ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้เข้าขั้นวิกฤต ชุมพร พัทลุง ตรังอ่วม อ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช หนักสุดน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ประชาชนกว่า9,800 ครัวเรือนเดือดร้อนหนัก น้ำป่าซัดรถกระบะจมหายหน้า ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยเสียชีวิตอีก 2 ราย เผยวิกฤตสุดในรอบ 100 ปี "บิ๊กตู่"เร่งลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ 6ม.ค. พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมด้านความมั่นคงชายแดนใต้ ด้านผบ.ทบ. กำชับ ทภ.4 เร่งให้ความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มีกำหนดเดินทางไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง และประชุมกรอ.กลุ่มจังหวัด ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ โดยเวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางจากท่าอากาศยาน บน.6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ห้องปฏิบัติงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ชั้น 2 ศาลากลาง จังหวัดนราธิวาส ก่อนเป็นประธานประชุมด้านความมั่นคงและกรอ.กลุ่มจังหวัด ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
ส่วนในช่วงบ่าย นายกฯและคณะ เดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวน 1,000 คน และพบปะพูดคุย นอกจากนี้นายกฯ จะเดินไปที่มัสยิดกลาง อำเภอระแงะ เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน จำนวน 1,000 คน ก่อนจะเดินทางไปยังท่าอากาศยานราธิวาส เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 16.20 น.
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะ เลขาธิการคสช. เป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างมาก โดยผบ.ทบ. ได้ลงพื้นที่ (5ม.ค.) เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้กำชับให้กองทัพภาค 4 ในการส่งกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในเบื้องต้นได้ร่วมมือกับหน่าวยงานราชการ และภาคเอกชน ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือในทุกมิติ ทั้งในด้าน การอพยพคน ขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย การดูแลที่อยู่อาศัย และเรื่องอาหาร เมื่อน้ำลดก็จะระดมกำลัง เข้าร่วมฟื้นฟู ซ่อมแซมบ้านเรือ และถนน สะพาน กลับคืนสภาพปกติโดยเร็ว
โดยวานนี้ (5 ม.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ทั้ง จ.นครศรีธรรมราช ชุมพร ตรัง พัทลุง สุราษฎร์ธานี ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ประชาชนหลายพันครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากน้ำจากเทือกเขาบรรทัดรวมทั้งน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทั้งอำเภอ ทำให้ประชาชนกว่า 9,800 ครัวเรือนเดือดร้อนหนักเพราะระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ถือว่าวิกฤติหนักสุดในรอบ 100 ปี นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอจุฬาภรณ์ ต้องประสานไปยังทหารและจังหวัดเพื่อขอรับความช่วยเหลือ แต่การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ปัจจุบันค่อนข้างลำบาก เพราะระดับน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ เนื่องจากไม่สามารถพายสวนกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้
ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจะมีการระดมทุกหน่วยงานเข้ามาประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยตลอดทั้งวันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 15,000 ครัวเรือน จากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร
**พบศพ 2 แม่ลูกถูกน้ำป่าซัด
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุร่วมใจทุ่งสง ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์กระบะของ 3 พ่อแม่ลูกถูกกระแสน้ำป่าพัดสูญหายที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไสใหญ่ ม.2 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงจัดกำลังอาสาฯลงพื้นที่ โดยใช้เวลาค้นหา7 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายห่างจากจุดพบรถคันเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร รายที่ 1 เป็นเพศหญิง อายุ 51 ปี รายที่ 2 เพศชาย อายุ 20 ปีทั้ง 2เป็นแม่ลูกกัน
ส่วนผู้เป็นพ่อรอดชีวิต สามารถฝ่ากระแสน้ำออกมาได้หลังเกิดเหตุ อาสาสมัครอำนวยความสะดวกด้านการชันสูตร พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ตามคำสั่งพนักงานสอบสวนก่อนที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลทุ่งสง (ควนไม้แดง) และส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
**ชุมพรน้ำป่าหลาก-ดินสไลด์ร.ร.หยุดยาว
ขณะที่ จ.ชุมพร ในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างหนัก จนทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.พะโต๊ะ อย่างหนัก จนถนนสายหลังสวน-พะโต๊ะ เขตพื้นที่ อ.พะโต๊ะ บางจุดมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร จนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ นอกจากนี้ ยังเกิดดินภูเขาไหลลงมาปิดเส้นทางอีกหลายจุด รวมทั้งเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ล้มลงขวางบนถนนตั้งแต่หลัก กม.ที่ 50-51 ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.ระนองได้
ส่วนที่ จ.ตรัง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลหลากลงมาท่วมหลายพื้นที่ของ อ.นาโยง และ อ.เมืองตรังในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ได้ไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลนครตรัง ทำให้หลายชุมชนในที่ลุ่มต้องประสบต่อปัญหาน้ำท่วมแล้วไม่ว่าจะเป็นชุมชนกะพังสุรินทร์ ชุมชนอนุสาวรีย์ ชุมชนควนขัน ชุมชนควนขนุน ชุมชนหลังสนามกีฬา
ล่าสุดนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ประกาศให้ 5 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมฉุกเฉินแล้ว ได้แก่ อ.รัษฎา อ.นาโยง อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ และ อ.เมืองตรัง มีประชาชนเดือดร้อนแล้วเกือบ 10,000 หลังคาเรือน หรือกว่า 20,000 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนสายเลี่ยงเมืองในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 6 อำเภอ อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาสาร อ.ท่าชนะ อ.ไชยา โดยระดับน้ำบางจุดสูงประมาณ 1 เมตร
**"พัทลุง" ยังวิกฤตปริมาณสูงเพิ่มขึ้น
ส่วนในพื้นที่ จ.พัทลุง ยังคงวิกฤต เมื่อช่วงเช้าวานนี้มวลน้ำป่าที่ไหลหลากท่วมพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัดก่อนหน้านี้ 2 วันได้ไหลหลากลงมาท่วมในพื้นที่ลุ่มด้านล่าง และน้ำมีปริมาณที่สูงเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ต.มะกอกเหนือ ต.ปันแต ต.แหลมโตนด ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน และ ต.พญาขันต์ ต.ชัยบุรี ต.ลำปำ อ.เมือง โดยในพื้นที่ ต.แหลมโตนด และ ต.มะกอกเหนือ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักบวกกับมวลน้ำป่าที่ไหลหลากมาสมทบกันทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงเกือบ 2 เมตร นอกจากนี้ ยังเกิดดินสไลด์ลงมาเพิ่มอีกหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4 ต.ลำสินต์ หินภูเขาได้พังถล่มลงมาทับสวนยังพาราได้รับความเสียหายกว่า 2 ไร่ และบริเวณหมู่ 6 ต.ลำสินต์ อีกเช่นกัน ดินภูเขาได้สไลด์พังลงมาเป็นบริเวณกว้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มีกำหนดเดินทางไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง และประชุมกรอ.กลุ่มจังหวัด ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ โดยเวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางจากท่าอากาศยาน บน.6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ห้องปฏิบัติงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ชั้น 2 ศาลากลาง จังหวัดนราธิวาส ก่อนเป็นประธานประชุมด้านความมั่นคงและกรอ.กลุ่มจังหวัด ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
ส่วนในช่วงบ่าย นายกฯและคณะ เดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวน 1,000 คน และพบปะพูดคุย นอกจากนี้นายกฯ จะเดินไปที่มัสยิดกลาง อำเภอระแงะ เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน จำนวน 1,000 คน ก่อนจะเดินทางไปยังท่าอากาศยานราธิวาส เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 16.20 น.
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะ เลขาธิการคสช. เป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างมาก โดยผบ.ทบ. ได้ลงพื้นที่ (5ม.ค.) เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้กำชับให้กองทัพภาค 4 ในการส่งกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในเบื้องต้นได้ร่วมมือกับหน่าวยงานราชการ และภาคเอกชน ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือในทุกมิติ ทั้งในด้าน การอพยพคน ขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย การดูแลที่อยู่อาศัย และเรื่องอาหาร เมื่อน้ำลดก็จะระดมกำลัง เข้าร่วมฟื้นฟู ซ่อมแซมบ้านเรือ และถนน สะพาน กลับคืนสภาพปกติโดยเร็ว
โดยวานนี้ (5 ม.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ทั้ง จ.นครศรีธรรมราช ชุมพร ตรัง พัทลุง สุราษฎร์ธานี ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ประชาชนหลายพันครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากน้ำจากเทือกเขาบรรทัดรวมทั้งน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทั้งอำเภอ ทำให้ประชาชนกว่า 9,800 ครัวเรือนเดือดร้อนหนักเพราะระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ถือว่าวิกฤติหนักสุดในรอบ 100 ปี นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอจุฬาภรณ์ ต้องประสานไปยังทหารและจังหวัดเพื่อขอรับความช่วยเหลือ แต่การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ปัจจุบันค่อนข้างลำบาก เพราะระดับน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ เนื่องจากไม่สามารถพายสวนกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้
ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจะมีการระดมทุกหน่วยงานเข้ามาประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยตลอดทั้งวันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 15,000 ครัวเรือน จากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร
**พบศพ 2 แม่ลูกถูกน้ำป่าซัด
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุร่วมใจทุ่งสง ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์กระบะของ 3 พ่อแม่ลูกถูกกระแสน้ำป่าพัดสูญหายที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไสใหญ่ ม.2 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงจัดกำลังอาสาฯลงพื้นที่ โดยใช้เวลาค้นหา7 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายห่างจากจุดพบรถคันเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร รายที่ 1 เป็นเพศหญิง อายุ 51 ปี รายที่ 2 เพศชาย อายุ 20 ปีทั้ง 2เป็นแม่ลูกกัน
ส่วนผู้เป็นพ่อรอดชีวิต สามารถฝ่ากระแสน้ำออกมาได้หลังเกิดเหตุ อาสาสมัครอำนวยความสะดวกด้านการชันสูตร พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ตามคำสั่งพนักงานสอบสวนก่อนที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลทุ่งสง (ควนไม้แดง) และส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
**ชุมพรน้ำป่าหลาก-ดินสไลด์ร.ร.หยุดยาว
ขณะที่ จ.ชุมพร ในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างหนัก จนทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.พะโต๊ะ อย่างหนัก จนถนนสายหลังสวน-พะโต๊ะ เขตพื้นที่ อ.พะโต๊ะ บางจุดมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร จนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ นอกจากนี้ ยังเกิดดินภูเขาไหลลงมาปิดเส้นทางอีกหลายจุด รวมทั้งเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ล้มลงขวางบนถนนตั้งแต่หลัก กม.ที่ 50-51 ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.ระนองได้
ส่วนที่ จ.ตรัง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลหลากลงมาท่วมหลายพื้นที่ของ อ.นาโยง และ อ.เมืองตรังในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ได้ไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลนครตรัง ทำให้หลายชุมชนในที่ลุ่มต้องประสบต่อปัญหาน้ำท่วมแล้วไม่ว่าจะเป็นชุมชนกะพังสุรินทร์ ชุมชนอนุสาวรีย์ ชุมชนควนขัน ชุมชนควนขนุน ชุมชนหลังสนามกีฬา
ล่าสุดนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ประกาศให้ 5 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมฉุกเฉินแล้ว ได้แก่ อ.รัษฎา อ.นาโยง อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ และ อ.เมืองตรัง มีประชาชนเดือดร้อนแล้วเกือบ 10,000 หลังคาเรือน หรือกว่า 20,000 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนสายเลี่ยงเมืองในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 6 อำเภอ อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาสาร อ.ท่าชนะ อ.ไชยา โดยระดับน้ำบางจุดสูงประมาณ 1 เมตร
**"พัทลุง" ยังวิกฤตปริมาณสูงเพิ่มขึ้น
ส่วนในพื้นที่ จ.พัทลุง ยังคงวิกฤต เมื่อช่วงเช้าวานนี้มวลน้ำป่าที่ไหลหลากท่วมพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัดก่อนหน้านี้ 2 วันได้ไหลหลากลงมาท่วมในพื้นที่ลุ่มด้านล่าง และน้ำมีปริมาณที่สูงเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ต.มะกอกเหนือ ต.ปันแต ต.แหลมโตนด ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน และ ต.พญาขันต์ ต.ชัยบุรี ต.ลำปำ อ.เมือง โดยในพื้นที่ ต.แหลมโตนด และ ต.มะกอกเหนือ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักบวกกับมวลน้ำป่าที่ไหลหลากมาสมทบกันทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงเกือบ 2 เมตร นอกจากนี้ ยังเกิดดินสไลด์ลงมาเพิ่มอีกหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4 ต.ลำสินต์ หินภูเขาได้พังถล่มลงมาทับสวนยังพาราได้รับความเสียหายกว่า 2 ไร่ และบริเวณหมู่ 6 ต.ลำสินต์ อีกเช่นกัน ดินภูเขาได้สไลด์พังลงมาเป็นบริเวณกว้าง