ผู้จัดการรายวัน 360 - คณะกรรมการ ป.ป.ช. ฟัน “สาธิต รังคสิริ”อีกดาบ ฐานร่ำรวยผิดปกติมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ส่งไม้ต่อให้สำนักงานอัยการสูงสุด ฟ้องศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบให้ยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการไต่สวนนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กรณีร่ำรวยผิดปกติ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสาธิต ฐานร่ำรวยผิดปกติแล้วและส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลอาญา แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และชี้มูลความผิดทางอาญากับนายสาธิต และนายศุภกิจ ริยะการ อดีตสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่า นายสาธิต ได้รับผลประโยชน์โดยได้เงินที่บริษัทเอกชนขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนประมาณ 179 ล้านบาท ไปซื้อทองคำแท่ง และนายสาธิต เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทองคำแท่งดังกล่าวด้วย ซึ่งไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องยื่นต่อป.ป.ช. ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะไต่สวนเพิ่มเติมและพบว่ามีทรัพย์สินมูลค่าทั้งหมดประมาณ 600 ล้านบาท และสั่งอายัดทั้งหมด ปัจจุบันนายสาธิตถูกไล่ออกจากราชการแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ยังได้มีมติให้ส่งข้อมูลของบุคคลรายหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้อง ในคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท ไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการสอบสวนเส้นทางการเงินด้วย
รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการไต่สวนนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กรณีร่ำรวยผิดปกติ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสาธิต ฐานร่ำรวยผิดปกติแล้วและส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลอาญา แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และชี้มูลความผิดทางอาญากับนายสาธิต และนายศุภกิจ ริยะการ อดีตสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่า นายสาธิต ได้รับผลประโยชน์โดยได้เงินที่บริษัทเอกชนขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนประมาณ 179 ล้านบาท ไปซื้อทองคำแท่ง และนายสาธิต เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทองคำแท่งดังกล่าวด้วย ซึ่งไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องยื่นต่อป.ป.ช. ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะไต่สวนเพิ่มเติมและพบว่ามีทรัพย์สินมูลค่าทั้งหมดประมาณ 600 ล้านบาท และสั่งอายัดทั้งหมด ปัจจุบันนายสาธิตถูกไล่ออกจากราชการแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ยังได้มีมติให้ส่งข้อมูลของบุคคลรายหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้อง ในคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท ไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการสอบสวนเส้นทางการเงินด้วย