xs
xsm
sm
md
lg

หลัง14พ.ย.ปลดล็อก กิจกรรมบันเทิง-ทีวี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - สมเด็จพระเทพฯ-พระองค์ภาฯ เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ นายกฯ ย้ำหลังครบกำหนดถวายความอาลัย 30 วัน พร้อมปลดล็อกรายการบันเทิง กำหนดเงื่อนไข “อยู่ในกรอบ-ไม่หยาบคาย”

วานนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และคุณพลอยไพลิน เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้น เวลา15.14 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

*** พระบรมฯ พระราชทานอาหารแก่ประชาชนที่ร่วมถวายอาลัย ***

ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานแจกจ่ายให้ประชาชนตลอดทั้งวันประกอบด้วย มื้อเช้า ข้าวหน้าไก่ 1,500 ชุด นมกล่องหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวัน ผัดไท 2,000 ชุด หมี่กะทิ 2,000 ชุด ข้าวมัสหมั่นไก่เชฟอุทัย 200 ชุด และเฉาก๊วย 2,000 ถ้วย มื้อเย็น ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 2,000 ชุด ราดหน้าหมู 2,000 ชุด รวมทั้งน้ำสมุนไพร จำนวน 700 ลิตร

*** เปลี่ยนเส้นทางการถวายสักการะพระบรมศพ ***

สำหรับบรรยากาศบริเวณพระบรมมหาราชวัง หลังจากมีพระราชานุญาตให้ประชาชนสามารถถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ภายหลังพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.59 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. ทุกวัน เว้นแต่ช่วงที่มีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท วันนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สี่และเป็นวันแรกของการเปลี่ยนเส้นทางการเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ เนื่องจาก สำนักพระราชวัง เริ่มเปิดจำหน่ายบัตรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสักการะและเที่ยวชมความงามของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามปกติหลังยุติการให้เข้าชมมาตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.59

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. พสกนิกรได้ต่อแถวอย่างเป็นระเบียบที่บริเวณประตูมณีนพรัตน์ ประตูพระบรมมหาราชวัง ฝั่งเหนือทางเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ติดถนนหน้าพระลาน ขนาบข้างด้วยป้อมเผด็จดัสกร และป้อมขันธ์เขื่อนเพชร โดยแถวของพสกนิกรผ่านเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง ฝั่งทิศเหนืออันเป็นสถานที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนศาสนดาราม โดยเจ้าหน้าที่ยังอำนวยความสะดวกให้สามารถเข็นรถผู้สูงอายุและคนพิการ เข้ามาทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานชัยศรี ได้เหมือนเดิม

*** นายกฯ ปลดล็อกรายการบันเทิง ***

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง มาตรการเกี่ยวกับสถานบันเทิงและการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ว่า เมื่อครบกำหนดถวายความอาลัย 30 วัน สถานีโทรทัศน์สามารถปรับเปลี่ยนผังรายการให้เป็นปกติได้ แต่ขอให้ลดโทนลงในบางรายการ เช่น เรื่องตลกโปกฮา เรื่องความไม่สุภาพ เป็นต้น โดยรัฐบาลเพียงขอความร่วมมือและจะมีการปลดล็อกเรื่อยๆ ไม่ได้ห้ามทั้งหมด ส่วนการจัดงานในที่รโหฐาน รวมทั้งการแสดงของศิลปินดาราสามารถแสดงได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบ ไม่หยาบคาย หรือแสดงให้เห็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีงาม โดยมอบหมายให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกันถึงข้อสรุปและชี้แจงต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้ความร่วมมือในช่วงของการโศกเศร้าเสียใจ เผยแพร่พระราชกรณียกิจให้คนรุ่นหลังรับทราบ โดยตนได้สั่งการให้รวบรวมเพื่อจัดทำเป็นหนังสือภาพของแต่ละวันว่า บรรยากาศในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศเป็นอย่างไร

*** กำหนด 14 พ.ย.59 เริ่มจัด 9 กิจกรรมบันเทิง ***

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า แนวทางการจัดกิจกรรมบันเทิง หรือกิจกรรมต่างๆ ตามที่รัฐบาลได้ขอความร่วมมือครบ 30 วันนั้น เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติและเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2559 เป็นต้นไป โดยจำแนกกิจกรรมออกเป็น 9 ลักษณะ ได้แก่

1. งานเทศกาลระดับประเทศ เช่น ลอยกระทง คริสต์มาส วันปีใหม่ ตรุษจีน 2.งานเทศกาลระดับจังหวัด เช่น งานกาชาด เทศกาลผีตาโขน เป็นต้น 3.งานส่งเสริมเศรษฐกิจระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น เช่น งานกิจกรรมถนนคนเดิน งานประเพณีชนวัว เป็นต้น 4.งานรื่นเริง วัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น ลิเก ลำตัด ดนตรี มหรสพ และการประกวดต่างๆ 5.กิจกรรมสถานบันเทิง เช่น ไนต์คลับ ผับ บาร์ 6.กิจกรรมที่จัดภายในโรงแรมต่างๆ เช่น การจัดประชุมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ 7.การแสดงคอนเสิร์ต 8.งานตามประเพณีวัฒนธรรม เช่น งานกฐิน ผ้าป่า งานมงคลสมรส งานบวช และ 9.งานแข่งขันกีฬาทุกระดับ และกองเชียร์

พ.อ.หญิง ทักษดากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานต้องพิจารณาความเหมาะสมให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ โดยให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ให้คำแนะนำและปรึกษาแก่ภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การใช้พื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ขณะที่การจัดรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยขอความร่วมมือผู้รับผิดชอบรายการพิจารณาความเหมาะสม และควรสอดแทรกรายการที่ให้ความรู้เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของประเทศ

สำหรับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี เช่นเดิม ส่วนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้พิจารณาตามความเหมาะสม ขณะที่การลดธงชาติครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตามประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี จะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย.59 ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ย.59 จะเป็นวันแรกในการชักธงชาติเต็มเสาเหมือนเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น