เมื่อเวลา10.45 น.วานนี้ (9 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้ให้การต้อนรับ นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีพิธีการตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ต่อด้วยการแนะนำคณะทางการฝ่ายไทย และฝ่ายอิหร่าน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีอิหร่านไปยังห้องสีงาช้าง เพื่อลงนามในสมุดเยี่ยม และหารือทวิภาคี ทั้งนี้การเยือนครั้งนี้ นับเป็นการเยือนประเทศไทยระดับประธานาธิบดี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน โดยในช่วงปีที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเยือนไทยของรองปธน.อิหร่าน และรมว.ต่างประเทศอิหร่าน รวมถึงการเยือนอิหร่านของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เป็นต้น
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับ นายฮัสซัน โรฮานี ปธน.อิหร่าน สู่ประเทศไทยและกล่าวขอบคุณที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ACD ครั้งที่ 2 ด้วยตนเอง พร้อมชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของอิหร่าน ในกรอบ ACDในช่วงที่ผ่านมา
ด้านปธน.อิหร่าน ได้กล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-อิหร่าน มีมายาวนาน ซึ่งการเยือนไทยครั้งนี้ นับเป็นการเยือนระดับสูงที่สุดครั้งแรกของฝ่ายอิหร่าน อันเป็นการยืนยันถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศ
"นายกฯได้กล่าวถึงการพบกับดร.ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งที่ 14 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่าได้หารือถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันในหลายประเด็น ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับอิหร่านในทุกสาขา โดยประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านเองก็ให้ความสำคัญกับการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ โดยได้นำบุคคลสำคัญของฝ่ายอิหร่านเดินทางร่วมคณะด้วย อาทิ รองปธน.อิหร่าน รมว.พาณิชย์ พลังงาน เกษตร และเชื่อมั่นว่า ในการเยือนไทยครั้งนี้จะเป็นสร้างความสัมพันธ์หน้าใหม่กับประเทศไทยในทุกด้าน" พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและระหว่างภาคเอกชนของสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิหร่านมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายสาขา อาทิ ด้านการค้า การท่องเที่ยว พลังงาน วัฒนธรรม การเกษตร และการประมง และอิหร่านมีความพร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับประเทศไทยในทุกด้าน ส่วนด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ไทยยินดีที่มีการลงนามความตกลงทางการค้าและมีการส่งคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเยือนอิหร่าน เพื่อหาลู่ทางในการสร้างหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยในวันวันที่ 10 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ครั้งที่ 1 ซึ่งการประชุมดังกล่าว จะเป็นเวทีในการหารือและเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าและกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
ส่วนด้านพลังงาน อิหร่านได้ตอบรับความต้องการของไทย ที่จะฟื้นฟูความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบบันทึกความเข้าใจด้านปิโตรเลียมระหว่างกระทรวงพลังงานไทยกับกระทรวงปิโตรเลียมอิหร่านด้วย ด้านการเกษตร ปธน.อิหร่าน กล่าวชื่นชมผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้และอาหารแปรรูปของไทยว่ามีคุณภาพดี ในขณะที่ผลไม้ของอิหร่าน ก็มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอินทผาลัม และแอปเปิล ซึ่งสองประเทศสามารถส่งเสริมการนำเข้าผลไม้เหล่านี้ระหว่างกันได้
" อิหร่านยังแสดงความประสงค์ที่จะซื้อข้าวจากประเทศไทยรอบใหม่ ซึ่งนายกฯได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการซื้อข้าวจากไทย ตามที่เคยมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อข้าว ซึ่งอิหร่านกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานของฝ่ายอิหร่าน ซึ่งเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข ที่ใกล้จะดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยฝ่ายอิหร่านจะช่วยเร่งรัดในเรื่องนี้ต่อไป" พล.ท.วีรชน กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีอิหร่านไปยังห้องสีงาช้าง เพื่อลงนามในสมุดเยี่ยม และหารือทวิภาคี ทั้งนี้การเยือนครั้งนี้ นับเป็นการเยือนประเทศไทยระดับประธานาธิบดี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน โดยในช่วงปีที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเยือนไทยของรองปธน.อิหร่าน และรมว.ต่างประเทศอิหร่าน รวมถึงการเยือนอิหร่านของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เป็นต้น
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับ นายฮัสซัน โรฮานี ปธน.อิหร่าน สู่ประเทศไทยและกล่าวขอบคุณที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ACD ครั้งที่ 2 ด้วยตนเอง พร้อมชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของอิหร่าน ในกรอบ ACDในช่วงที่ผ่านมา
ด้านปธน.อิหร่าน ได้กล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-อิหร่าน มีมายาวนาน ซึ่งการเยือนไทยครั้งนี้ นับเป็นการเยือนระดับสูงที่สุดครั้งแรกของฝ่ายอิหร่าน อันเป็นการยืนยันถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศ
"นายกฯได้กล่าวถึงการพบกับดร.ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งที่ 14 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่าได้หารือถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันในหลายประเด็น ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับอิหร่านในทุกสาขา โดยประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านเองก็ให้ความสำคัญกับการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ โดยได้นำบุคคลสำคัญของฝ่ายอิหร่านเดินทางร่วมคณะด้วย อาทิ รองปธน.อิหร่าน รมว.พาณิชย์ พลังงาน เกษตร และเชื่อมั่นว่า ในการเยือนไทยครั้งนี้จะเป็นสร้างความสัมพันธ์หน้าใหม่กับประเทศไทยในทุกด้าน" พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและระหว่างภาคเอกชนของสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิหร่านมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายสาขา อาทิ ด้านการค้า การท่องเที่ยว พลังงาน วัฒนธรรม การเกษตร และการประมง และอิหร่านมีความพร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับประเทศไทยในทุกด้าน ส่วนด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ไทยยินดีที่มีการลงนามความตกลงทางการค้าและมีการส่งคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเยือนอิหร่าน เพื่อหาลู่ทางในการสร้างหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยในวันวันที่ 10 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ครั้งที่ 1 ซึ่งการประชุมดังกล่าว จะเป็นเวทีในการหารือและเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าและกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
ส่วนด้านพลังงาน อิหร่านได้ตอบรับความต้องการของไทย ที่จะฟื้นฟูความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบบันทึกความเข้าใจด้านปิโตรเลียมระหว่างกระทรวงพลังงานไทยกับกระทรวงปิโตรเลียมอิหร่านด้วย ด้านการเกษตร ปธน.อิหร่าน กล่าวชื่นชมผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้และอาหารแปรรูปของไทยว่ามีคุณภาพดี ในขณะที่ผลไม้ของอิหร่าน ก็มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอินทผาลัม และแอปเปิล ซึ่งสองประเทศสามารถส่งเสริมการนำเข้าผลไม้เหล่านี้ระหว่างกันได้
" อิหร่านยังแสดงความประสงค์ที่จะซื้อข้าวจากประเทศไทยรอบใหม่ ซึ่งนายกฯได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการซื้อข้าวจากไทย ตามที่เคยมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อข้าว ซึ่งอิหร่านกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานของฝ่ายอิหร่าน ซึ่งเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข ที่ใกล้จะดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยฝ่ายอิหร่านจะช่วยเร่งรัดในเรื่องนี้ต่อไป" พล.ท.วีรชน กล่าว
