"องอาจ"จี้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพเคลียร์ปม โรลส์รอยซ์ ติดสินบน ปตท.-การบินไทย "สรรเสริฯ"ยันนายกฯ สั่งตรวจสอบหาคนผิดมาลงโทษแล้ว "กนก"ยึดธรรมาภิบาลในการบริหาร จนการบินไทยเป็นเบอร์ 1 ของโลก หากโกงขอให้ถูกลงโทษสูงสุด ปตท.ยันผู้บริหารระดับสูง ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ที่มีการใช้เครื่องยนต์ของ โรลส์-รอยซ์
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทโรลส์รอยซ์ ให้สินบนกับปตท. และการบินไทย ว่า รัฐบาลควรเข้ามาเป็นตัวหลักในการทำความจริงให้กระจ่าง ด้วยการแสวงหาข้อเท็จจริง และนำคนผิดมาลงโทษ เพราะเป็นสินบนข้ามชาติที่สะเทือนความเชื่อมั่นของประเทศและสังคมไทยโดยรวม เพราะเป็นการเปิดโปงจากต่างชาติที่มีรายละเอียดพอสมควรในส่วนของข้อมูลทางการที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้วระดับหนึ่ง จึงไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานไปดำเนินการกันเองเท่านั้น แต่รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ ทำให้เกิคดวามเชื่อมั่นในเรื่องความโปร่งใส และสุจริตของประเทศไทย โดยสามารถทำได้ 2 ส่วนคือ
ส่วนแรกไม่ว่าเรื่องนี้จะหมดอายุความหรือไม่ ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงว่าการทุจริตในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นที่การบินไทย หรือปตท. มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อนำมาเป็นบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต และในส่วนที่คดียังไม่หมดอายุความ รัฐบาลต้องส่งเสริมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อเท็จจริงและเอาคนผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวมาลงโทษในประเทศไทยให้ได้
"แม้ว่าเรื่องนี้จะกระเทือนประเทศไทย แต่ควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามรณรงค์เรื่องการแก้ปัญหาการทุจริตมาตลอด ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะใช้เรื่องนี้มาขจัดการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ เชื่อว่าถ้ารัฐบาลจริงจัง ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหาตัวคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ" นายองอาจ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี บริษัท โรลส์-รอยซ์ ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษว่าได้มีการจ่ายสินบนในหลายประเทศที่ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ รวมถึงบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน ในระหว่างปี 2534-2548 และขณะนี้ได้ลุกลามมายังบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งให้มีการตรวจสอบ และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมกับวางแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ เอกชน และประชาชน ต้องไม่ทุจริตเสียเองและไม่ผลักภาระให้กับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
" เรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อคะแนนและการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (CPI)ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่จะจัดอันดับปลายเดือนมกราคมนี้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในอดีต ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสังคมก็คงต้องมองย้อนกลับไปพิจารณาดูว่าเป็นยุคสมัยใด" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ด้านนายกนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ช่วงปี 2545-2549 ในยุครัฐบาลทักษิณ 1 ได้ชี้แจงผ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ว่า ตนได้ร่วมสร้างการบินไทยกับพนักงานการบินไทยหลายๆพันคน จากบริษัทที่มีหนี้ท่วมท้น จนกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยการยึดมั่นในธรรมาภิบาล ที่มีบรรทัดฐานสูงกว่ากฎหมาย ตลอดช่วงการเป็นลูกจ้างของการบินไทย
"วันนี้การจ่ายใต้โต๊ะ ของโรลส์-รอยซ์ ได้ทำลายเกียรติเเละศักดิ์ศรีของทุกจิตวิญญาณของคนการบินไทยอีกครั้งหนึ่ง ผมขอเรียกร้องว่า ภายใต้อำนาจเเละหน้าที่ของหลายท่านที่ยังมีหน้าที่ในการรักษาความเที่ยงธรรมอยู่ หากเพื่อนคนนี้ของท่านได้ประพฤติเยี่ยงโจร ในมหากาพย์โรลส์-รอยซ์ นี้ ไม่ว่าจะมากจะน้อยเพียงใด ก็อย่าให้มีความเป็นเพื่อนหลงเหลืออยู่ เเละจงลงโทษมันผู้นี้ด้วยโทษที่สูงสุด เท่าที่กฎหมายจะหยิบยื่นให้ได้ โดยไม่ต้องลังเลเเต่อย่างใดครับ" นายกนก ระบุ
ขณะที่นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง ที่ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ที่มีการใช้เครื่องยนต์ของ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มาก่อน เพื่อให้กระบวนการสืบสวนดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล โดยคณะกรรมการฯ กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลการดำเนินการ กระบวนการ และผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ในช่วงปี 2543-2556 รวมทั้งจะเชิญผู้แทนของบริษัทซีเมนส์ ซึ่งได้ซื้อกิจการของ บริษัทโรลส์-รอยซ์ เมื่อปลายปี 2557 เพื่อมาสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเอกสารของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่มเติมด้วย โดยจะสรุปรายงานเบื้องต้น เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทภายในสัปดาห์หน้า
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทโรลส์รอยซ์ ให้สินบนกับปตท. และการบินไทย ว่า รัฐบาลควรเข้ามาเป็นตัวหลักในการทำความจริงให้กระจ่าง ด้วยการแสวงหาข้อเท็จจริง และนำคนผิดมาลงโทษ เพราะเป็นสินบนข้ามชาติที่สะเทือนความเชื่อมั่นของประเทศและสังคมไทยโดยรวม เพราะเป็นการเปิดโปงจากต่างชาติที่มีรายละเอียดพอสมควรในส่วนของข้อมูลทางการที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้วระดับหนึ่ง จึงไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานไปดำเนินการกันเองเท่านั้น แต่รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ ทำให้เกิคดวามเชื่อมั่นในเรื่องความโปร่งใส และสุจริตของประเทศไทย โดยสามารถทำได้ 2 ส่วนคือ
ส่วนแรกไม่ว่าเรื่องนี้จะหมดอายุความหรือไม่ ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงว่าการทุจริตในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นที่การบินไทย หรือปตท. มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อนำมาเป็นบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต และในส่วนที่คดียังไม่หมดอายุความ รัฐบาลต้องส่งเสริมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อเท็จจริงและเอาคนผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวมาลงโทษในประเทศไทยให้ได้
"แม้ว่าเรื่องนี้จะกระเทือนประเทศไทย แต่ควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามรณรงค์เรื่องการแก้ปัญหาการทุจริตมาตลอด ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะใช้เรื่องนี้มาขจัดการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ เชื่อว่าถ้ารัฐบาลจริงจัง ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหาตัวคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ" นายองอาจ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี บริษัท โรลส์-รอยซ์ ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษว่าได้มีการจ่ายสินบนในหลายประเทศที่ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ รวมถึงบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน ในระหว่างปี 2534-2548 และขณะนี้ได้ลุกลามมายังบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งให้มีการตรวจสอบ และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมกับวางแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ เอกชน และประชาชน ต้องไม่ทุจริตเสียเองและไม่ผลักภาระให้กับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
" เรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อคะแนนและการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (CPI)ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่จะจัดอันดับปลายเดือนมกราคมนี้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในอดีต ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสังคมก็คงต้องมองย้อนกลับไปพิจารณาดูว่าเป็นยุคสมัยใด" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ด้านนายกนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ช่วงปี 2545-2549 ในยุครัฐบาลทักษิณ 1 ได้ชี้แจงผ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ว่า ตนได้ร่วมสร้างการบินไทยกับพนักงานการบินไทยหลายๆพันคน จากบริษัทที่มีหนี้ท่วมท้น จนกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยการยึดมั่นในธรรมาภิบาล ที่มีบรรทัดฐานสูงกว่ากฎหมาย ตลอดช่วงการเป็นลูกจ้างของการบินไทย
"วันนี้การจ่ายใต้โต๊ะ ของโรลส์-รอยซ์ ได้ทำลายเกียรติเเละศักดิ์ศรีของทุกจิตวิญญาณของคนการบินไทยอีกครั้งหนึ่ง ผมขอเรียกร้องว่า ภายใต้อำนาจเเละหน้าที่ของหลายท่านที่ยังมีหน้าที่ในการรักษาความเที่ยงธรรมอยู่ หากเพื่อนคนนี้ของท่านได้ประพฤติเยี่ยงโจร ในมหากาพย์โรลส์-รอยซ์ นี้ ไม่ว่าจะมากจะน้อยเพียงใด ก็อย่าให้มีความเป็นเพื่อนหลงเหลืออยู่ เเละจงลงโทษมันผู้นี้ด้วยโทษที่สูงสุด เท่าที่กฎหมายจะหยิบยื่นให้ได้ โดยไม่ต้องลังเลเเต่อย่างใดครับ" นายกนก ระบุ
ขณะที่นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง ที่ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ที่มีการใช้เครื่องยนต์ของ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มาก่อน เพื่อให้กระบวนการสืบสวนดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล โดยคณะกรรมการฯ กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลการดำเนินการ กระบวนการ และผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ในช่วงปี 2543-2556 รวมทั้งจะเชิญผู้แทนของบริษัทซีเมนส์ ซึ่งได้ซื้อกิจการของ บริษัทโรลส์-รอยซ์ เมื่อปลายปี 2557 เพื่อมาสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเอกสารของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่มเติมด้วย โดยจะสรุปรายงานเบื้องต้น เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทภายในสัปดาห์หน้า