ผู้จัดการรายวัน360-"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" ทรงรับสั่งดูแลประชาชน ซึ่งเป็นแขกของพระองค์ให้ดีที่สุด จัดเลี้ยงอาหารจากร้านดังกว่า 1.5 หมื่นชุดต่อวัน รัฐบาลสั่งเตรียมพร้อมรับคลื่นมหาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.เป็นต้นไป คาดรับได้วันละ 1 หมื่นคน กรมสุขภาพจิตเตือนอย่าหลงเชื่อหลอกลวงขายริสแบนด์รัชกาลที่ 9
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ต.ค.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ และลงนามแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน โดยตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของท้องสนามหลวง ใกล้พระบรมมหาราชวัง
สำหรับอาหารพระราชทานมี 3 เวลา ประกอบด้วย อาหารเช้า เวลา 07.30 น. จำนวน 5,000 ชุด อาหารกลางวัน เวลา 11.30 น. จำนวน 5,000 ชุด และ อาหารเย็น เวลา 15.30 น. จำนวน 5,000 ชุด
เจ้าหน้าที่ทหารมหาดเล็กฯ คนหนึ่ง กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับสั่งว่า พสกนิกรที่มาเป็นแขกของพระองค์ ฉะนั้น ต้องทำให้พสกนิกรได้รับความสะดวกสบายที่สุด ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จึงได้พระราชทานอาหารโดยรับสั่งว่า ต้องดี ต้องอร่อย เมนูปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมแต่ละวัน เช่น ข้าวขาหมูตอกซุง ข้าวแกงต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะนำมาจากร้านที่มีชื่อเสียง 2 เจ้าๆ ละ 2,500 ชุด แจกร่วมไปกับน้ำดื่ม และน้ำสมุนไพรที่เตรียมไว้ 500 ลิตร เช่น น้ำกระเจี๊ยบ เก็กฮวย พร้อมขนมจากร้านมีชื่อเสียง และขนมจากร้านสวัสดิการข้าราชบริพารในพระองค์ เช่น ซาลาเปานพเก้า ตลอดจนผลไม้ต่างๆ และยังได้จัดแพทย์อาสามาให้บริการพสกนิกรอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการแจกอาหารและน้ำดื่มพระราชทาน มีประชาชนเข้าคิวเพื่อขอรับอาหารเป็นจำนวนมาก และต่างพากันยืนรอด้วยรอยยิ้ม และแสดงความปลื้มปิติ
***"พระเทพ"พระราชทานลองกอง
วันเดียวกันนี้ ในช่วงเช้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานลองกองใน 3 จุดแจกอาหารของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย มูลนิธิร่วมกตัญญู และโรงเรียนจิตรลดา เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วงแสดงความอาลัยแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
***"พระองค์โสมฯ"ทรงทอดไก่แจก
ทางด้านพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมายังรถเคลื่อนที่ของมูลนิธิ เพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย หน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ ประทานให้แก่พสกนิกรที่มาลงนามแสดงความอาลัยการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ มีรับสั่งว่า ขอบใจคนไทยทุกคนที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งยังทรงมีรับสั่งให้กำลังใจแก่กลุ่มจิตอาสาที่นำอาหารน้ำเครื่องดื่ม สิ่งต่างๆ มาบริการให้กับประชาชนบริเวณรอบๆ ท้องสนามหลวง และการที่พระองค์เสด็จมาทอดไก่นั้น ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่อยากจะมอบให้กับประชาชนชาวไทยทุกคน พร้อมขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนต้องเข้มแข็ง และนำหลักธรรมมายึดปฏิบัติในการดำเนินชีวิต แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
***บำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรม
วันเดียวกันนี้ ในเวลา 07.03 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ในการนี้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินทรงกราบที่พระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้วทรงกราบที่หน้าพระบรมโกศ แล้วเสด็จกลับ
***ประชาชนสักการะพระบรมศพเนื่องแน่น
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาได้ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามสมุดหลวง เพื่อแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 10 โดยมีประชาชนพร้อมด้วยคณะต่างๆ สวมชุดไว้ทุกข์มาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนเข้ามาภายในศาลาสหทัยสมาคม รอบละประมาณ 70 คน ขณะที่บริเวณหน้าศาลาสหทัยสมาคม สำนักพระราชวังได้กางเต๊นท์ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่หลบแดดและฝน และยังมีลูกเสือ และเนตรนารีอาสาสมัครมาร่วมดูแลผู้สูงอายุด้วย
***แจ้งเปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ
สำนักพระราชวัง แจ้งประชาสัมพันธ์ว่า สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
1.ในวันที่ 28 ต.ค.2559 สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และ ลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. อีกหนึ่งวัน
2.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป เวลา 08.00-21.00 น.ทุกวัน (ยกว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท)
การแต่งกาย โปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์สีดำ ชุดชาวเขาสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ ชุดนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ถูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษานั้นๆ สุภาพบุรุษ ขอความกรุณาสวมเสื้อมีปกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ งดเว้นกางเกงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้น สีดำ สุภาพสตรี ขอความกรุณาสวมชุดสุภาพที่ดำ มีแขน ไม่รัดรูป กระโปรงยาวคลุมเข่า หรือผ้าถุง งดเว้นกระโปรงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ
นอกจากนี้ สำนักพระราชวัง ยังแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป ไม่มีการลงนามถวายความอาลัย
***รัฐบาลเตรียมพร้อมรับคลื่นมหาชน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กล่าวว่า การดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าแสดงความอาลัยและสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ผ่านมา ได้มีการปรับแผนตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเดินทางในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การจัดรถบริการรับส่ง การเดินทางทางน้ำ การปรับแผนการจราจร การจัดระเบียบนำสิ่งของเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน การระบายประชาชน การดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ รวมถึงการดูแลด้านการแพทย์ การดูแลด้านอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ศตส. ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวัง เพื่อพิจารณาแผนและความพร้อมสำหรับการดูแลประชาชนจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งประเทศสามารถเดินทางมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมากับกระทรวงมหาดไทยผ่านการบริหารจัดการของแต่ละจังหวัด หรือจะเดินทางมาด้วยตนเอง เพราะรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้ว และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมมือกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยขอให้ช่วยกันรักษาความงดงามเช่นนี้ต่อไป
***คาดรองรับประชาชนได้วันละ1หมื่นคน
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลความเรียบร้อยและการจราจรโดยรอบพระบรมหาราชวัง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ ว่า จากการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวัง จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระบรมศพเป็นช่วงเวลา เนื่องจากจะมีการประกอบพระราชพิธีควบคู่ไปด้วย ซึ่งทางกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย จะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด คาดว่า จะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย จะพยายามจัดคิวให้เป็นระเบียบมากที่สุด และจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวิธีให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุด
ส่วนการก่อสร้างสะพานเบลีย์ ทั้ง 2 สะพานนั้น เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่ง และไม่ต้องการให้ประชาชนลงไปเดินบนถนน ส่วนจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่ คงต้องดูจากจำนวนของประชาชนที่เดินทางมา ซึ่งหากมีความจำเป็น ก็พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
***ปรับระบบขนถ่ายอาหาร-น้ำดื่ม
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้มีจิตอาสานำมาสนับสนุน อาจจะมีการปรับไปใช้สถานที่ใดที่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียงสนามหลวง เพื่อเป็นจุดพัก ก่อนกระจายเข้าในพื้นที่ผ่านรถเล็กที่ได้ลงทะเบียนแล้ว นำไปส่งยังจุดขนถ่ายที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะมีกลุ่มอาสาสมัครร่วมบริหารจัดการขนถ่ายต่อไปยังจุดที่กำหนด ส่วนรถใหญ่ เมื่อลงทะเบียนแล้ว ให้ขนเข้าพื้นที่ได้หลังเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ และปรับได้ตามความเหมาะสม
***ลงนามแสดงความอาลัย3ล้านราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้สรุปยอดการดำเนินการจัดกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 14-23 ต.ค.2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,944,934 ราย
***เตือนแอบอ้างทำริสแบนด์ขาย
นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างหน่วยงานเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปสั่งจองริสแบนด์สีดำ เพราะเป็นการทำให้ชื่อเสียงของหน่วยงานเสียหาย และยังเป็นการแอบอ้างสถาบันกระทำการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยกรมฯ ไม่เคยสั่งการหรือมีนโยบายใดๆ ในการผลิตริสแบนด์สีดำ เพื่อนำมาขายให้ประชาชน จึงอยากให้มีการติดตามบุคคลดังกล่าวมาลงโทษดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคมที่หลอกลวงทางโซเซียล
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นโดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "Nathaworn Na Lamphun" โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2559 เชิญชวนให้คนทั่วไปร่วมสั่งจองริสแบนด์สีดำ มีข้อความภาษาไทยว่า เกิดในรัชกาลที่ 9 และภาษาอังกฤษว่า Born in The reign of KING BHUMIBOLADULYADEJ โดยอ้างว่า เป็นริสแบนด์ของกรมสุขภาพจิต โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ และจัดทำขึ้นจำนวน 1,500 เส้น เพื่อนำเงินที่ได้เข้าสมทบทุนในกรมสุขภาพจิต โดยจะต้องโอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสคำเที่ยง ชื่อบัญชี ณฐวร ณ ลำพูน ภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา และนัดให้มารับสินค้าที่สนามหลวง BTSพร้อมพงษ์ อิสภาพ 39และจรัญสนิทวงศ์ 28 แต่ไม่แจ้งวันที่ให้มารับสินค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ต.ค.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ และลงนามแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน โดยตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของท้องสนามหลวง ใกล้พระบรมมหาราชวัง
สำหรับอาหารพระราชทานมี 3 เวลา ประกอบด้วย อาหารเช้า เวลา 07.30 น. จำนวน 5,000 ชุด อาหารกลางวัน เวลา 11.30 น. จำนวน 5,000 ชุด และ อาหารเย็น เวลา 15.30 น. จำนวน 5,000 ชุด
เจ้าหน้าที่ทหารมหาดเล็กฯ คนหนึ่ง กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับสั่งว่า พสกนิกรที่มาเป็นแขกของพระองค์ ฉะนั้น ต้องทำให้พสกนิกรได้รับความสะดวกสบายที่สุด ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จึงได้พระราชทานอาหารโดยรับสั่งว่า ต้องดี ต้องอร่อย เมนูปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมแต่ละวัน เช่น ข้าวขาหมูตอกซุง ข้าวแกงต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะนำมาจากร้านที่มีชื่อเสียง 2 เจ้าๆ ละ 2,500 ชุด แจกร่วมไปกับน้ำดื่ม และน้ำสมุนไพรที่เตรียมไว้ 500 ลิตร เช่น น้ำกระเจี๊ยบ เก็กฮวย พร้อมขนมจากร้านมีชื่อเสียง และขนมจากร้านสวัสดิการข้าราชบริพารในพระองค์ เช่น ซาลาเปานพเก้า ตลอดจนผลไม้ต่างๆ และยังได้จัดแพทย์อาสามาให้บริการพสกนิกรอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการแจกอาหารและน้ำดื่มพระราชทาน มีประชาชนเข้าคิวเพื่อขอรับอาหารเป็นจำนวนมาก และต่างพากันยืนรอด้วยรอยยิ้ม และแสดงความปลื้มปิติ
***"พระเทพ"พระราชทานลองกอง
วันเดียวกันนี้ ในช่วงเช้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานลองกองใน 3 จุดแจกอาหารของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย มูลนิธิร่วมกตัญญู และโรงเรียนจิตรลดา เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วงแสดงความอาลัยแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
***"พระองค์โสมฯ"ทรงทอดไก่แจก
ทางด้านพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมายังรถเคลื่อนที่ของมูลนิธิ เพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย หน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ ประทานให้แก่พสกนิกรที่มาลงนามแสดงความอาลัยการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ มีรับสั่งว่า ขอบใจคนไทยทุกคนที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งยังทรงมีรับสั่งให้กำลังใจแก่กลุ่มจิตอาสาที่นำอาหารน้ำเครื่องดื่ม สิ่งต่างๆ มาบริการให้กับประชาชนบริเวณรอบๆ ท้องสนามหลวง และการที่พระองค์เสด็จมาทอดไก่นั้น ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่อยากจะมอบให้กับประชาชนชาวไทยทุกคน พร้อมขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนต้องเข้มแข็ง และนำหลักธรรมมายึดปฏิบัติในการดำเนินชีวิต แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
***บำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรม
วันเดียวกันนี้ ในเวลา 07.03 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ในการนี้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินทรงกราบที่พระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้วทรงกราบที่หน้าพระบรมโกศ แล้วเสด็จกลับ
***ประชาชนสักการะพระบรมศพเนื่องแน่น
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาได้ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามสมุดหลวง เพื่อแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 10 โดยมีประชาชนพร้อมด้วยคณะต่างๆ สวมชุดไว้ทุกข์มาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนเข้ามาภายในศาลาสหทัยสมาคม รอบละประมาณ 70 คน ขณะที่บริเวณหน้าศาลาสหทัยสมาคม สำนักพระราชวังได้กางเต๊นท์ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่หลบแดดและฝน และยังมีลูกเสือ และเนตรนารีอาสาสมัครมาร่วมดูแลผู้สูงอายุด้วย
***แจ้งเปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ
สำนักพระราชวัง แจ้งประชาสัมพันธ์ว่า สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
1.ในวันที่ 28 ต.ค.2559 สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และ ลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. อีกหนึ่งวัน
2.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป เวลา 08.00-21.00 น.ทุกวัน (ยกว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท)
การแต่งกาย โปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์สีดำ ชุดชาวเขาสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ ชุดนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ถูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษานั้นๆ สุภาพบุรุษ ขอความกรุณาสวมเสื้อมีปกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ งดเว้นกางเกงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้น สีดำ สุภาพสตรี ขอความกรุณาสวมชุดสุภาพที่ดำ มีแขน ไม่รัดรูป กระโปรงยาวคลุมเข่า หรือผ้าถุง งดเว้นกระโปรงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ
นอกจากนี้ สำนักพระราชวัง ยังแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป ไม่มีการลงนามถวายความอาลัย
***รัฐบาลเตรียมพร้อมรับคลื่นมหาชน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กล่าวว่า การดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าแสดงความอาลัยและสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ผ่านมา ได้มีการปรับแผนตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเดินทางในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การจัดรถบริการรับส่ง การเดินทางทางน้ำ การปรับแผนการจราจร การจัดระเบียบนำสิ่งของเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน การระบายประชาชน การดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ รวมถึงการดูแลด้านการแพทย์ การดูแลด้านอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ศตส. ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวัง เพื่อพิจารณาแผนและความพร้อมสำหรับการดูแลประชาชนจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 เป็นต้นไป โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งประเทศสามารถเดินทางมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมากับกระทรวงมหาดไทยผ่านการบริหารจัดการของแต่ละจังหวัด หรือจะเดินทางมาด้วยตนเอง เพราะรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้ว และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมมือกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยขอให้ช่วยกันรักษาความงดงามเช่นนี้ต่อไป
***คาดรองรับประชาชนได้วันละ1หมื่นคน
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลความเรียบร้อยและการจราจรโดยรอบพระบรมหาราชวัง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ ว่า จากการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวัง จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระบรมศพเป็นช่วงเวลา เนื่องจากจะมีการประกอบพระราชพิธีควบคู่ไปด้วย ซึ่งทางกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย จะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด คาดว่า จะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย จะพยายามจัดคิวให้เป็นระเบียบมากที่สุด และจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวิธีให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุด
ส่วนการก่อสร้างสะพานเบลีย์ ทั้ง 2 สะพานนั้น เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่ง และไม่ต้องการให้ประชาชนลงไปเดินบนถนน ส่วนจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่ คงต้องดูจากจำนวนของประชาชนที่เดินทางมา ซึ่งหากมีความจำเป็น ก็พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
***ปรับระบบขนถ่ายอาหาร-น้ำดื่ม
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้มีจิตอาสานำมาสนับสนุน อาจจะมีการปรับไปใช้สถานที่ใดที่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียงสนามหลวง เพื่อเป็นจุดพัก ก่อนกระจายเข้าในพื้นที่ผ่านรถเล็กที่ได้ลงทะเบียนแล้ว นำไปส่งยังจุดขนถ่ายที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะมีกลุ่มอาสาสมัครร่วมบริหารจัดการขนถ่ายต่อไปยังจุดที่กำหนด ส่วนรถใหญ่ เมื่อลงทะเบียนแล้ว ให้ขนเข้าพื้นที่ได้หลังเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ และปรับได้ตามความเหมาะสม
***ลงนามแสดงความอาลัย3ล้านราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้สรุปยอดการดำเนินการจัดกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 14-23 ต.ค.2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,944,934 ราย
***เตือนแอบอ้างทำริสแบนด์ขาย
นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างหน่วยงานเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปสั่งจองริสแบนด์สีดำ เพราะเป็นการทำให้ชื่อเสียงของหน่วยงานเสียหาย และยังเป็นการแอบอ้างสถาบันกระทำการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยกรมฯ ไม่เคยสั่งการหรือมีนโยบายใดๆ ในการผลิตริสแบนด์สีดำ เพื่อนำมาขายให้ประชาชน จึงอยากให้มีการติดตามบุคคลดังกล่าวมาลงโทษดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคมที่หลอกลวงทางโซเซียล
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นโดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "Nathaworn Na Lamphun" โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2559 เชิญชวนให้คนทั่วไปร่วมสั่งจองริสแบนด์สีดำ มีข้อความภาษาไทยว่า เกิดในรัชกาลที่ 9 และภาษาอังกฤษว่า Born in The reign of KING BHUMIBOLADULYADEJ โดยอ้างว่า เป็นริสแบนด์ของกรมสุขภาพจิต โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ และจัดทำขึ้นจำนวน 1,500 เส้น เพื่อนำเงินที่ได้เข้าสมทบทุนในกรมสุขภาพจิต โดยจะต้องโอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสคำเที่ยง ชื่อบัญชี ณฐวร ณ ลำพูน ภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา และนัดให้มารับสินค้าที่สนามหลวง BTSพร้อมพงษ์ อิสภาพ 39และจรัญสนิทวงศ์ 28 แต่ไม่แจ้งวันที่ให้มารับสินค้า