"อัศวิน" แบ่งงาน 4 รองผู้ว่าฯ มอบ "นวยนิ่ม" คุมจัดระเบียบ "ทวีศักดิ์" ดูงานจราจร-ระบายน้ำ รับแก้รถติดเมืองกรุงเรื่องยาก ใช้ "โปลิศคอนเนกชัน" ประสาน ผบช.น.-ผู้การจราจรฯ ร่วมหาทาง ลั่นแค่ขันนอต จนท. แก้น้ำท่วมขังได้ สั่งเร่งแต่งตั้งคืนความเป็นธรรม ขรก.กทม. ยันไม่ใช่คน ปชป. แต่พร้อมสานต่อนโยบายที่ดี
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะเชิญทีมงาน ทั้งรองผู้ว่าฯ 4 คน ที่ประกอบด้วย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ และ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.จำนวน 9 ราย ที่มีนายวัลลภ สุวรรณดี เป็นประธาน คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และทีมเลขานุการ ผู้ว่าฯกทม. เพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบด้านต่างๆ ของกทม. เร่งสานงานต่อไม่ให้เกิดช่องว่างหยุดชะงัก โดยเฉพาะการสนับสนุนงานพระราชพิธีพระบรมศพ และการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมภารกิจพิเศษในพระราชพิธีพระบรมศพ ทั้งนี้ คาดว่าจะแบ่งงานให้แก่ 4 รองผู้ว่าฯ กทม. ดังนี้
พล.ต.ท.อำนวย ดูแลงานในส่วนที่ตนดูแลเมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่าฯกทม. อาทิ งานด้านความมั่นคง ความปลอดภัย การจัดระเบียบทางเท้า และการบรรเทาสาธารณภัย นายจักกพันธุ์ ดูแลเรื่องงานโยธา และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ นายทวีศักดิ์ จะดูแลเรื่องงานแก้ไขปัญหาจราจร และการระบายน้ำ ส่วน นางวรรณวิไล จะรับผิดชอบในส่วนของงบประมาณ การเงินการคลัง และการประสานงานในพื้นที่เป็นหลัก
ส่วนการแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งค่อนข้างเป็นที่คาดหวังนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ที่ผ่านมาตนได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และผู้บังคับการตำรวจจราจร ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา คุยกันว่าจะค่อยๆ แก้กันอย่างไร โดยไม่อยากใหเไปโยนความผิดว่ามีการซื้อรถกันมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาปลายเหตุ หรือกระทั่งการจะทำแบบประเทศญี่ปุ่น ที่คนจะซื้อรถต้องมีที่จอด คงยังทำไม่ได้ เพราะปัจจุบันแค่ไม่ให้วิ่งยอนศร หรือห้ามมอเตอร์ไซค์ ไม่ให้ขึ้นทางเท้า ยังทำกันไม่ได้เลย เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของจิตสำนึก ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เพราะนิศัยคนไทยมักจะอะลุ่มอะล่วย สิ่งที่ต้องทำคือ การบังคับใข้กฎหมายให้เด็ดขาดมากขึ้นก่อน
สำหรับแนวทางการแก้ไขในส่วนของการระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในกทม.นั้น ปัจจุบันฝนตกเพียงแค่ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเกิดน้ำท่วมขังในหลายจุดสำคัญ เช่น ที่หน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตรอยต่อ กทม.กับจ.นนทบุรี ที่หน้าศาลอาญารัชดา ที่พื้นที่เป็นแอ่งกะทะ ฝนตกมานิดเดียวน้ำก็ท่วม
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือของ กทม. ก็สามารถรับมือได้ เพียงแต่ต้องใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ก็มีโอกาสลงพื้นที่ตรวจการระบายน้ำ พบว่าบางจุดปล่อยเครื่องทิ้งไว้โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล หรือบางแห่งก็อ้างว่าน้ำมันหมด เครื่องจึงไม่ทำงาน หากคนทำงานคิดแบบนี้ การแก้ปัญหาก็ไปไม่ได้ ดังนั้นตนคงต้องใช้ความเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น หากปล่อยปละละเลย ก็จะต้องมีมาตรการลงโทษ ไม่เช่นนั้นงานของกทม.ก็ไม่เดิน นอกจากนี้จะเร่งรัดในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายภายใน ซึ่งค้างอยู่มากกว่า 700 ตำแหน่ง และเพิ่งดำเนินการเสร็จไปเพียง 100 กว่าตำแหน่งเท่านั้น ตนกำชับภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ ต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่า 150 ตำแหน่ง ใช้การพิจารณาความสามารถ และความอาวุโส คล้ายกับระบบของตำรวจ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการกทม. รวมทั้งให้ตำแหน่งแก่คนทำงานจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตที่ว่า พล.ต.อ.อัศวิน เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ให้มาช่วยงาน เป็นผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีต ผู้ว่าฯกทม. ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพิ่งมาเคยพบกันหลังจากที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชนะเลือกตั้ง และมาพูดคุย ชักชวนให้มาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อย่างไรก็ตาม นโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ หากอันไหนดี ก็พร้อมจะสานต่อ แต่อันไหนที่ทำเพียงเพราะคะแนนเสียง ถ้าต้องฝืนใจ ตนก็คงไม่เอา เพราะส่วนตัวไม่กังวลเรื่องคะแนนเสียง ไม่ได้คิดจะสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. อยู่แล้ว
"ผมไม่ได้ยโสอะไร แต่ตอนนี้อายุ 60 กว่า ก็น่าจะคิดเป็นอย่างๆ และหากคำนึงถึงแต่คะแนนเสียง นโยบายหลายอย่างที่รับผิดชอบมา คงไม่สำเร็จ โดยเฉพาะการจัดระเบียบพื้นที่ต่างๆ ทั้งคลองโอ่งอ่าง ปากคลองตลาด หรือล่าสุดที่สยามสแควร์ ซึ่งใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ เข้าไปจัดการ จนเป็นที่พอใจ" พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะเชิญทีมงาน ทั้งรองผู้ว่าฯ 4 คน ที่ประกอบด้วย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ และ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.จำนวน 9 ราย ที่มีนายวัลลภ สุวรรณดี เป็นประธาน คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และทีมเลขานุการ ผู้ว่าฯกทม. เพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบด้านต่างๆ ของกทม. เร่งสานงานต่อไม่ให้เกิดช่องว่างหยุดชะงัก โดยเฉพาะการสนับสนุนงานพระราชพิธีพระบรมศพ และการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมภารกิจพิเศษในพระราชพิธีพระบรมศพ ทั้งนี้ คาดว่าจะแบ่งงานให้แก่ 4 รองผู้ว่าฯ กทม. ดังนี้
พล.ต.ท.อำนวย ดูแลงานในส่วนที่ตนดูแลเมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่าฯกทม. อาทิ งานด้านความมั่นคง ความปลอดภัย การจัดระเบียบทางเท้า และการบรรเทาสาธารณภัย นายจักกพันธุ์ ดูแลเรื่องงานโยธา และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ นายทวีศักดิ์ จะดูแลเรื่องงานแก้ไขปัญหาจราจร และการระบายน้ำ ส่วน นางวรรณวิไล จะรับผิดชอบในส่วนของงบประมาณ การเงินการคลัง และการประสานงานในพื้นที่เป็นหลัก
ส่วนการแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งค่อนข้างเป็นที่คาดหวังนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ที่ผ่านมาตนได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และผู้บังคับการตำรวจจราจร ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา คุยกันว่าจะค่อยๆ แก้กันอย่างไร โดยไม่อยากใหเไปโยนความผิดว่ามีการซื้อรถกันมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาปลายเหตุ หรือกระทั่งการจะทำแบบประเทศญี่ปุ่น ที่คนจะซื้อรถต้องมีที่จอด คงยังทำไม่ได้ เพราะปัจจุบันแค่ไม่ให้วิ่งยอนศร หรือห้ามมอเตอร์ไซค์ ไม่ให้ขึ้นทางเท้า ยังทำกันไม่ได้เลย เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของจิตสำนึก ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เพราะนิศัยคนไทยมักจะอะลุ่มอะล่วย สิ่งที่ต้องทำคือ การบังคับใข้กฎหมายให้เด็ดขาดมากขึ้นก่อน
สำหรับแนวทางการแก้ไขในส่วนของการระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในกทม.นั้น ปัจจุบันฝนตกเพียงแค่ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเกิดน้ำท่วมขังในหลายจุดสำคัญ เช่น ที่หน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตรอยต่อ กทม.กับจ.นนทบุรี ที่หน้าศาลอาญารัชดา ที่พื้นที่เป็นแอ่งกะทะ ฝนตกมานิดเดียวน้ำก็ท่วม
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือของ กทม. ก็สามารถรับมือได้ เพียงแต่ต้องใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ก็มีโอกาสลงพื้นที่ตรวจการระบายน้ำ พบว่าบางจุดปล่อยเครื่องทิ้งไว้โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล หรือบางแห่งก็อ้างว่าน้ำมันหมด เครื่องจึงไม่ทำงาน หากคนทำงานคิดแบบนี้ การแก้ปัญหาก็ไปไม่ได้ ดังนั้นตนคงต้องใช้ความเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น หากปล่อยปละละเลย ก็จะต้องมีมาตรการลงโทษ ไม่เช่นนั้นงานของกทม.ก็ไม่เดิน นอกจากนี้จะเร่งรัดในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายภายใน ซึ่งค้างอยู่มากกว่า 700 ตำแหน่ง และเพิ่งดำเนินการเสร็จไปเพียง 100 กว่าตำแหน่งเท่านั้น ตนกำชับภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ ต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่า 150 ตำแหน่ง ใช้การพิจารณาความสามารถ และความอาวุโส คล้ายกับระบบของตำรวจ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการกทม. รวมทั้งให้ตำแหน่งแก่คนทำงานจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตที่ว่า พล.ต.อ.อัศวิน เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ให้มาช่วยงาน เป็นผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีต ผู้ว่าฯกทม. ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพิ่งมาเคยพบกันหลังจากที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชนะเลือกตั้ง และมาพูดคุย ชักชวนให้มาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อย่างไรก็ตาม นโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ หากอันไหนดี ก็พร้อมจะสานต่อ แต่อันไหนที่ทำเพียงเพราะคะแนนเสียง ถ้าต้องฝืนใจ ตนก็คงไม่เอา เพราะส่วนตัวไม่กังวลเรื่องคะแนนเสียง ไม่ได้คิดจะสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. อยู่แล้ว
"ผมไม่ได้ยโสอะไร แต่ตอนนี้อายุ 60 กว่า ก็น่าจะคิดเป็นอย่างๆ และหากคำนึงถึงแต่คะแนนเสียง นโยบายหลายอย่างที่รับผิดชอบมา คงไม่สำเร็จ โดยเฉพาะการจัดระเบียบพื้นที่ต่างๆ ทั้งคลองโอ่งอ่าง ปากคลองตลาด หรือล่าสุดที่สยามสแควร์ ซึ่งใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ เข้าไปจัดการ จนเป็นที่พอใจ" พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว.