ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2540 หลังเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ได้มีข่าวปรากฏในหนังสือพิมพ์ว่า โตโยต้าจะปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงานกว่า 5,500 คน แม้ผู้บริหารระดับสูงในขณะนั้นได้แถลงข่าวว่าจะไม่มีการปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงห่วงใยพนักงานโตโยต้า ในวันที่ 6 พฤศจิกายน เลขานุการส่วนพระองค์ ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชประสงค์สั่งซื้อรถยนต์โตโยต้า โซลูน่า 1 คัน โดยให้พนักงานใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ พนักงานคนไทยจะได้มีงานทำนานๆ
ราวหนึ่งเดือนต่อมา เมื่อผู้บริหารบริษัทโตโยต้านำรถไปถวายพระองค์ท่านในเดือนธันวาคม 2540 พระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 600,000 บาท แต่ทางโตโยต้าไม่สามารถรับเงินได้ พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริใหม่ว่า ให้นำเงินไปตั้งโรงสีข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนาละแวกใกล้เคียง เพราะโตโยต้า มีระบบการบริหารจัดการที่ดี จึงควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่างขึ้น
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆที่เข้าเฝ้าฯถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2540 “...ข้าวที่โรงสีนี้ เป็นข้าวที่ไปซื้อจากเกษตกรโดยตรง โดยที่ให้ราคาที่เหมาะสม เกษตรกรก็มีความสุข เพราะขายข้าวในราคาที่เหมาะสม และผู้บริโภคก็ซื้อได้ในราคาถูก เพราะว่าไม่ต้องมีการขนส่งมากเกินไป ไม่ต้องมีคนกลางมากเกินไป ตกลงทั้งผู้ผลิต ทั้งผู้บริโภคก็มีความสุข
บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้ก่อตั้งโรงสีข้าวตามแบบอย่างโรงสีจิตรลดา เพื่อช่วยเหลือชาวนา ด้วยการรับซื้อข้าวเปลือกราคาสูง นำมาสีและจำหน่ายในราคาเหมาะสมแก่ผู้บริโภค จำหน่ายผลพลอยได้จากการสีข้าวแก่เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ในราคาต่ำกว่าตลาด พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนก่อตั้ง และพระราชทานนาม “บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด” โดยได้ริเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2542 เป็นต้นมา
นับแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 17 ปีแล้ว บริษัทข้าวรัชมงคลฯ ยังคงสานต่อพระปณิธานด้วย วัตถุประสงค์ 3 ประการคือ พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและชุมชนใกล้เคียง รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาและสหกรณ์ชุมชนในราคายุติธรรม และจำหน่ายข้าวสารราคาที่เหมาะสมแก่ผู้บริโภค
“ศูนย์นาสาธิตรัชมงคล” กับ “วิถีโตโยต้า” แหล่งเรียนรู้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากผลการศึกษาของ สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าชาวนาไทยในปัจจุบันประสบปัญหาผลผลิตต่อไร่ต่ำ ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งมีผลมาจากการใช้ปัจจัยการผลิต เช่น เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยเกินความจำเป็น ทางบริษัทข้าวรัชมงคลฯ เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนาไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการจัดตั้งศูนย์นาสาธิตรัชมงคลขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบในการปรับปรุงกระบวนการปลูกข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อเผยแพร่ให้กับชาวนาไทยทั่วประเทศ
การจัดตั้งศูนย์นาสาธิตรัชมงคลนี้ได้นำนวัตกรรมและความรู้อันเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลของโตโยต้าได้แก่ ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) วิถีโตโยต้า (Toyota way) และการไคเซ็น (Kaizen) เข้ามาช่วยปรับปรุงกระบวนการปลูกข้าว อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้แก่ กรมการข้าว เข้ามาให้คำแนะนำทางวิชาการและสนับสนุนข้อมูลการวิจัยในด้านการปลูกข้าวที่เหมาะสม และบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด สนับสนุนเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว
ภาพยนตร์ชุดนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และแสดงถึงคำมั่นสัญญาที่จะน้อมนำและปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระองค์ที่ได้พระราชทานไว้
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)