านผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายที่จะช่วยฟื้นฟูชีวิตของผู้ประสบภัยหลังจากภัยพิบัติผ่านพ้นไปแล้ว โดยกลไกสำคัญในการบริหารจัดการชุมชน คือ การใช้พลังชุมชนการแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยตนเอง ปัจจุบันกรมพัฒนาชุมชน มีผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งสิ้น 13,376 คน อาสาพัฒนาชุมชน 289,580 คน คณะกรรมการพัฒนาสตรีทุกระดับ จำนวน 1,087,333 คน นอกจากนี้กรมฯ ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนทุนชุมชน ได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ ดังนั้น กรมฯจะใช้พลังมวลชนและแหล่งเงินทุนในชุมชนเหล่านี้ มาเป็นพลังในการฟื้นฟูเยียวยา และแก้ไขปัญหาต่างๆภายหลังการเกิดภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2560 กรมการพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายในการสร้างสัมมาชีพ เพื่อยกระดับรายได้ แก่ครัวเรือนทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยจะมีกระบวนการเสริมสร้างสัมมาชีพให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีงานทำอย่างสุจริต โดยให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอดำเนินการ
ฝึกอบรมแก่ครัวเรือนในหมู่บ้านเป้าหมาย หมู่บ้านละ 20 ครัวเรือน ทั่วประเทศ โดยกรมการพัฒนาชุมชน จะมีงบประมาณสนับสนุนเป็นค่าวัสดุ เพื่อใช้ในการฝึกอาชีพ และสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่ม ไม่น้อยกว่า 2,360 กลุ่ม และพัฒนายกระดับให้เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ต่อไป
ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วยการประกอบอาหารสด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 55 โดยได้ตกลงร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ด้วยการจัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประกอบและแจกจ่ายอาหารสด โดย มีผู้นำชุมชน อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) กลุ่ม องค์กร เครือข่ายพัฒนาชุมชน เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เข้าร่วมดำเนินการ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จะมอบเงินให้คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน (กพสม.) เป็นแกนหลักในการจัดซื้อ จัดหาวัตถุดิบในการประกอบอาหาร และการปรุงอาหารส่วนการแจกจ่ายจะบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดยานพาหนะนำไปแจกจ่ายถึงบ้านผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายที่จะช่วยฟื้นฟูชีวิตของผู้ประสบภัยหลังจากภัยพิบัติผ่านพ้นไปแล้ว โดยกลไกสำคัญในการบริหารจัดการชุมชน คือ การใช้พลังชุมชนการแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยตนเอง ปัจจุบันกรมพัฒนาชุมชน มีผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งสิ้น 13,376 คน อาสาพัฒนาชุมชน 289,580 คน คณะกรรมการพัฒนาสตรีทุกระดับ จำนวน 1,087,333 คน นอกจากนี้กรมฯ ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนทุนชุมชน ได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ ดังนั้น กรมฯจะใช้พลังมวลชนและแหล่งเงินทุนในชุมชนเหล่านี้ มาเป็นพลังในการฟื้นฟูเยียวยา และแก้ไขปัญหาต่างๆภายหลังการเกิดภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2560 กรมการพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายในการสร้างสัมมาชีพ เพื่อยกระดับรายได้ แก่ครัวเรือนทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยจะมีกระบวนการเสริมสร้างสัมมาชีพให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีงานทำอย่างสุจริต โดยให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอดำเนินการ
ฝึกอบรมแก่ครัวเรือนในหมู่บ้านเป้าหมาย หมู่บ้านละ 20 ครัวเรือน ทั่วประเทศ โดยกรมการพัฒนาชุมชน จะมีงบประมาณสนับสนุนเป็นค่าวัสดุ เพื่อใช้ในการฝึกอาชีพ และสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่ม ไม่น้อยกว่า 2,360 กลุ่ม และพัฒนายกระดับให้เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ต่อไป