"บิ๊กป้อม"ระบุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์ ตามคำกราบบังคมทูลอัญเชิญแล้ว ระบุทุกอย่างทำตามขั้นตอน ขณะที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะเสด็จพระราชดำเนิน ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ รองนายกฯ เผยจัดพิธีตอกหมุดจุดกึ่งกลางพระเมรุมาศ ธ.ค.นี้ แต่ยังไม่ระบุวัน ขอดูฤกษ์เหมาะสมก่อน ส่วนพิธีบวงสรวงราชรถ 19 ธ.ค.
หลังจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมครม.-คสช.วาระพิเศษ เพื่อทำภารกิจอันสำคัญเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คือกระบวนการอัญเชิญรัชทายาทเป็นผู้สืบราชสันตติวงศ์ ตามขั้นตอนของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เพื่อสถาปนาพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ตามที่ได้มีการแต่งตั้งรัชทายาทไว้แล้ว
ทั้งนี้ ครม.ได้รับทราบ และเริ่มต้นกระบวนการตามราชประเพณี กฎมณเฑียรบาล และรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ในวันเดียวกัน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุม สนช. เพื่อการดำเนินการ ตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบ มาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ตามที่ครม.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ นร. 0503/44549 ลงวันที่ 29 พ.ย. 59 เรื่องแจ้งเรื่องการสถาปนาแต่งตั้งรัชทายาท ตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันติวงศ์ พ.ศ. 2467 แจ้งว่า บัดนี้ ราชบัลลังก์ว่างลง และพระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์สยามมกุฎราชกุมาร เป็นรัชทายาทว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 แล้ว ครม. จึงขอแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และประธานรัฐสภาเรียกประชุมเพื่อทราบ และให้ประธานรัฐสภา อัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์สืบไป
ทั้งนี้ นายพรเพชร กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมรัฐสภาได้รับทราบการแจ้งมติ ครม.แล้ว ในขั้นตอนต่อไป ตนจะได้นำความกราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประชาชนชาวไทยต่อไป
วานนี้ (30พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชุมวาระพิเศษอัญเชิญองค์รัชทายาท ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนสำคัญ ซึ่งทราบว่าพระองค์ท่านทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างถือว่าจบ
วันเดียวกันนี้ สำนักพระราชวังแจ้งว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอพระองค์สิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. เวลา 17.00น.
ขณะที่ การพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 48 (เมื่อวานนี้ 30พ.ย.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวรวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 29 พ.ย.59 โดยมี พลตรี ม.จ.จุลเจิม ยุคล พลโท ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล และม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ ร่วมพระราชพิธี
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอันเดรย์ คลีซัส ประธานคณะกรรมาธิปการกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งรัฐสภาสหพันธรัฐรัสเซีย ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เดินทางมาวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จากนั้น ลงนามถวายความอาลัย ณ อาคารสำนักราชเลขาธิการ ในพระบรมมหาราชวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวัง ได้เปลี่ยนภาพที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรที่เข้ากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ระลึก ซึ่งเป็นภาพพระบรมโกศพระบรมศพพิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ขณะที่ภาพใหม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ 3 สี เหลือง ขาว และเขียว มีดอกไม้ประดิษฐ์เป็นรูปกระต่าย สัตว์ประจำปีนักษัตรประจำปีพระราชสมภพอยู่ด้านหน้า
ขณะที่ด้านหลังเป็นหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เนื้อหาระบุว่า วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2559 เวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายพระจุลจอมเกล้า หรือสายสะพายมงกุฎไทย
วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2559 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 เวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูป สวดพระธรรมคาถา แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2560 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระพิธีธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์
**บิ๊กคลีนนิ่งรอบพระบรมมหาราชวัง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจนครบาลที่ว่างเว้นภารกิจรักษาความปลอดภัยประมาณ 300-400 นาย เข้าร่วมกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ รอบท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 1 - 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งสำนักพระราชวัง ประกาศงดการเข้ากราบบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่การดูแลความปลอดภัยรอบพื้นที่ได้ให้บริการทางการแพทย์ประชาชนแล้วกว่า 2 แสนราย ส่วนคดีที่เกิดขึ้น พบเป็นคดีเล็กน้อย ในจำนวนนั้นมีคดีคนหาย 350 ราย ซึ่งตำรวจช่วยติดตามส่งคืนญาติหมดแล้ว
**จัดพิธีตอกหมุดจุดกึ่งกลางพระเมรุมาศธ.ค.นี้
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าพิธีตอกหมุดจุดกึ่งกลางพระเมรุมาศในเดือนธ.ค.นี้ว่า ต้องดูฤกษ์ในเดือนธ.ค. ก่อนว่าจะเป็นช่วงวันไหนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การตอกหมุดเป็นเทคนิคของการก่อสร้างและถือเป็นมงคล เพราะจะเป็นจุดศูนย์กลางของพระเมรุมาศ ซึ่งหลังจากตอกหมุด ก็จะมีการวางผังและจัดทำพื้นบางส่วนเพื่อ ใช้ในงานสวดมนต์ข้ามปีก่อน
ส่วนที่ตั้งเป้าว่าจะสร้างพระเมรุมาศ ให้เสร็จเดือนก.ย.60 นั้น หากมีพระราชพิธีกำหนดขึ้นเมื่อใดก็สามารถขยับวันให้เสร็จทันตามกำหนดได้ ส่วนการปักหมุดกึ่งกลางบวงสรวง และลงเสาเอกพระเมรุมาศนั้น จะมีขึ้นภายในเดือนธ.ค.นี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ระบุวันที่ชัดเจน รอดูวันที่เหมาะสมก่อนโดยตนจะเป็นประธานในการบวงสรวง ขณะที่นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการลงเสาเอกในวันเดียวกัน
สำหรับระยะเวลาในการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบพระบรมศพนั้น ยังไม่มีกำหนดว่าจะปิดเมื่อใด เพราะเป็นเรื่องของสำนักพระราชวังจะเป็นผู้กำหนดและแจ้งให้ทราบในภายหลัง แต่เชื่อว่าน่าจะเปิดไปได้เรื่อยๆ
**จัดพิธีบวงสรงราชรถ 19 ธ.ค.
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการประชุมเตรียมการพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งตรวจพื้นที่บริเวณโรงราชรถ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สรุปว่า กรมศิลปากร ขอให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รื้อเต็นท์นิทรรศการ ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ออกบางส่วน เพื่อเปิดพื้นที่ทำพิธีบวงสรวงในส่วนหน้าโรงราชรถ วันที่ 19 ธ.ค. 59 ภายหลังเสร็จพิธีบวงสรวงก็ให้ประกอบเต็นท์นิทรรศการให้เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ระหว่างที่ช่างดำเนินการบูรณะราชรถพระยานมาศ และเครื่องประกอบ ภายในโรงราชรถนั้น ยังเปิดโรงราชรถให้ประชาชนได้เข้าชม แต่อาจจะมีการกั้นพื้นที่บางส่วนเพื่อให้ช่างบูรณะ เพื่อประชาชนจะได้เห็นขั้นตอนดำเนินงานบูรณะของคณะช่างในส่วนต่างๆ เพื่อถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย
**กปปส. จัด"บรรพชาถวายในหลวง"
วานนี้ ที่วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (กปปส.) จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีผู้เข่าร่วมโครงการบรรพชารวม 118 รูป โดยมีนายอวยชัย อินทร์นาค ผวจ.สุราษฏร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต รอง ผวจ.เข้าร่วมงาน ดังกล่าวด้วย
นายสุเทพ กล่าวว่า การบวชในครั้งนี้ เป็นการมาร่วมกันทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อที่ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงทุ่มเทพระวรกาย ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 70 ปี เป็นพระมหากษัตริย์ ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นพระมหากษัตริย์ ที่ได้รับการยกย่อง และได้รับการเทิดพระเกียรติจากบรรดากษัตริย์ทั่วโลก ให้เป็นพระมหากษัตริย์ของกษัตริย์ ทั้งปวง King Of The King
สำหรับโครงการโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ มีระยะเวลาในการบรรพชา 30 วัน
** 5 ธ.ค.วงอ.ส.วันศุกร์จัดแสดงดนตรีแจ๊ส
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม แถลงข่าวการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล และการแสดงเทิดพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ตามที่ ครม. มีมติให้วันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในปี 2559 วธ.โดยกรมการศาสนา ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรุงเทพมหานคร สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ วง อ.ส.วันศุกร์ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล และการแสดงเทิดพระเกียรติ ขึ้นในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระอัจฉริยภาพของพระองค์ทางด้านดนตรี
โดยในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะประกอบด้วย 4 กิจกรรมสำคัญ คือ 1. การจัดพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 189 รูป เวลา 07.00 น. ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2. การจัดพิธีตักบาตรส่วนในภูมิภาค โดยเชิญชวนวัด ภาครัฐ เอกชนและประชาชน ร่วมงานตามสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนด 3. การจัดแสดงดนตรีแจ๊สเฉลิมพระเกียรติ โดยสมาชิกวง อ.ส. วันศุกร์ นำโดยศ.พิเศษ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงดนตรีสากล และรศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ เวลา 18.00 น. ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 4. การเปิดอาคารนิทรรศรัตนโกสินทร์ให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการฟรี
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พศ. และมหาเถรสมาคม (มส.) กำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 5 ธ.ค. ดังนี้ 1. จัดอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลทุกจังหวัดๆ ละ 88 รูป 2. สำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศจัดปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค. 3. จัดพิธีทำบุญตักบาตรในส่วนกลางและภูมิภาค และ 4.จัดสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 4 ธ.ค.59