สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลา และถวายเครื่องราชสักการะ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช
วานนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวัน "ปิยมหาราช"
ต่อมาเมื่อเวลา 18.23 น. เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวัน "ปิยมหาราช" ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับวันปิยมหาราช หรือวันคล้ายวันสวรรคต ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 เมื่อครั้งทรงประชวร และเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ครั้นนั้นเป็นที่เศร้าสลดอย่างใหญ่หลวงของพระบรมวงศานุวงศ์ และปวงชนทั่วประเทศ เพราะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพตามโบราณราชประเพณีแล้ว เมื่อวันคล้ายสวรรคตเวียนมาบรรจบ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้สืบราชสันตติวงศ์ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายตามราชประเพณี โดยเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ออกประดิษฐานบนพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร และเชิญพระพุทธรูปปางประจำพระชนมวารประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท หรือพระที่นั่งอนันตสมาคม
ก่อนหน้านั้น ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วางพวงมาลาที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช
นอกจากนั้น ยังมีผู้แทนองค์กรต่าง ๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ต่างทยอยวางพวงมาลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งการเลิกทาส การปฏิรูประบบราชการ การสาธารณูปโภค การศึกษา และปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤต สามารถธำรงไว้ซึ่งเอกราชตราบจนถึงปัจจุบัน.
วานนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวัน "ปิยมหาราช"
ต่อมาเมื่อเวลา 18.23 น. เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวัน "ปิยมหาราช" ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับวันปิยมหาราช หรือวันคล้ายวันสวรรคต ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 เมื่อครั้งทรงประชวร และเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ครั้นนั้นเป็นที่เศร้าสลดอย่างใหญ่หลวงของพระบรมวงศานุวงศ์ และปวงชนทั่วประเทศ เพราะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพตามโบราณราชประเพณีแล้ว เมื่อวันคล้ายสวรรคตเวียนมาบรรจบ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้สืบราชสันตติวงศ์ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายตามราชประเพณี โดยเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ออกประดิษฐานบนพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร และเชิญพระพุทธรูปปางประจำพระชนมวารประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท หรือพระที่นั่งอนันตสมาคม
ก่อนหน้านั้น ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วางพวงมาลาที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช
นอกจากนั้น ยังมีผู้แทนองค์กรต่าง ๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ต่างทยอยวางพวงมาลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งการเลิกทาส การปฏิรูประบบราชการ การสาธารณูปโภค การศึกษา และปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤต สามารถธำรงไว้ซึ่งเอกราชตราบจนถึงปัจจุบัน.