ผู้จัดการรายวัน 360 - พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26 “มูลนิธิพระคชบาล” นำช้างมงคล 11 เชือกหมอบกราบถวายสักการะหน้าพระบรมมหาราชวัง “ม.จ.ชาตรีเฉลิม” นำมิวสิควิดีโอเพลงสรรเสริญฯฉบับสมบูรณ์ยาว 10 นาที หารือนายกฯ เตรียมทูลเกล้าขอพระราชวินิจฉัย “พระบรมฯ” ก่อนเผยแพร่พร้อมกันทั่วประเทศ “วิทยาลัยเพาะช่าง”ปลื้ม “ยูเอ็น” ขอพระบรมสาทิสลักษณ์ 9 ภาพไปจัดแสดง พร้อมซื้อ 2 ภาพตั้งถาวรที่สหรัฐฯ
วานนี้ (8 พ.ย.) ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 26 เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และคุณพลอยไพลิน เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ สิริวัฒนาพรรณวดี และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม
จากนั้นเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ และถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม
ต่อมาเวลา 15.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับ บรรยากาศ การถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดี ที่ถึงแม้ตั้งแต่ช่วงเช้าจะมีสายฝนโปรยปรายลงมา แต่สายฝนก็ไม่สามารถทัดทานแรงศรัทธาและภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ ซึ่งเต้นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ก็ได้นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชนเหมือนเช่นทุกวัน สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายแก่ประชาชน ประกอบด้วย มื้อเช้า ข้าวต้มเห็ดหอม พร้อมนมหนองโพ มื้อเที่ยง ซูชิ สลัดผัก คั่วกลิ้ง ซาลาเปา และผลไม้ ส่วนอาหารว่างในช่วงบ่ายเป็นขนมไทย พร้อมเฉาก๊วย มื้อเย็นข้าวกะเพราปลาดุก และข้าวหมูทอด นอกจากนี้ยังมีน้ำสมุนไพรจำนวน และน้ำดื่มจิตรลดา บริการประชาชนตลอดทั้งวัน
** นำช้างมงคล 11 เชือกถวายสักการะ
เมื่อเวลา 09.09 น. นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล พร้อมด้วยกลุ่มคนเลี้ยงช้างจากปางช้างต่างๆ ทั่วประเทศในนามครวญช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดินกว่า 200 คน แต่งกายในลักษณะชุดขุนศึก ได้นำช้างมงคลงางามจำนวน 11 เชือก จากวังช้างอยุธยา แลเพนียด จ.พระนครศรีอยุธยา แต่งเครื่องคชาภรณ์ หรือเครื่องทรงช้างศึก เป็นผ้าโทนสีดำ-ขาว เดินขบวนมายังด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ โดยเริ่มต้นขบวนที่หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีพลายวังเป็นช้างนำขบวน 1 เชือก ทำหน้าที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสมโภชพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ พระยาช้างเผือกเป็นช้างเผือกประจำรัชกาลที่ 9 ท่ามกลางความสนใจของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เมื่อขบวนเดินทางมาถึงหน้าประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ครวญช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดินได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนสงบนิ่งเพื่อถวายความอาลัย ก่อนควาญช้างนำช้างทั้ง 11 เชือก หมอบกราบเป็นการสักการะพระบรมศพ และเคารพอนุสาวรีย์ช้างสามเศียรก่อนเดินทางกลับ
** นายกฯชมเปาะ MV เพลงสรรเสริญฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล พร้อมคณะ เข้าพบและนำมิวสิควิดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ประชาชนร่วมกันร้องเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตัดต่อเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนำมาจัดฉายให้ได้ชมเป็นตัวอย่าง
จากนั้น ม.จ.ชาตรีเฉลิม เปิดเผยว่า นายกฯได้กล่าวชมมิวสิควิดีโอเพลงฉบับที่เราได้จัดทำขึ้น และจะมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะเผยแพร่เมื่อใด เพราะอยากให้เผยแพร่พร้อมกันทั้งสื่อโทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ รวมถึงป้ายโฆษณา และจะมีเวอร์ชั่นเดียวเท่านั้น ไม่มีเวอร์ชั่นอื่นอีก อย่างไรก็ตามมิวสิควิดีโอนี้ไม่ใช่เพียงตนทำเพียงคนเดียว แต่ประชาชนคนไทยกว่า 3 แสนคนร่วมกันทำ จึงถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่ง และอยากให้ทุกคนคิดว่า สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดนี้เป็นการร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
“ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการนำขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ว่าจะทรงมีพระราชวินิจฉัยออกมาอย่างไร” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ระบุ
ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวด้วยว่า สำหรับมิวสิควิดีโอนี้ ในช่วงแรกจะมีการพูดถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะมีความยาวรวม 10 นาที ทั้งนี้เรื่องการเผยแพร่ภายในโรงภาพยนตร์นั้นได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีแผนการทำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติออกมา
** รอพระราชวินิจฉัยก่อนเผยแพร่
เมื่อเวลา 13.40 น. ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิมเติมว่า ได้รับชมฉบับตัดต่อแล้วเสร็จแล้วถือว่าดี แต่สิ่งสำคัญคือเราจะต้องนำกราบบังคมทูลขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องจากมีการนำพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาถ่ายทอดด้วย ทั้งนี้พระองค์ท่านจะได้ทรงพิจารณาความเหมาะสมว่าจะเผยแพร่ได้ในช่วงใด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งต่างๆที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รับสั่งไว้ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ 70 ปี เรายังสามารถนำไปปรับใช้ได้จนถึงปัจจุบัน เราต้องมองที่พระบรมราโชบายหรือหลักการของพระองค์ท่านว่าคืออะไร จากนั้นก็จำแนกเป็นกิจกรรมที่ไปเกิดเป็นโครงการหลวงต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ ฉะนั้นจะต้องมีหลายอย่างที่เกิดในลักษณะจุลภาค คือเกิดจากชุมชนต่างๆ ได้สำเร็จไปแล้ว วันนี้เราต้องมองว่าเราจะเอาสิ่งที่พระองค์รับสั่งมาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร เหมือนกับรัฐบาลมีนโยบายนำพระบรมราโชบายมาสู่การปฏิบัติ พระองค์ทรงเริ่มต้นอะไรไว้หมดแล้ว การปฏิบัติของพระองค์คือตัวอย่าง รัฐบาลก็ต้องไปเริ่มในระยะที่ผ่านมา 3 ปีให้เกิดกิจกรรมที่มีผลสัมฤทธิ์จะได้เป็นแรงในการชักนำผู้อื่นให้ทำตาม
** UN ขอภาพวาด ร.๙ ไปแสดงที่สหรัฐฯ
อีกด้าน นายบรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) รัตนโกสินทร์ เปิดเผยว่า ทางวิทยาลัยเพาะช่างได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งวาดโดยนักศึกษาไปจัดแสดงที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 9 ภาพ และทางยูเอ็นจะขอซื้อ 2 ภาพ เพื่อนำไปติดตั้งที่สำนักงานฯอย่างถาวรด้วย ซึ่งทางวิทยาลัยเพาะช่าง รู้สึกยินดี และปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ผลงานของนักศึกษาได้รับความสนใจ
ขณะที่ นายสำราญ มณีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรม วิทยาลัยเพาะช่าง กล่าวว่า การวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นโครงการที่วิทยาลัยเพาะช่าง ดำเนินการมานานกว่า 60 ปี โดยให้นักศึกษาปี 2 สาขาจิตรกรรม วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ และนำไปติดตั้งโดยรอบวิทยาลัยวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งปีนี้มีนักศึกษาร่วมวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ประมาณ 32 ภาพ และมี 9 ภาพ ที่ทางยูเอ็น ขอนำไปจัดแสดงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือน ธ.ค.นี้.
วานนี้ (8 พ.ย.) ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 26 เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และคุณพลอยไพลิน เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ สิริวัฒนาพรรณวดี และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม
จากนั้นเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ และถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม
ต่อมาเวลา 15.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับ บรรยากาศ การถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดี ที่ถึงแม้ตั้งแต่ช่วงเช้าจะมีสายฝนโปรยปรายลงมา แต่สายฝนก็ไม่สามารถทัดทานแรงศรัทธาและภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ ซึ่งเต้นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ก็ได้นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชนเหมือนเช่นทุกวัน สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายแก่ประชาชน ประกอบด้วย มื้อเช้า ข้าวต้มเห็ดหอม พร้อมนมหนองโพ มื้อเที่ยง ซูชิ สลัดผัก คั่วกลิ้ง ซาลาเปา และผลไม้ ส่วนอาหารว่างในช่วงบ่ายเป็นขนมไทย พร้อมเฉาก๊วย มื้อเย็นข้าวกะเพราปลาดุก และข้าวหมูทอด นอกจากนี้ยังมีน้ำสมุนไพรจำนวน และน้ำดื่มจิตรลดา บริการประชาชนตลอดทั้งวัน
** นำช้างมงคล 11 เชือกถวายสักการะ
เมื่อเวลา 09.09 น. นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล พร้อมด้วยกลุ่มคนเลี้ยงช้างจากปางช้างต่างๆ ทั่วประเทศในนามครวญช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดินกว่า 200 คน แต่งกายในลักษณะชุดขุนศึก ได้นำช้างมงคลงางามจำนวน 11 เชือก จากวังช้างอยุธยา แลเพนียด จ.พระนครศรีอยุธยา แต่งเครื่องคชาภรณ์ หรือเครื่องทรงช้างศึก เป็นผ้าโทนสีดำ-ขาว เดินขบวนมายังด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ โดยเริ่มต้นขบวนที่หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีพลายวังเป็นช้างนำขบวน 1 เชือก ทำหน้าที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสมโภชพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ พระยาช้างเผือกเป็นช้างเผือกประจำรัชกาลที่ 9 ท่ามกลางความสนใจของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เมื่อขบวนเดินทางมาถึงหน้าประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ครวญช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดินได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนสงบนิ่งเพื่อถวายความอาลัย ก่อนควาญช้างนำช้างทั้ง 11 เชือก หมอบกราบเป็นการสักการะพระบรมศพ และเคารพอนุสาวรีย์ช้างสามเศียรก่อนเดินทางกลับ
** นายกฯชมเปาะ MV เพลงสรรเสริญฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล พร้อมคณะ เข้าพบและนำมิวสิควิดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ประชาชนร่วมกันร้องเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตัดต่อเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนำมาจัดฉายให้ได้ชมเป็นตัวอย่าง
จากนั้น ม.จ.ชาตรีเฉลิม เปิดเผยว่า นายกฯได้กล่าวชมมิวสิควิดีโอเพลงฉบับที่เราได้จัดทำขึ้น และจะมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะเผยแพร่เมื่อใด เพราะอยากให้เผยแพร่พร้อมกันทั้งสื่อโทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ รวมถึงป้ายโฆษณา และจะมีเวอร์ชั่นเดียวเท่านั้น ไม่มีเวอร์ชั่นอื่นอีก อย่างไรก็ตามมิวสิควิดีโอนี้ไม่ใช่เพียงตนทำเพียงคนเดียว แต่ประชาชนคนไทยกว่า 3 แสนคนร่วมกันทำ จึงถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่ง และอยากให้ทุกคนคิดว่า สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดนี้เป็นการร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
“ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการนำขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ว่าจะทรงมีพระราชวินิจฉัยออกมาอย่างไร” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ระบุ
ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวด้วยว่า สำหรับมิวสิควิดีโอนี้ ในช่วงแรกจะมีการพูดถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะมีความยาวรวม 10 นาที ทั้งนี้เรื่องการเผยแพร่ภายในโรงภาพยนตร์นั้นได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีแผนการทำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติออกมา
** รอพระราชวินิจฉัยก่อนเผยแพร่
เมื่อเวลา 13.40 น. ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิมเติมว่า ได้รับชมฉบับตัดต่อแล้วเสร็จแล้วถือว่าดี แต่สิ่งสำคัญคือเราจะต้องนำกราบบังคมทูลขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องจากมีการนำพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาถ่ายทอดด้วย ทั้งนี้พระองค์ท่านจะได้ทรงพิจารณาความเหมาะสมว่าจะเผยแพร่ได้ในช่วงใด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งต่างๆที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รับสั่งไว้ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ 70 ปี เรายังสามารถนำไปปรับใช้ได้จนถึงปัจจุบัน เราต้องมองที่พระบรมราโชบายหรือหลักการของพระองค์ท่านว่าคืออะไร จากนั้นก็จำแนกเป็นกิจกรรมที่ไปเกิดเป็นโครงการหลวงต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ ฉะนั้นจะต้องมีหลายอย่างที่เกิดในลักษณะจุลภาค คือเกิดจากชุมชนต่างๆ ได้สำเร็จไปแล้ว วันนี้เราต้องมองว่าเราจะเอาสิ่งที่พระองค์รับสั่งมาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร เหมือนกับรัฐบาลมีนโยบายนำพระบรมราโชบายมาสู่การปฏิบัติ พระองค์ทรงเริ่มต้นอะไรไว้หมดแล้ว การปฏิบัติของพระองค์คือตัวอย่าง รัฐบาลก็ต้องไปเริ่มในระยะที่ผ่านมา 3 ปีให้เกิดกิจกรรมที่มีผลสัมฤทธิ์จะได้เป็นแรงในการชักนำผู้อื่นให้ทำตาม
** UN ขอภาพวาด ร.๙ ไปแสดงที่สหรัฐฯ
อีกด้าน นายบรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) รัตนโกสินทร์ เปิดเผยว่า ทางวิทยาลัยเพาะช่างได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งวาดโดยนักศึกษาไปจัดแสดงที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 9 ภาพ และทางยูเอ็นจะขอซื้อ 2 ภาพ เพื่อนำไปติดตั้งที่สำนักงานฯอย่างถาวรด้วย ซึ่งทางวิทยาลัยเพาะช่าง รู้สึกยินดี และปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ผลงานของนักศึกษาได้รับความสนใจ
ขณะที่ นายสำราญ มณีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรม วิทยาลัยเพาะช่าง กล่าวว่า การวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นโครงการที่วิทยาลัยเพาะช่าง ดำเนินการมานานกว่า 60 ปี โดยให้นักศึกษาปี 2 สาขาจิตรกรรม วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ และนำไปติดตั้งโดยรอบวิทยาลัยวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งปีนี้มีนักศึกษาร่วมวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ประมาณ 32 ภาพ และมี 9 ภาพ ที่ทางยูเอ็น ขอนำไปจัดแสดงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือน ธ.ค.นี้.
