สวนดุสิตโพลชี้ ประชาชนเห็นว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร ดีว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะ ทำงานได้เร็ว คล่องตัว มีอำนาจพิเศษ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในส่วนที่แย่พอๆกันคือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องไม่ได้ และยังมีการทุจริตคอร์รัปชัน ด้านรัฐบาลแนะทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมฉลองปีใหม่ โดยยึดใน 3 ประการ ความสามัคคี บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เชิดชูสถาบันฯ
บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าอย่างมีเสถียรภาพได้นั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับการบริหารงานของรัฐบาล ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศหลายชุด ทั้งมาจากการเลือกตั้ง และการรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลแต่ละชุดก็มีผลงานที่แตกต่างกัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล “สวนดุสิตโพล”ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน1,077 คน ระหว่างวันที่ 19-24 ธ.ค.59 สรุปผล ได้ ดังนี้
1. ข้อดี -ข้อเสีย ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร มีข้อดีคือ 1.มีอำนาจเด็ดขาด พูดจริงทำจริง 82.64% 2.บ้านเมืองสงบ ไม่มีการชุมนุมประท้วง 71.31% 3.ทำงานคล่องตัว แก้ปัญหาได้เร็ว 65.27% ส่วนข้อเสียคือ 1.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้รับการยอมรับ71.87% 2.ขาดการคานอำนาจ ตรวจสอบไม่ได้ 64.25% และ 3. ไม่ค่อยรับฟังความเห็น เผด็จการ 50.23%
2. ข้อดี -ข้อเสีย ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีข้อดีคือ 1.มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนเลือกเอง80.04% 2.มีประสบการณ์ รู้ปัญหา อยู่ในพื้นที่ 61.00% 3.สามารถตรวจสอบการทำงานได้52.27% ส่วนข้อเสียคือ 1.ทุจริตคอร์รัปชัน ซื้อสิทธิ ขายเสียง 77.72% 2. แบ่งพรรคแบ่งพวก ทะเลาะเบาะแว้ง62.12% 3.นโยบายเดิมๆ ทำงานแบบเดิมๆ หน้าเก่า 59.24%
3. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร กับ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร อันดับ 1รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร ดีกว่า 48.84% เพราะ ทำงานได้เร็ว คล่องตัว มีอำนาจพิเศษ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีผลงานให้เห็น ฯลฯ อันดับ 2 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดีกว่า 23.72% เพราะ มาจากเสียงของประชาชน เป็นประชาธิปไตย รู้ปัญหา มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ฯลฯ อันดับ 3. ดีพอๆกัน 17.83% เพราะ ไม่ว่าจะมาจากระบบใดก็สามารถบริหารบ้านเมืองได้ ทำงานได้ดี มีนโยบายที่ทำเพื่อประชาชน ฯลฯ อันดับ 4.แย่พอๆกัน 9.61% เพราะ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนไม่ได้ ยังมีการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่โปร่งใส มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ ฯลฯ
**แนะกิจกรรมปีใหม่เน้นสามัคคี-เชิดชูสถาบันฯ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ว่า รัฐบาลเน้นให้ทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมใน 3 ลักษณะ คือ 1. กิจกรรมทางศาสนา ที่ประชาชนทุกศาสนาสามารถร่วมปฏิบัติได้ เพื่อแสดงถึงความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว 2. กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เช่น ทำความสะอาดที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของแก่ผู้ยากไร้ ช่วยเหลือสังคม ฯลฯ และ 3. กิจกรรมที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช และถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำว่า รัฐบาลคำนึงถึงการขับเคลื่อนประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบการกิจการได้โดยสะดวกและประชาชนมีความสุข ดังนั้นการจัดงานเทศกาลปีใหม่ งานประเพณี กิจกรรมสถานบันเทิง งานแสดงดนตรี งานเลี้ยงสังสรรค์ จึงดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขอให้ผู้จัดงานพิจารณาถึงบรรยากาศและความรู้สึกของประชาชนควบคู่ไปด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาล โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เช่น ระมัดระวังการจุดพลุ หรือดอกไม้เพลิง โดยต้องขออนุญาตจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 27/2559 ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบริการและธุรกิจโรงแรม กระทรวงมหาดไทยจะจัดชุดปฏิบัติการบูรณาการร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจตรากวดขันการให้บริการซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย เช่น ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ ใบอนุญาตขายสุรา และกำหนดเวลาเปิดปิด ห้ามมิให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการ รวมทั้งป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ การลักลอบเล่นการพนัน ยาเสพติด ฯลฯ อย่างเคร่งครัด เฉียบขาด และจริงจัง
บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าอย่างมีเสถียรภาพได้นั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับการบริหารงานของรัฐบาล ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศหลายชุด ทั้งมาจากการเลือกตั้ง และการรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลแต่ละชุดก็มีผลงานที่แตกต่างกัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล “สวนดุสิตโพล”ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน1,077 คน ระหว่างวันที่ 19-24 ธ.ค.59 สรุปผล ได้ ดังนี้
1. ข้อดี -ข้อเสีย ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร มีข้อดีคือ 1.มีอำนาจเด็ดขาด พูดจริงทำจริง 82.64% 2.บ้านเมืองสงบ ไม่มีการชุมนุมประท้วง 71.31% 3.ทำงานคล่องตัว แก้ปัญหาได้เร็ว 65.27% ส่วนข้อเสียคือ 1.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้รับการยอมรับ71.87% 2.ขาดการคานอำนาจ ตรวจสอบไม่ได้ 64.25% และ 3. ไม่ค่อยรับฟังความเห็น เผด็จการ 50.23%
2. ข้อดี -ข้อเสีย ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีข้อดีคือ 1.มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนเลือกเอง80.04% 2.มีประสบการณ์ รู้ปัญหา อยู่ในพื้นที่ 61.00% 3.สามารถตรวจสอบการทำงานได้52.27% ส่วนข้อเสียคือ 1.ทุจริตคอร์รัปชัน ซื้อสิทธิ ขายเสียง 77.72% 2. แบ่งพรรคแบ่งพวก ทะเลาะเบาะแว้ง62.12% 3.นโยบายเดิมๆ ทำงานแบบเดิมๆ หน้าเก่า 59.24%
3. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร กับ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร อันดับ 1รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหาร ดีกว่า 48.84% เพราะ ทำงานได้เร็ว คล่องตัว มีอำนาจพิเศษ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีผลงานให้เห็น ฯลฯ อันดับ 2 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดีกว่า 23.72% เพราะ มาจากเสียงของประชาชน เป็นประชาธิปไตย รู้ปัญหา มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ฯลฯ อันดับ 3. ดีพอๆกัน 17.83% เพราะ ไม่ว่าจะมาจากระบบใดก็สามารถบริหารบ้านเมืองได้ ทำงานได้ดี มีนโยบายที่ทำเพื่อประชาชน ฯลฯ อันดับ 4.แย่พอๆกัน 9.61% เพราะ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนไม่ได้ ยังมีการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่โปร่งใส มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ ฯลฯ
**แนะกิจกรรมปีใหม่เน้นสามัคคี-เชิดชูสถาบันฯ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ว่า รัฐบาลเน้นให้ทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมใน 3 ลักษณะ คือ 1. กิจกรรมทางศาสนา ที่ประชาชนทุกศาสนาสามารถร่วมปฏิบัติได้ เพื่อแสดงถึงความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว 2. กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เช่น ทำความสะอาดที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของแก่ผู้ยากไร้ ช่วยเหลือสังคม ฯลฯ และ 3. กิจกรรมที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช และถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำว่า รัฐบาลคำนึงถึงการขับเคลื่อนประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบการกิจการได้โดยสะดวกและประชาชนมีความสุข ดังนั้นการจัดงานเทศกาลปีใหม่ งานประเพณี กิจกรรมสถานบันเทิง งานแสดงดนตรี งานเลี้ยงสังสรรค์ จึงดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขอให้ผู้จัดงานพิจารณาถึงบรรยากาศและความรู้สึกของประชาชนควบคู่ไปด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาล โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เช่น ระมัดระวังการจุดพลุ หรือดอกไม้เพลิง โดยต้องขออนุญาตจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 27/2559 ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบริการและธุรกิจโรงแรม กระทรวงมหาดไทยจะจัดชุดปฏิบัติการบูรณาการร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจตรากวดขันการให้บริการซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย เช่น ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ ใบอนุญาตขายสุรา และกำหนดเวลาเปิดปิด ห้ามมิให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการ รวมทั้งป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ การลักลอบเล่นการพนัน ยาเสพติด ฯลฯ อย่างเคร่งครัด เฉียบขาด และจริงจัง
