เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21พ.ย.) ที่ สน.สุทธิสาร นายสิระ เจนจาคะ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พร้อมครอบครัวและเพื่อนสนิทกว่า 20 คนของนายดอน แดงจันติ๊บ ที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจ สน.สุทธิสาร จับกุมเล่นพนันไฮโล ได้นำร่างของนายดอน มาร้องขอความเป็นธรรมหน้า สน.สุทธิสาร หลังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ว่านายดอน อาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ทำร้ายจนเสียชีวิต
นายสิระกล่าวว่า จากการที่รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรศพนายดอนไปก่อนหน้านี้ พบว่ามีรอยผ่าชันสูตรเพียงบางจุด ซึ่งครอบครัวเห็นว่าไม่ละเอียด จึงนำร่างของนายดอน ไปผ่าชันสูตรพลิกศพ รอบที่ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เบื้องต้นพบว่า นายดอนถูกกระแทกด้วยของแข็งหลายครั้ง มีรอยฟกช้ำถึงกระดูกซี่โครงทั่วร่างกาย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กะโหลกศีรษะแตกร้าว อีกทั้งได้นำใบรับรองแพทย์มายืนยันว่า นายดอนไม่ได้มีโรคประจำตัว ขัดแย้งกับที่ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า นายดอนเสียชีวิตเพราะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ประกอบกับมีโรคประจำตัว วันนี้จึงต้องการเรียกร้องให้ พ.ต.อ.เติมเผ่า ออกมาดูศพของนายดอน ว่ามีร่องรอยฟกช้ำ และรับผิดชอบคำพูดของตนเอง ที่ให้สัมภาษณ์โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขอให้ตัดขาดจากการสืบสวนคดีนี้ทันที และได้ให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 7 นาย โดยเรียกร้องให้ออกจากราชการด้วย
น.ส.กาญจนา แดงจันติ๊บ พี่สาวของนายดอน ยืนยันว่า น้องชายไม่เคยมีโรคประจำตัว แต่ตำรวจให้สัมภาษณ์ว่าเสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัวได้อย่างไร อีกทั้งที่ผ่านมา ครอบครัวยังถูกกลุ่มบุคคลติดต่อมาขอให้ยอมความ และที่ผ่านมักพบรถปริศนาขับวนเวียนหลายครั้ง จึงมาร้องขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมาเวลา 11.30 น. มีประชาชนจำนวน 7 คน เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร พร้อมดอกกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์อยู่บริเวณโดยรอบเกิดความไม่พอใจ และมีปากเสียงกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้ามาห้าม เรื่องราวจึงสงบลง
นอกจากนี้ ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจสืบสวนชุดจับกุมทั้ง 7 นาย ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่นำนายดอนขณะบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมดำเนินคดีต่อพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร กรณีให้สัมภาษณ์ในลักษณะปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา
ด้านพ.ต.ท.อรุณ ขุนเมตตา รอง ผกก.สอบสวน (หน.งานสอบสวน) สน.สุทธิสาร กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 7 นาย ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งตำรวจทั้ง 7 นาย ได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตามกฎหมายไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากตำรวจทั้ง 7 นาย ยังรับราชการอยู่ที่ สน. และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณ อุ่นเมตตาอารี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร และ ร.ต.อ.ฐิติวัฒน์ คำลี รอง สวป.ช่วยงาน สส.สน.สุทธิสาร ได้เดินทางมาถึง โดยพ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า จะไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องราวดังกล่าว และจะให้เป็นเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาต่อตำรวจทั้ง 7 นายแล้ว ตามหลักนั้นญาติจะต้องมาติดต่อดำเนินการกับผู้กำกับการโดยตรง ไม่น่าจะดำเนินการเอง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตำรวจทั้ง 7 นายไม่ได้เจตนา ส่วนผลการสอบสวนยังไม่ชัดเจน หากได้ผลการสอบสวนที่ชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.อรุณ กล่าวว่า การกระทำของครอบครัวผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายข้อหาเคลื่อนย้ายศพโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตำรวจจะตรวจสอบภาพถ่าย และสอบปากคำพยานเพื่อดูเจตนา และเหตุผลการเคลื่อนย้ายศพมาร้องขอความเป็นธรรมที่ สน.สุทธิสารอีกครั้ง ว่าเป็นเหตุอันสมควร หรือไม่
นายสิระกล่าวว่า จากการที่รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรศพนายดอนไปก่อนหน้านี้ พบว่ามีรอยผ่าชันสูตรเพียงบางจุด ซึ่งครอบครัวเห็นว่าไม่ละเอียด จึงนำร่างของนายดอน ไปผ่าชันสูตรพลิกศพ รอบที่ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เบื้องต้นพบว่า นายดอนถูกกระแทกด้วยของแข็งหลายครั้ง มีรอยฟกช้ำถึงกระดูกซี่โครงทั่วร่างกาย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กะโหลกศีรษะแตกร้าว อีกทั้งได้นำใบรับรองแพทย์มายืนยันว่า นายดอนไม่ได้มีโรคประจำตัว ขัดแย้งกับที่ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า นายดอนเสียชีวิตเพราะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ประกอบกับมีโรคประจำตัว วันนี้จึงต้องการเรียกร้องให้ พ.ต.อ.เติมเผ่า ออกมาดูศพของนายดอน ว่ามีร่องรอยฟกช้ำ และรับผิดชอบคำพูดของตนเอง ที่ให้สัมภาษณ์โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขอให้ตัดขาดจากการสืบสวนคดีนี้ทันที และได้ให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 7 นาย โดยเรียกร้องให้ออกจากราชการด้วย
น.ส.กาญจนา แดงจันติ๊บ พี่สาวของนายดอน ยืนยันว่า น้องชายไม่เคยมีโรคประจำตัว แต่ตำรวจให้สัมภาษณ์ว่าเสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัวได้อย่างไร อีกทั้งที่ผ่านมา ครอบครัวยังถูกกลุ่มบุคคลติดต่อมาขอให้ยอมความ และที่ผ่านมักพบรถปริศนาขับวนเวียนหลายครั้ง จึงมาร้องขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมาเวลา 11.30 น. มีประชาชนจำนวน 7 คน เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร พร้อมดอกกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์อยู่บริเวณโดยรอบเกิดความไม่พอใจ และมีปากเสียงกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้ามาห้าม เรื่องราวจึงสงบลง
นอกจากนี้ ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจสืบสวนชุดจับกุมทั้ง 7 นาย ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่นำนายดอนขณะบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมดำเนินคดีต่อพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร กรณีให้สัมภาษณ์ในลักษณะปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา
ด้านพ.ต.ท.อรุณ ขุนเมตตา รอง ผกก.สอบสวน (หน.งานสอบสวน) สน.สุทธิสาร กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 7 นาย ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งตำรวจทั้ง 7 นาย ได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตามกฎหมายไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากตำรวจทั้ง 7 นาย ยังรับราชการอยู่ที่ สน. และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณ อุ่นเมตตาอารี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร และ ร.ต.อ.ฐิติวัฒน์ คำลี รอง สวป.ช่วยงาน สส.สน.สุทธิสาร ได้เดินทางมาถึง โดยพ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า จะไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องราวดังกล่าว และจะให้เป็นเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาต่อตำรวจทั้ง 7 นายแล้ว ตามหลักนั้นญาติจะต้องมาติดต่อดำเนินการกับผู้กำกับการโดยตรง ไม่น่าจะดำเนินการเอง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตำรวจทั้ง 7 นายไม่ได้เจตนา ส่วนผลการสอบสวนยังไม่ชัดเจน หากได้ผลการสอบสวนที่ชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.อรุณ กล่าวว่า การกระทำของครอบครัวผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายข้อหาเคลื่อนย้ายศพโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตำรวจจะตรวจสอบภาพถ่าย และสอบปากคำพยานเพื่อดูเจตนา และเหตุผลการเคลื่อนย้ายศพมาร้องขอความเป็นธรรมที่ สน.สุทธิสารอีกครั้ง ว่าเป็นเหตุอันสมควร หรือไม่