สถานการณ์วัดพระธรรมกายผ่อนคลายขึ้น หลังจากตำรวจ-ดีเอสไอ ไร้ท่าทีบุกจับ แค่ยื่นหนังสือถึง "ทัตตชีโว" ให้ส่งตัว "ธัมมชโย" และ"องอาจ" ภายใน7วัน
วานนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังตำรวจและดีเอสไอ มีกำหนดเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังศาลจังหวัดสีคิ้ว อนุมัติหมายจับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องฐานร่วมฟอกเงิน-รับของโจร ทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่น ซึ่งหมายค้นมีกำหนด ตั้งแต่ วันที่13-16 ธ.ค. และได้สิ้นสุดไปเมื่อ 2 วันที่แล้วนั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งข้อกล่าวหาวัดพระธรรมกาย จำนวนทั้งสิ้น 158 คดีแล้ว
ทั้งนี้ บรรยากศค่อนข้างผ่อนคลายลงไป บริเวณประตู 7 ติดถนนบางขัน-หนองเสือ ตรงข้าม สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ของทางวัด ยังคงตรวจเข้มรถยนต์ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ของวัด และยังคงขอความร่วมมือให้ผู้ขับขี่ ลดกระจกรถลง เพื่อเฝ้าระวังบุคคลภายนอกเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในวัด รวมถึงยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าภายในวัดเหมือนเช่นเคย ซึ่งก็ยังพบว่ามีศิษย์ยานุศิษย์เดินทางเข้ามาร่วมทำบุญกันภายในวัดอย่างต่อเนื่อง
บริเวณประตูที่ 5 และ 6 ที่เคยมีศิษย์วัดพระธรรมกาย นั่งสวดมนต์กัน ก็ไม่มีแล้ว แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยตรวจตรารถเข้าออกอย่างละเอียดเช่นเดิม
ส่วนบริเวณประตู 1 ตรงเข้าโบสถ์วัดพระธรรมกาย และสามารถตรงไปยังกุฏิดาวดึงส์ ที่ สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เคยยืนยันว่า พระธัมมชโย รักษาอาการอาพาธอยู่ ก็ยังคงปิดไว้เช่นเดิม และไม่มีศิษย์วัดพระธรรมกาย มานั่งสวดมนต์กันบริเวณประตูด้านในวัดเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยสภาพโดยรวมรอบวัด ถือว่าเงียบสงบมาก
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายของวันที่ 17ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สารวัตรปราบปราม สภ.คลองหลวง ได้นำหนังสือ ให้ส่งมอบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้พนักงานสอบสวน ไปติดไว้ที่บริเวณหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย และยื่นให้กับ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว โดยเนื้อหาในหนังสือ ระบุให้ พระราชภาวนาจารย์ หรือ พระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ส่งตัว พระธัมมชโย ผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 121/2559 ลงวันที่ 17 พ.ย.59 และ นายองอาจ ธรรมนิทา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี 855/2559 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 59
เนื่องจาก พระทัตตชีโว ในฐานะผู้มีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ภายในวัด ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 38 และ 45 จึงขอให้นำตัว พระธัมมชโย มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อส่งต่อให้พนักงานสอบสวนกองบังคับกาปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินคดีภายใน 7 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือ ขณะเดียวกันขอให้นำตัวนายองอาจ ในฐานะโฆษกศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย มารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ด้วยเช่นกัน หากพระธัมมชโย และนายองอาจ ไม่อยู่ ขอให้แจ้งกับพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวงทราบด้วย แต่หากพระธัมมชโย และนายองอาจ ยังอยู่ในวัด แต่ไม่ยอมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 189 ฐานผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
วานนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังตำรวจและดีเอสไอ มีกำหนดเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังศาลจังหวัดสีคิ้ว อนุมัติหมายจับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องฐานร่วมฟอกเงิน-รับของโจร ทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่น ซึ่งหมายค้นมีกำหนด ตั้งแต่ วันที่13-16 ธ.ค. และได้สิ้นสุดไปเมื่อ 2 วันที่แล้วนั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งข้อกล่าวหาวัดพระธรรมกาย จำนวนทั้งสิ้น 158 คดีแล้ว
ทั้งนี้ บรรยากศค่อนข้างผ่อนคลายลงไป บริเวณประตู 7 ติดถนนบางขัน-หนองเสือ ตรงข้าม สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ของทางวัด ยังคงตรวจเข้มรถยนต์ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ของวัด และยังคงขอความร่วมมือให้ผู้ขับขี่ ลดกระจกรถลง เพื่อเฝ้าระวังบุคคลภายนอกเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในวัด รวมถึงยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าภายในวัดเหมือนเช่นเคย ซึ่งก็ยังพบว่ามีศิษย์ยานุศิษย์เดินทางเข้ามาร่วมทำบุญกันภายในวัดอย่างต่อเนื่อง
บริเวณประตูที่ 5 และ 6 ที่เคยมีศิษย์วัดพระธรรมกาย นั่งสวดมนต์กัน ก็ไม่มีแล้ว แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยตรวจตรารถเข้าออกอย่างละเอียดเช่นเดิม
ส่วนบริเวณประตู 1 ตรงเข้าโบสถ์วัดพระธรรมกาย และสามารถตรงไปยังกุฏิดาวดึงส์ ที่ สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เคยยืนยันว่า พระธัมมชโย รักษาอาการอาพาธอยู่ ก็ยังคงปิดไว้เช่นเดิม และไม่มีศิษย์วัดพระธรรมกาย มานั่งสวดมนต์กันบริเวณประตูด้านในวัดเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยสภาพโดยรวมรอบวัด ถือว่าเงียบสงบมาก
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายของวันที่ 17ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สารวัตรปราบปราม สภ.คลองหลวง ได้นำหนังสือ ให้ส่งมอบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้พนักงานสอบสวน ไปติดไว้ที่บริเวณหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย และยื่นให้กับ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว โดยเนื้อหาในหนังสือ ระบุให้ พระราชภาวนาจารย์ หรือ พระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ส่งตัว พระธัมมชโย ผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 121/2559 ลงวันที่ 17 พ.ย.59 และ นายองอาจ ธรรมนิทา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี 855/2559 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 59
เนื่องจาก พระทัตตชีโว ในฐานะผู้มีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ภายในวัด ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 38 และ 45 จึงขอให้นำตัว พระธัมมชโย มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อส่งต่อให้พนักงานสอบสวนกองบังคับกาปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินคดีภายใน 7 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือ ขณะเดียวกันขอให้นำตัวนายองอาจ ในฐานะโฆษกศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย มารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ด้วยเช่นกัน หากพระธัมมชโย และนายองอาจ ไม่อยู่ ขอให้แจ้งกับพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวงทราบด้วย แต่หากพระธัมมชโย และนายองอาจ ยังอยู่ในวัด แต่ไม่ยอมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 189 ฐานผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ