อดีตคือความฝัน ปัจจุบันคือความจริง และอนาคตคือความหวัง นี่คือข้อคิดเกี่ยวกับกาลเวลา หรืออีกนัยหนึ่งเมื่อกาลเวลามาเกี่ยวข้องกับสรรพสิ่ง มีคำสอนของพระพุทธองค์เกี่ยวกับเรื่องนี้เตือนใจชาวพุทธมิให้ใช้ชีวิตอย่างประมาทขาดสติว่า กาลเวลาย่อมกลืฯกินอายุของสรรพสัตว์ โดยนัยแห่งคำสอนดังกล่าวข้างต้น บอกให้เรารู้ว่า เมื่อกาลเวลาผ่านไป อายุของเราท่านทั้งหลายได้เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกัน เราได้สูญเสียกาลเวลาไป โดยไม่มีการจะได้กลับคืนมา หรือจะพูดให้จำง่ายๆ ในแบบของปรัชญาได้ว่า อายุที่เราได้มาก็คือเวลาที่เราเสียไปนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ได้ผ่านไป สรรพสัตว์และสรรพสิ่งมีอายุเพิ่มขึ้น 1 ปี และในขณะเดียวกัน ก็ได้สูญเสียเวลาที่จะกำลังรออยู่ 1 ปีเช่นกัน
เมื่อกาลเวลาเป็นตัวกำหนดการดำรงอยู่ของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่เป็นเจ้าของเวลาจะต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ จึงจะได้ชื่อว่าใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
โดยนัยแห่งข้อคิดดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นที่มาของบทความในวันนี้โดยมีประเทศไทย และคนไทยโดยรวม ทั้งในฐานะผู้ปกครองประเทศ และอยู่ภายใต้การปกครองเป็นเจ้าของกาลเวลา ทั้งที่ล่วงไปแล้ว 1 ปีและที่จะมาถึงอีก 1 ปีข้างหน้า เพื่อจะได้มองเหลียวหลังไปดู 1 ปีที่ผ่านมา ดูว่าได้ทำอะไรบ้างทั้งที่ดีมีประโยชน์ และทั้งที่ไม่ดีไม่มีประโยชน์ แล้วปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง และเพิ่มสิ่งที่ถูกต้องแล้วให้ถูกต้องเพิ่มขึ้น โดยใช้โหราศาสตร์เป็นเครื่องมือในการมองผ่านทางดวงเมืองดังต่อไปนี้
ในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านไป ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมได้รับผลกระทบในทางลบจากดาวใหญ่ 3 ดวง คือ
1. ดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวใหญ่ฝ่ายดี หรือฝ่ายศุภะเคราะห์มีความหมายในทางคุณธรรมความถูกต้องได้โคจรในเรือนอริ เป็นเหตุให้สังคมเสื่อมทรามในทางด้านศีลธรรม จะเห็นได้จากการเกิดปัญหาอาชญากรรมในหลายๆ รูปแบบ เช่น จี้ปล้น ชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน ค้ายาเสพติด เป็นต้น แต่ที่น่าจะพูดได้ว่าเสื่อมสุดๆ เห็นจะได้แก่พระภิกษุสงฆ์หลายรูปถูกโจทย์ด้วยอนุวาทาธิกรณ์ในข้อศีลวิบัติคือความเสียหายเกี่ยวกับศีลถึงขั้นเป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ แต่ก็ยังดื้อด้านไม่ยอมรับผิดในบางรูป ทั้งถูกโจทย์ด้วยอาบัติปาราชิก และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา แต่ก็ยังอยู่ได้โดยอาศัยกฎหมู่ต่อสู้กับกฎหมายอยู่ได้โดยที่ฝ่ายบ้านเมืองต้องหนักใจกับการแก้ไขปัญหาสงฆ์
2. ดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวใหญ่ฝ่ายบาปพระเคราะห์ และหมายถึงเกษตรกรผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น ได้โคจรในเรือนมรณะ และทำมุมเล็งอังคารในเรือนธาตุน้ำ เป็นเหตุให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วม ส่งผลกระทบถึงชาวนาในด้านการผลิต ทั้งยังส่งผลถึงราคาพืชผลที่ผลิตได้ จะเห็นได้จากการที่ชาวนาได้รับความเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วม แถมที่ผลิตได้ราคาตกต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนทำให้เดือดร้อน
3. ดาวมฤตยูเป็นดาวใหญ่ และหมายถึงความผันแปรที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย โคจรกับลัคนาเป็นเหตุให้ภัยต่างๆ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นเหตุให้คนไทยเศร้าโศกเสียใจทั้งประเทศ
ในปี พ.ศ. 2560 ปัญหาบางปัญหา ซึ่งได้เกิดขึ้นในปี 2559 จะยังคงเกิดขึ้นยืดเยื้อต่อไป แต่อาจลดความรุนแรงลง นอกจากนี้อาจมีปัญหาค่าเงินบาทอ่อนค่า และก่อปัญหาผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจ เนื่องจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ดาวใหญ่ซึ่งให้โทษในปี พ.ศ. 2559 ยังคงโคจรในตำแหน่งเดิม อันได้แก่ดาวพฤหัสบดีในช่วงกลางปีคือจาก 12 มี.ค.-6 ก.ย. ดาวเสาร์คงอยู่ในราศีพิจิกจนถึง 30 พ.ย. และดาวมฤตยูอยู่ทั้งปี แต่จะเห็นโทษน้อยลงเนื่องจากองศาอ่อนลง
2. ผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา ยังเป็นคนหน้าเดิม และแก้ปัญหาแบบเดิมๆ จึงยากที่จะแก้ปัญหาให้หมดไป ทำได้อย่างมากก็แค่ป้องกันมิให้รุนแรงกว่าเดิม แต่ถ้าเปลี่ยนตัวบุคคลหรือไม่เปลี่ยนตัวบุคคล แต่เปลี่ยนวิธีการก็อาจช่วยให้ดีขึ้นได้
3. เศรษฐกิจโลกในปี พ.ศ. 2560 จะยังคงไม่ฟื้นตัวมากพอที่จะมีกำลังซื้อรองรับการผลิตของประเทศผู้ส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าที่ผลิตได้เกินความต้องการของโลก หรือสินค้าล้นตลาด เช่น ข้าว และยางพารา เป็นต้น
ด้วยเหตุปัจจัย 3 ประการนี้ ถ้าดูจากดวงเมืองแล้ว ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมคงจะต้องทนทุกข์ และต่อสู้กับปัญหาต่อไปอย่างน้อยเกือบตลอดปี พ.ศ. 2560
แต่ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้าคนไทยยอมรับความจริงและร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้ ก็จะช่วยให้ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายไปได้ด้วยดี.
ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ได้ผ่านไป สรรพสัตว์และสรรพสิ่งมีอายุเพิ่มขึ้น 1 ปี และในขณะเดียวกัน ก็ได้สูญเสียเวลาที่จะกำลังรออยู่ 1 ปีเช่นกัน
เมื่อกาลเวลาเป็นตัวกำหนดการดำรงอยู่ของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่เป็นเจ้าของเวลาจะต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ จึงจะได้ชื่อว่าใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
โดยนัยแห่งข้อคิดดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นที่มาของบทความในวันนี้โดยมีประเทศไทย และคนไทยโดยรวม ทั้งในฐานะผู้ปกครองประเทศ และอยู่ภายใต้การปกครองเป็นเจ้าของกาลเวลา ทั้งที่ล่วงไปแล้ว 1 ปีและที่จะมาถึงอีก 1 ปีข้างหน้า เพื่อจะได้มองเหลียวหลังไปดู 1 ปีที่ผ่านมา ดูว่าได้ทำอะไรบ้างทั้งที่ดีมีประโยชน์ และทั้งที่ไม่ดีไม่มีประโยชน์ แล้วปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง และเพิ่มสิ่งที่ถูกต้องแล้วให้ถูกต้องเพิ่มขึ้น โดยใช้โหราศาสตร์เป็นเครื่องมือในการมองผ่านทางดวงเมืองดังต่อไปนี้
ในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านไป ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมได้รับผลกระทบในทางลบจากดาวใหญ่ 3 ดวง คือ
1. ดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวใหญ่ฝ่ายดี หรือฝ่ายศุภะเคราะห์มีความหมายในทางคุณธรรมความถูกต้องได้โคจรในเรือนอริ เป็นเหตุให้สังคมเสื่อมทรามในทางด้านศีลธรรม จะเห็นได้จากการเกิดปัญหาอาชญากรรมในหลายๆ รูปแบบ เช่น จี้ปล้น ชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน ค้ายาเสพติด เป็นต้น แต่ที่น่าจะพูดได้ว่าเสื่อมสุดๆ เห็นจะได้แก่พระภิกษุสงฆ์หลายรูปถูกโจทย์ด้วยอนุวาทาธิกรณ์ในข้อศีลวิบัติคือความเสียหายเกี่ยวกับศีลถึงขั้นเป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ แต่ก็ยังดื้อด้านไม่ยอมรับผิดในบางรูป ทั้งถูกโจทย์ด้วยอาบัติปาราชิก และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา แต่ก็ยังอยู่ได้โดยอาศัยกฎหมู่ต่อสู้กับกฎหมายอยู่ได้โดยที่ฝ่ายบ้านเมืองต้องหนักใจกับการแก้ไขปัญหาสงฆ์
2. ดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวใหญ่ฝ่ายบาปพระเคราะห์ และหมายถึงเกษตรกรผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น ได้โคจรในเรือนมรณะ และทำมุมเล็งอังคารในเรือนธาตุน้ำ เป็นเหตุให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วม ส่งผลกระทบถึงชาวนาในด้านการผลิต ทั้งยังส่งผลถึงราคาพืชผลที่ผลิตได้ จะเห็นได้จากการที่ชาวนาได้รับความเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วม แถมที่ผลิตได้ราคาตกต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนทำให้เดือดร้อน
3. ดาวมฤตยูเป็นดาวใหญ่ และหมายถึงความผันแปรที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย โคจรกับลัคนาเป็นเหตุให้ภัยต่างๆ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นเหตุให้คนไทยเศร้าโศกเสียใจทั้งประเทศ
ในปี พ.ศ. 2560 ปัญหาบางปัญหา ซึ่งได้เกิดขึ้นในปี 2559 จะยังคงเกิดขึ้นยืดเยื้อต่อไป แต่อาจลดความรุนแรงลง นอกจากนี้อาจมีปัญหาค่าเงินบาทอ่อนค่า และก่อปัญหาผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจ เนื่องจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ดาวใหญ่ซึ่งให้โทษในปี พ.ศ. 2559 ยังคงโคจรในตำแหน่งเดิม อันได้แก่ดาวพฤหัสบดีในช่วงกลางปีคือจาก 12 มี.ค.-6 ก.ย. ดาวเสาร์คงอยู่ในราศีพิจิกจนถึง 30 พ.ย. และดาวมฤตยูอยู่ทั้งปี แต่จะเห็นโทษน้อยลงเนื่องจากองศาอ่อนลง
2. ผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา ยังเป็นคนหน้าเดิม และแก้ปัญหาแบบเดิมๆ จึงยากที่จะแก้ปัญหาให้หมดไป ทำได้อย่างมากก็แค่ป้องกันมิให้รุนแรงกว่าเดิม แต่ถ้าเปลี่ยนตัวบุคคลหรือไม่เปลี่ยนตัวบุคคล แต่เปลี่ยนวิธีการก็อาจช่วยให้ดีขึ้นได้
3. เศรษฐกิจโลกในปี พ.ศ. 2560 จะยังคงไม่ฟื้นตัวมากพอที่จะมีกำลังซื้อรองรับการผลิตของประเทศผู้ส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าที่ผลิตได้เกินความต้องการของโลก หรือสินค้าล้นตลาด เช่น ข้าว และยางพารา เป็นต้น
ด้วยเหตุปัจจัย 3 ประการนี้ ถ้าดูจากดวงเมืองแล้ว ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมคงจะต้องทนทุกข์ และต่อสู้กับปัญหาต่อไปอย่างน้อยเกือบตลอดปี พ.ศ. 2560
แต่ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้าคนไทยยอมรับความจริงและร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้ ก็จะช่วยให้ประเทศไทยและคนไทยโดยรวมผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายไปได้ด้วยดี.
