วันครูแห่งชาติ วันจันทร์ที่16 มกราคม 2560 ผ่านพ้นไปแล้ว โดยปีนี้ แม่พิมพ์ของชาติที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดคือ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือสมญานาม “ครูแพะ”
แม้ประสบเคราะห์กรรมต้องติดคุกอยู่ปีเศษ ในข้อหาขับรถชนคนตาย ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ครอบครัวแตกสลาย ชีวิตราชการพังทลาย แต่วิบากกรรมคุณครูจอมทรัพย์ยังไม่จบสิ้น เพราะยังต้องดิ้นรนต่อสู้ทวงคืนความยุติธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
คดีครูจอมทรัพย์ กำลังเป็นอีกหนึ่งกรณีของความขัดแย้งระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับประชาชน ซึ่งต้องรับกรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และมักจะลงเอยโดยที่ประชาชนต้องน้ำตาตกใน ขณะที่ตำรวจไม่ต้องรับผิดอะไร
ข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับตำรวจนับสิบนับร้อยคดี ต้องปิดฉากลง โดยประชาชนต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ แม้แต่กรณีครูจอมทรัพย์ ซึ่งคนทั้งประเทศให้ความสนใจ ส่งกำลังใจช่วยอย่างท่วมท้น สื่อมวลชนเปิดโปงความอยุติธรรมที่ถูกยัดเยียดอย่างเกาะติด แต่สุดท้าย ครูจอมทรัพย์อาจต้องเผชิญวิบากกรรมซ้ำสอง
ความยุติธรรมที่เรียกหา อาจไม่ได้รับคืน แม้ว่าผู้กระทำผิดตัวจริง ผู้ก่อเหตุขับรถชนคนตายจะออกมายอมรับสารภาพ และมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดยืนยันแล้วก็ตาม แต่ตำรวจตั้งป้อมปฏิเสธความผิดพลาดในกระบวนการสอบสวนดำเนินคดี ไม่ยอมรับว่า ได้ผลักไสคนบริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ติดคุกฟรี
แม้ประชาชนทั่วประเทศจะยืนเคียงข้างครูจอมทรัพย์ แต่เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งธงปกป้องพนักงานสอบสวน คงไม่มีตำรวจคนใดต้องรับผิดในคดีครูแพะ
ขบวนการอุบาทว์ที่มักปรากฏตัว ช่วงเวลาที่ตำรวจมีปัญหาพิพาทกับประชาชน ปรากฏตัวอีกแล้วในคดีครูจอมทรัพย์ โดยพยายามสร้างข่าวเบี่ยงประเด็น อ้างว่า ผู้กระทำผิดตัวจริงที่ออกมารับสารภาพ ถูกว่าจ้างให้มารับผิด
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติขุด “มุก” เดิมๆ มาเล่นอีก โดยพยายามขู่คู่กรณี ประกาศจะฟ้องกลับครูจอมทรัพย์ในข้อหาให้การเท็จ
ถ้าครูจอมทรัพย์ยอมเสียแต่แรก บางทีอาจหลุดพ้นคดีไปแล้ว แต่เพราะความเป็นครูที่มั่นคงในหลักการ เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ยุติธรรม และต่อต้านระบบสินบนอย่างเด็ดเดี่ยว จึงทำให้ตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อความอยุติธรรม
“ถ้าเสียเงินให้ตำรวจอย่างนี้ทุกๆ คน กระบวนการยุติธรรมมันก็ไม่ยุติธรรม ตำรวจก็ได้ใจ ระบบวงจรอุบาทว์นี้ก็จะมีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนก็ตกเป็นเหยื่อของตำรวจซิ” นี่เป็นหนึ่งในคำพูดของครูแพะที่ตอบผู้คุม และนักโทษด้วยกันระหว่างติดคุก ซึ่งถามว่า ทำไมไม่เสียเงินให้ตำรวจตั้งแต่แรก
คำพูดที่ครูจอมทรัพย์ให้สัมภาษณ์สื่อ เป็นคำพูดที่เสียดแทง และเหยียบตรงไปที่ “ตาปลา” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนอาจจุดชนวนให้ตำรวจแทบทั้งสำนักงานฯ ลุกฮือมารุมสกรัมครูจอมทรัพย์
การค้าสำนวนเปลี่ยนขาวให้เป็นดำ ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด นอกจากตำรวจแล้ว จะมีใครออกมาปฏิเสธว่า พฤติกรรมอุบาทว์เหล่านี้ไม่เกิดขึ้นจริงในกระบวนการยุติธรรม
ครูจอมทรัพย์ควรได้รับคืนความยุติธรรมในทันที เพราะผู้กระทำผิดตัวจริงปรากฏตัวยอมรับสารภาพ มีพยานหลักฐานยืนยัน แต่เพียงเพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ยอมรับความบกพร่อง ปฏิเสธความผิดพลาดในกระบวนการสอบสวน และต้องการปกป้องพวกพ้องตัวเอง ความยุติธรรมจึงยังเดินทางไปไม่ถึงครูจอมทรัพย์
และถ้าปล่อยให้ครูจอมทรัพย์เดินหน้าไขว่คว้าหาความยุติธรรมเพียงลำพัง ต้องเผชิญหน้ากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดาหน้าออกมาต่อล้อต่อเถียงไม่เลิก แถมยังยืนกรานที่จะไม่รับผิดชอบใดๆ ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ติดคุก ทุกฝ่ายคงรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่า ความยุติธรรมจะไม่มีวันถูกหยิบยื่นให้ครูจอมทรัพย์
ความบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำ กลางน้ำหรือปลายน้ำเกิดขึ้นซ้ำซาก ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องรับกรรมนับครั้งไม่ถ้วน และถ้าไม่ได้รับการทบทวนแก้ไข จะมีคนบริสุทธิ์ต้องเซ่นสังเวยความสะเพร่าในกระบวนการยุติธรรมไม่รู้จักจบสิ้น
ครูจอมทรัพย์ตกอยู่ในฐานะ “แพะ” รายล่าสุดที่ต้องสังเวยกระบวนการสอบสวนของตำรวจ และเมื่อลุกขึ้นมาเรียกร้องทวงคืนความเป็นธรรม กลับถูกตำรวจแทบทั้งสำนักงานฯ ออกมารุมสกรัม ซึ่งทุกคนในประเทศนี้รู้กันดีว่า ถ้าตำรวจตั้งธงไว้ทางไหนแล้ว ไม่มีใครขวางทางตำรวจได้
ถ้าปล่อยให้ครูจอมทรัพย์ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ตำรวจไม่มีวันหยิบยื่นคืนความเป็นธรรมให้แน่
คนที่จะช่วยให้ครูจอมทรัพย์ได้รับความยุติธรรมมีเพียงคนเดียว มีเพียงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์จะใจจืดใจดำยืนดูครูจอมทรัพย์ ถูกตำรวจรุมสกรัมหรือ ผู้นำประเทศนี้ จะไม่พูดถึงเคราะห์กรรมแม่พิมพ์ของชาติที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบี้ยวบ้างเลยหรือ
นโยบายสร้างความปรองดองหยุดไว้ก่อนดีไหม หันมาเร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เร่งปฏิรูปตำรวจไม่ดีกว่าหรือ เพราะประชาชนทนถูกยัดเยียดความอยุติธรรมไม่ไหวแล้ว
แม้ประสบเคราะห์กรรมต้องติดคุกอยู่ปีเศษ ในข้อหาขับรถชนคนตาย ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ครอบครัวแตกสลาย ชีวิตราชการพังทลาย แต่วิบากกรรมคุณครูจอมทรัพย์ยังไม่จบสิ้น เพราะยังต้องดิ้นรนต่อสู้ทวงคืนความยุติธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
คดีครูจอมทรัพย์ กำลังเป็นอีกหนึ่งกรณีของความขัดแย้งระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับประชาชน ซึ่งต้องรับกรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และมักจะลงเอยโดยที่ประชาชนต้องน้ำตาตกใน ขณะที่ตำรวจไม่ต้องรับผิดอะไร
ข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับตำรวจนับสิบนับร้อยคดี ต้องปิดฉากลง โดยประชาชนต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ แม้แต่กรณีครูจอมทรัพย์ ซึ่งคนทั้งประเทศให้ความสนใจ ส่งกำลังใจช่วยอย่างท่วมท้น สื่อมวลชนเปิดโปงความอยุติธรรมที่ถูกยัดเยียดอย่างเกาะติด แต่สุดท้าย ครูจอมทรัพย์อาจต้องเผชิญวิบากกรรมซ้ำสอง
ความยุติธรรมที่เรียกหา อาจไม่ได้รับคืน แม้ว่าผู้กระทำผิดตัวจริง ผู้ก่อเหตุขับรถชนคนตายจะออกมายอมรับสารภาพ และมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดยืนยันแล้วก็ตาม แต่ตำรวจตั้งป้อมปฏิเสธความผิดพลาดในกระบวนการสอบสวนดำเนินคดี ไม่ยอมรับว่า ได้ผลักไสคนบริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ติดคุกฟรี
แม้ประชาชนทั่วประเทศจะยืนเคียงข้างครูจอมทรัพย์ แต่เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งธงปกป้องพนักงานสอบสวน คงไม่มีตำรวจคนใดต้องรับผิดในคดีครูแพะ
ขบวนการอุบาทว์ที่มักปรากฏตัว ช่วงเวลาที่ตำรวจมีปัญหาพิพาทกับประชาชน ปรากฏตัวอีกแล้วในคดีครูจอมทรัพย์ โดยพยายามสร้างข่าวเบี่ยงประเด็น อ้างว่า ผู้กระทำผิดตัวจริงที่ออกมารับสารภาพ ถูกว่าจ้างให้มารับผิด
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติขุด “มุก” เดิมๆ มาเล่นอีก โดยพยายามขู่คู่กรณี ประกาศจะฟ้องกลับครูจอมทรัพย์ในข้อหาให้การเท็จ
ถ้าครูจอมทรัพย์ยอมเสียแต่แรก บางทีอาจหลุดพ้นคดีไปแล้ว แต่เพราะความเป็นครูที่มั่นคงในหลักการ เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ยุติธรรม และต่อต้านระบบสินบนอย่างเด็ดเดี่ยว จึงทำให้ตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อความอยุติธรรม
“ถ้าเสียเงินให้ตำรวจอย่างนี้ทุกๆ คน กระบวนการยุติธรรมมันก็ไม่ยุติธรรม ตำรวจก็ได้ใจ ระบบวงจรอุบาทว์นี้ก็จะมีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนก็ตกเป็นเหยื่อของตำรวจซิ” นี่เป็นหนึ่งในคำพูดของครูแพะที่ตอบผู้คุม และนักโทษด้วยกันระหว่างติดคุก ซึ่งถามว่า ทำไมไม่เสียเงินให้ตำรวจตั้งแต่แรก
คำพูดที่ครูจอมทรัพย์ให้สัมภาษณ์สื่อ เป็นคำพูดที่เสียดแทง และเหยียบตรงไปที่ “ตาปลา” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนอาจจุดชนวนให้ตำรวจแทบทั้งสำนักงานฯ ลุกฮือมารุมสกรัมครูจอมทรัพย์
การค้าสำนวนเปลี่ยนขาวให้เป็นดำ ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด นอกจากตำรวจแล้ว จะมีใครออกมาปฏิเสธว่า พฤติกรรมอุบาทว์เหล่านี้ไม่เกิดขึ้นจริงในกระบวนการยุติธรรม
ครูจอมทรัพย์ควรได้รับคืนความยุติธรรมในทันที เพราะผู้กระทำผิดตัวจริงปรากฏตัวยอมรับสารภาพ มีพยานหลักฐานยืนยัน แต่เพียงเพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ยอมรับความบกพร่อง ปฏิเสธความผิดพลาดในกระบวนการสอบสวน และต้องการปกป้องพวกพ้องตัวเอง ความยุติธรรมจึงยังเดินทางไปไม่ถึงครูจอมทรัพย์
และถ้าปล่อยให้ครูจอมทรัพย์เดินหน้าไขว่คว้าหาความยุติธรรมเพียงลำพัง ต้องเผชิญหน้ากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดาหน้าออกมาต่อล้อต่อเถียงไม่เลิก แถมยังยืนกรานที่จะไม่รับผิดชอบใดๆ ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ติดคุก ทุกฝ่ายคงรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่า ความยุติธรรมจะไม่มีวันถูกหยิบยื่นให้ครูจอมทรัพย์
ความบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำ กลางน้ำหรือปลายน้ำเกิดขึ้นซ้ำซาก ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องรับกรรมนับครั้งไม่ถ้วน และถ้าไม่ได้รับการทบทวนแก้ไข จะมีคนบริสุทธิ์ต้องเซ่นสังเวยความสะเพร่าในกระบวนการยุติธรรมไม่รู้จักจบสิ้น
ครูจอมทรัพย์ตกอยู่ในฐานะ “แพะ” รายล่าสุดที่ต้องสังเวยกระบวนการสอบสวนของตำรวจ และเมื่อลุกขึ้นมาเรียกร้องทวงคืนความเป็นธรรม กลับถูกตำรวจแทบทั้งสำนักงานฯ ออกมารุมสกรัม ซึ่งทุกคนในประเทศนี้รู้กันดีว่า ถ้าตำรวจตั้งธงไว้ทางไหนแล้ว ไม่มีใครขวางทางตำรวจได้
ถ้าปล่อยให้ครูจอมทรัพย์ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ตำรวจไม่มีวันหยิบยื่นคืนความเป็นธรรมให้แน่
คนที่จะช่วยให้ครูจอมทรัพย์ได้รับความยุติธรรมมีเพียงคนเดียว มีเพียงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์จะใจจืดใจดำยืนดูครูจอมทรัพย์ ถูกตำรวจรุมสกรัมหรือ ผู้นำประเทศนี้ จะไม่พูดถึงเคราะห์กรรมแม่พิมพ์ของชาติที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบี้ยวบ้างเลยหรือ
นโยบายสร้างความปรองดองหยุดไว้ก่อนดีไหม หันมาเร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เร่งปฏิรูปตำรวจไม่ดีกว่าหรือ เพราะประชาชนทนถูกยัดเยียดความอยุติธรรมไม่ไหวแล้ว