“พล.อ.ไพบูลย์” รมว.ยุติธรรม กำชับ ปปง. เร่งยึดทรัพย์เครือข่าย “เล่าต๋า แสนลี่” ราชายาเสพติดรายใหญ่ของไทย ที่ถูกจับกุมที่ จ.เชียงใหม่ ด้าน รรท.ผบช.ปส. มั่นใจดำเนินคดี “เล่าต๋า” ได้แน่นอน มีหลักฐานชัดดำเนินการเก็บมากว่า 1 ปี เชื่อยังมีผู้ร่วมขบวนการทั้งในและต่างประเทศอีกกว่า 100 ราย
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การจับกุม นายเล่าต๋า แสนลี่ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของไทย เป็นไปตามมาตรการปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งบัญชีรายชื่อกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ 5 กลุ่ม และเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ 60 เครือข่าย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการปราบปรามเพื่อเร่งรัดการจับกุมในภาพรวมทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้เข้าทำการยึดทรัพย์ของกลุ่มขบวนการเครือข่ายยาเสพติดของ นายเล่าต๋า ทั้งหมด โดยมั่นใจว่าจะมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่
ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเล่าต๋า แสนลี่ นั้น พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รรท.ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดจะมีส่วนรู้เห็นกับการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะการจับกุมครั้งนี้นายเล่าต๋าและพวกมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่จับกุมได้ในที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมันในท้องที่หมู่ 12 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวมถึงเงินที่ใช้ล่อซื้ออีกจำนวนกว่า 11 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานทั้งพยานภาพถ่าย พยานบุคคล และหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก ประกอบกับขณะจับกุมเป็นช่วงการส่งมอบยาเสพติดและรับเงินที่ล่อซื้อพอดี นายเล่าต๋าก็อยู่ในช่วงการส่งมอบนั้นด้วย ทั้งนี้ หลักฐานที่ตำรวจมีไม่ได้มีเฉพาะในวันที่เข้าจับกุมเท่านั้น แต่มีการเก็บหลักฐานมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าครั้งนี้ตำรวจจะสามารถดำเนินคดีต่อนายเล่าต๋าได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจในพื้นที่ยังคงขยายผลการสอบสวนสืบสวนหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และหาแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดของนายเล่าต๋าเพิ่มเติม คาดว่าจะถูกซ่อนไว้ตามบริเวณแนวชายแดน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเครือข่ายของนายเล่าต๋าที่ถูกจับกุมวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คาดว่าจะมีผู้รู้เห็นและร่วมขบวนการอีกมากกว่า 100 คน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดโทรศัพท์มาพูดคุยเจรจาหรือกดดันในด้านการทำงานของตำรวจแต่อย่างใด หากมีการโทร.มาพูดคุยเจรจาไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ขอยืนยันว่าจะต้องถูกสอบสวนและหาความเชื่อมโยงถึงกันด้วยทันที ทั้งนี้ เชื่อว่าทางกระทรวงยุติธรรมไม่น่าจะยินยอมให้มีการกดดันการทำงานตำรวจ ไม่ว่าด้านใดก็ตามแน่นอน ขณะเดียวกันจะไม่มีการเพิ่มกำลังคุ้มกันนายเล่าต๋าที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เนื่องจากมีการเตรียมกำลังไว้เพียงพอแล้ว และเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามาชิงตัวนายเล่าต๋า อีกทั้งเชื่อว่าขณะนี้เครือข่ายของนายเล่าต๋าอยู่ระหว่างการหลบหนีเอาตัวรอดมากกว่า
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน ป.ป.ส.สั่งการให้ตำรวจ บช.ปส.ทำหนังสือรายงานชี้แจงไปที่แต่ละหน่วยงานเพื่อให้ทราบเรื่องกระบวนการจับกุมอย่างละเอียดนั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องทาง บช.ปส.ต้องทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่ช่วยดูแลเรื่องเกี่ยวกับการจับกุมยาเสพติด รวมทั้งจะได้เตรียมตัวได้ทันในกระบวนการต่างๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้อง รวมถึงการสนับสนุนด้านงบประมาณและกำลังคนในด้านต่างๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวยกเลิกการแถลงข่าวจับกุมนายเล่าต๋านั้น ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไร ยังไม่มีการรายงานเข้ามา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า นายเล่าต๋า ถูกจับตามหมายจับค้างเก่า และถือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ และมีเครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสืบสวนขยายผลไปถึงรายอื่นๆ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการอยู่แล้ว
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การจับกุม นายเล่าต๋า แสนลี่ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของไทย เป็นไปตามมาตรการปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งบัญชีรายชื่อกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ 5 กลุ่ม และเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ 60 เครือข่าย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการปราบปรามเพื่อเร่งรัดการจับกุมในภาพรวมทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้เข้าทำการยึดทรัพย์ของกลุ่มขบวนการเครือข่ายยาเสพติดของ นายเล่าต๋า ทั้งหมด โดยมั่นใจว่าจะมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่
ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเล่าต๋า แสนลี่ นั้น พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รรท.ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดจะมีส่วนรู้เห็นกับการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะการจับกุมครั้งนี้นายเล่าต๋าและพวกมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่จับกุมได้ในที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมันในท้องที่หมู่ 12 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวมถึงเงินที่ใช้ล่อซื้ออีกจำนวนกว่า 11 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานทั้งพยานภาพถ่าย พยานบุคคล และหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก ประกอบกับขณะจับกุมเป็นช่วงการส่งมอบยาเสพติดและรับเงินที่ล่อซื้อพอดี นายเล่าต๋าก็อยู่ในช่วงการส่งมอบนั้นด้วย ทั้งนี้ หลักฐานที่ตำรวจมีไม่ได้มีเฉพาะในวันที่เข้าจับกุมเท่านั้น แต่มีการเก็บหลักฐานมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าครั้งนี้ตำรวจจะสามารถดำเนินคดีต่อนายเล่าต๋าได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจในพื้นที่ยังคงขยายผลการสอบสวนสืบสวนหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และหาแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดของนายเล่าต๋าเพิ่มเติม คาดว่าจะถูกซ่อนไว้ตามบริเวณแนวชายแดน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเครือข่ายของนายเล่าต๋าที่ถูกจับกุมวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คาดว่าจะมีผู้รู้เห็นและร่วมขบวนการอีกมากกว่า 100 คน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดโทรศัพท์มาพูดคุยเจรจาหรือกดดันในด้านการทำงานของตำรวจแต่อย่างใด หากมีการโทร.มาพูดคุยเจรจาไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ขอยืนยันว่าจะต้องถูกสอบสวนและหาความเชื่อมโยงถึงกันด้วยทันที ทั้งนี้ เชื่อว่าทางกระทรวงยุติธรรมไม่น่าจะยินยอมให้มีการกดดันการทำงานตำรวจ ไม่ว่าด้านใดก็ตามแน่นอน ขณะเดียวกันจะไม่มีการเพิ่มกำลังคุ้มกันนายเล่าต๋าที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เนื่องจากมีการเตรียมกำลังไว้เพียงพอแล้ว และเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามาชิงตัวนายเล่าต๋า อีกทั้งเชื่อว่าขณะนี้เครือข่ายของนายเล่าต๋าอยู่ระหว่างการหลบหนีเอาตัวรอดมากกว่า
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน ป.ป.ส.สั่งการให้ตำรวจ บช.ปส.ทำหนังสือรายงานชี้แจงไปที่แต่ละหน่วยงานเพื่อให้ทราบเรื่องกระบวนการจับกุมอย่างละเอียดนั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องทาง บช.ปส.ต้องทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่ช่วยดูแลเรื่องเกี่ยวกับการจับกุมยาเสพติด รวมทั้งจะได้เตรียมตัวได้ทันในกระบวนการต่างๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้อง รวมถึงการสนับสนุนด้านงบประมาณและกำลังคนในด้านต่างๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวยกเลิกการแถลงข่าวจับกุมนายเล่าต๋านั้น ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไร ยังไม่มีการรายงานเข้ามา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า นายเล่าต๋า ถูกจับตามหมายจับค้างเก่า และถือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ และมีเครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสืบสวนขยายผลไปถึงรายอื่นๆ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการอยู่แล้ว