ผู้จัดการรายวัน360 - สมเด็จพระเทพฯ พระราชนิพนธ์บทเพลง"สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ" ถวายร.9 พระราชทาน สบศ. จัดแสดงงานบรมครูสานศิลป์แผ่นดินไทย เนื่องในโอกาสครบ 100 วัน จัดแสดงวิทยาลัยนาฎศิลป์ทั่วประเทศ ขณะที่ประชาชนจากทุกสารทิศยังหลั่งไหลเข้ากราบสักการะพระบรมศพ
วานนี้ ( 19 ม.ค.) ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า สบศ.จะจัดการแสดงในโอกาสพระราชพิธีสตมวาร ครบ 100 วัน ภายใต้ชื่องาน "บรมครูสานศิลป์แผ่นดินไทย" เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะองค์อัครศิลปิน ผู้ทรงมีคุณูปการในด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยทุกแขนง โดยเฉพาะดนตรี นาฎศิลป์ และจิตรกรรม
สำหรับการแสดงครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. การแสดงรำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นเนื่องในโอกาสครบ 50 วัน ปัญญาสมวาร และได้พระราชทานให้กับ สบศ. 2. การแสดงรำสาธุการบูชา โดยครูผู้ได้รับพระราชทานครอบเป็นประธานไหว้ครูโขนละคร และครอบต่อหน้าองค์พระพิราพจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปี 2547 พร้อมกับศิลปินแห่งชาติ และครูอาวุโสที่สืบทอดพิธีไหว้ครูสายหลวง 3. การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ยกรบชุดใหญ่ 4. การแสดงบัลเล เรื่องมโนราห์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ 5. เพลงพระราชนิพนธ์ ตลอดจนการวาดภาพของศิลปินร่วมสมัยของช่างศิลป์ ใช้นักแสดงกว่า 500 คน โดยจะแสดงในเวลา 18.00 น. ทั้งที่บริเวณหน้าพระอุโบสถบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้วหน้า) และที่วิทยาลัยนาฎศิลป์ทั่วประเทศ
"สำหรับความพิเศษของการแสดงครั้งนี้ คือ สบศ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่พระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นใหม่ ในขื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมกาภูมิพลอดุลยเดช ทรงนำประเทศให้เจริญรุ่งเรือง แต่เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ก็ได้มีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกรูสืบพระราชวงศ์ต่อมา และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้พระราชทานให้และถือเป็นครั้งแรกที่ สบศ. จะนำมาใช้เปิดการแสดงถวายแด่รัชกาลที่ 9 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดได้" ดร.สุรัตน์ กล่าว
สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 80 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดดำเรียบร้อยจำนวนมากจากทั่วประเทศ เดินทางมาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นางสาวมีนา เติมอาหลี อายุ 45 ปี ชาวตำบลคลองอุ่นตะเภา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านในตำบล จำนวน 180 คน โดยออกจากสงขลา เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 มกราคม พักค้างคืน 1 คืน แล้วจึงมาต่อแถวเข้าคิวตั้งแต่เวลา 00.01 น. ซึ่งความรู้สึกก้าวแรกที่ได้เข้าไปกราบสักการะก็รู้สึกดีใจจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดใดได้ เป็นครั้งแรก ต่างจากที่คิดภาพไว้มาก น้ำตาเกือบไหลออกมา เมื่ออยู่ใกล้พ่อหลวงแล้วก็ไม่อยากลงจากพระที่นั่งเลย เพราะรู้สึกรักพระองค์มาก
ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 ม.ค. จากกำหนดเดิมในเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอคิวกราบพระบรมศพ ในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 57,361 คน รวม 79 วัน มี 3,493,764 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,240,368.75 บาท รวม 79 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 288,980,080.29 บาท
วานนี้ ( 19 ม.ค.) ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า สบศ.จะจัดการแสดงในโอกาสพระราชพิธีสตมวาร ครบ 100 วัน ภายใต้ชื่องาน "บรมครูสานศิลป์แผ่นดินไทย" เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะองค์อัครศิลปิน ผู้ทรงมีคุณูปการในด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยทุกแขนง โดยเฉพาะดนตรี นาฎศิลป์ และจิตรกรรม
สำหรับการแสดงครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. การแสดงรำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นเนื่องในโอกาสครบ 50 วัน ปัญญาสมวาร และได้พระราชทานให้กับ สบศ. 2. การแสดงรำสาธุการบูชา โดยครูผู้ได้รับพระราชทานครอบเป็นประธานไหว้ครูโขนละคร และครอบต่อหน้าองค์พระพิราพจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปี 2547 พร้อมกับศิลปินแห่งชาติ และครูอาวุโสที่สืบทอดพิธีไหว้ครูสายหลวง 3. การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ยกรบชุดใหญ่ 4. การแสดงบัลเล เรื่องมโนราห์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ 5. เพลงพระราชนิพนธ์ ตลอดจนการวาดภาพของศิลปินร่วมสมัยของช่างศิลป์ ใช้นักแสดงกว่า 500 คน โดยจะแสดงในเวลา 18.00 น. ทั้งที่บริเวณหน้าพระอุโบสถบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้วหน้า) และที่วิทยาลัยนาฎศิลป์ทั่วประเทศ
"สำหรับความพิเศษของการแสดงครั้งนี้ คือ สบศ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่พระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นใหม่ ในขื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมกาภูมิพลอดุลยเดช ทรงนำประเทศให้เจริญรุ่งเรือง แต่เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ก็ได้มีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกรูสืบพระราชวงศ์ต่อมา และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้พระราชทานให้และถือเป็นครั้งแรกที่ สบศ. จะนำมาใช้เปิดการแสดงถวายแด่รัชกาลที่ 9 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดได้" ดร.สุรัตน์ กล่าว
สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 80 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดดำเรียบร้อยจำนวนมากจากทั่วประเทศ เดินทางมาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นางสาวมีนา เติมอาหลี อายุ 45 ปี ชาวตำบลคลองอุ่นตะเภา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านในตำบล จำนวน 180 คน โดยออกจากสงขลา เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 มกราคม พักค้างคืน 1 คืน แล้วจึงมาต่อแถวเข้าคิวตั้งแต่เวลา 00.01 น. ซึ่งความรู้สึกก้าวแรกที่ได้เข้าไปกราบสักการะก็รู้สึกดีใจจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดใดได้ เป็นครั้งแรก ต่างจากที่คิดภาพไว้มาก น้ำตาเกือบไหลออกมา เมื่ออยู่ใกล้พ่อหลวงแล้วก็ไม่อยากลงจากพระที่นั่งเลย เพราะรู้สึกรักพระองค์มาก
ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 ม.ค. จากกำหนดเดิมในเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอคิวกราบพระบรมศพ ในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 57,361 คน รวม 79 วัน มี 3,493,764 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,240,368.75 บาท รวม 79 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 288,980,080.29 บาท