หนุ่มถูกถีบจักรยานยนต์ล้มจนได้รับบาดเจ็บพร้อมน้องสาวนำหลักฐานแจ้งความ สน.บางขุนเทียน ให้ดำเนินคดีพยายามฆ่า แต่เบื้องต้น ตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนคู่กรณีเข้าให้ปากคำเช่นกัน
จากกรณีที่นายณัฐบุรุษ ศิริเชษฐมาศ อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง เลขทะเบียน อสพ 834 กทม.พร้อมด้วย น.ส.พฤทธิภรณ์ ฮิมสกุล อายุ 19 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ นายณัฐสุรัชร์ บุญจันทร์ อายุ 19 ปีผู้ก่อเหตุคู่กรกณีถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้ตนและน้องสาวได้รับบาดเจ็บ บนถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้แยกกำนันแม้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (2 ต.ค.) ผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมญาติและทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมนำหลักฐานการโพสต์ในเฟส มามอบให้เจ้าหน้าที่
นายณัฐบุรุษกล่าวว่า ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อที่จะไปส่งน้องสาวที่ตลาดพลู โดยใช้เส้นทางถนนกำนันแม้น ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ตนกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าถนนกัลปพฤกษ์ แต่จู่ๆ ก็มีรถอีกคัน ขับฝ่าไฟแดงมาจากถนนกัลปพฤกษ์ เพื่อที่จะเลี้ยวขวาเข้าถนนกำนันแม้น ทำให้เกือบเฉี่ยวชนกัน ตนจึงได้ตะโกนด่าไป สร้างความไม่พอใจกับนายณัฐสุรัชร์ และได้ขับรถตามหลังตนมาจะเอาเรื่อง และบอกให้ตนขอโทษ ตนจึงได้บอกไปว่า ถ้าไม่พอใจให้ขับตามมาเพื่อไปโรงพัก แต่เมื่อขับมาถึงบริเวณหน้าเมโทรพาร์ค คู่กรณีก็ขับแซงซ้ายขึ้นมาแล้วใช้เท้าทีบข้างรถของตน จนเกิดเสียหลักล้ม แล้วรีบเร่งเครื่องหลบหนีไปในทันที โดยที่ตนเองได้รับบาดเจ็บ มีแผลทะลอกที่แขนทั้งสองข้าง และขาข้างซ้าย ส่วนน้องสาวมีแผลทะลอกตามตัวเล็กน้อย แต่ที่บริเวณตาขวามีอาการบวม ซึ่งแพทย์ให้กลับมาดูอาการที่บ้านเป็นเวลา 24 ชม. แล้วค่อยกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง
“ผมอยากจะฝากว่า อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก ถ้าเกิดน้องผมตาย คุณก็ติดคุก ซึ่งตนจะดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด”
พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน กล่าวว่าเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าทางครอบครัว นายณัฐบุรุษ ต้องการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาตามพยานหลักฐานอีกครั้ง
“ต้องรอดูไปตามพยานหลักฐาน เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ซึ่งหลังจากนี้ ก็อยู่ในช่วงการรวบรวมพยานหลักฐาน และที่สำคัญ คือใบรับรองความเห็นของแพทย์ เพราะการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น มี 2 อย่างคือ มีแบบธรรมดา และแบบสาหัส โดยหากแพทย์มีความเห็นต้องทำการรักษาเกิน 15 วัน ก็จะเป็นแบบสาหัส ซึ่งอาจจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่พยายามจะเดินหน้าให้เร็วที่สุด”
ล่าสุด แพทย์ได้ลงความเห็นว่าของผู้เสียหายผู้ชายเป็นแบบแค่ 3 วัน แต่ในส่วนของผู้เสียหายผู้หญิงต้องรอความเห็นส่วนของดวงตาอีกครั้ง โดยจากที่เรียกให้มาพบกัน เป็นการเข้ามาปรับความเข้าใจกันเท่านั้น เพราะคดีความนี้ ไม่สามารถยอมความกันได้ ขณะที่หลักฐานหลักจะเป็นในส่วนของคลิปวีดีโอที่ปรากฎ และใบรับรองจากแพทย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับข้อความที่โพสต์บนเฟสบุ๊ค
วันเดียวกัน นายณัฐสุรัชร์ บุญจันทร์ อายุ 19 ปี คู่กรณีที่ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจ โดยทางพนักงานสอบสวน ได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด โดยนายณัฐสุวัชร์ ได้เดินทางมาพร้อมบิดา.
จากกรณีที่นายณัฐบุรุษ ศิริเชษฐมาศ อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง เลขทะเบียน อสพ 834 กทม.พร้อมด้วย น.ส.พฤทธิภรณ์ ฮิมสกุล อายุ 19 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ นายณัฐสุรัชร์ บุญจันทร์ อายุ 19 ปีผู้ก่อเหตุคู่กรกณีถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้ตนและน้องสาวได้รับบาดเจ็บ บนถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้แยกกำนันแม้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (2 ต.ค.) ผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมญาติและทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมนำหลักฐานการโพสต์ในเฟส มามอบให้เจ้าหน้าที่
นายณัฐบุรุษกล่าวว่า ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อที่จะไปส่งน้องสาวที่ตลาดพลู โดยใช้เส้นทางถนนกำนันแม้น ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ตนกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าถนนกัลปพฤกษ์ แต่จู่ๆ ก็มีรถอีกคัน ขับฝ่าไฟแดงมาจากถนนกัลปพฤกษ์ เพื่อที่จะเลี้ยวขวาเข้าถนนกำนันแม้น ทำให้เกือบเฉี่ยวชนกัน ตนจึงได้ตะโกนด่าไป สร้างความไม่พอใจกับนายณัฐสุรัชร์ และได้ขับรถตามหลังตนมาจะเอาเรื่อง และบอกให้ตนขอโทษ ตนจึงได้บอกไปว่า ถ้าไม่พอใจให้ขับตามมาเพื่อไปโรงพัก แต่เมื่อขับมาถึงบริเวณหน้าเมโทรพาร์ค คู่กรณีก็ขับแซงซ้ายขึ้นมาแล้วใช้เท้าทีบข้างรถของตน จนเกิดเสียหลักล้ม แล้วรีบเร่งเครื่องหลบหนีไปในทันที โดยที่ตนเองได้รับบาดเจ็บ มีแผลทะลอกที่แขนทั้งสองข้าง และขาข้างซ้าย ส่วนน้องสาวมีแผลทะลอกตามตัวเล็กน้อย แต่ที่บริเวณตาขวามีอาการบวม ซึ่งแพทย์ให้กลับมาดูอาการที่บ้านเป็นเวลา 24 ชม. แล้วค่อยกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง
“ผมอยากจะฝากว่า อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก ถ้าเกิดน้องผมตาย คุณก็ติดคุก ซึ่งตนจะดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด”
พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน กล่าวว่าเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าทางครอบครัว นายณัฐบุรุษ ต้องการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาตามพยานหลักฐานอีกครั้ง
“ต้องรอดูไปตามพยานหลักฐาน เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ซึ่งหลังจากนี้ ก็อยู่ในช่วงการรวบรวมพยานหลักฐาน และที่สำคัญ คือใบรับรองความเห็นของแพทย์ เพราะการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น มี 2 อย่างคือ มีแบบธรรมดา และแบบสาหัส โดยหากแพทย์มีความเห็นต้องทำการรักษาเกิน 15 วัน ก็จะเป็นแบบสาหัส ซึ่งอาจจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่พยายามจะเดินหน้าให้เร็วที่สุด”
ล่าสุด แพทย์ได้ลงความเห็นว่าของผู้เสียหายผู้ชายเป็นแบบแค่ 3 วัน แต่ในส่วนของผู้เสียหายผู้หญิงต้องรอความเห็นส่วนของดวงตาอีกครั้ง โดยจากที่เรียกให้มาพบกัน เป็นการเข้ามาปรับความเข้าใจกันเท่านั้น เพราะคดีความนี้ ไม่สามารถยอมความกันได้ ขณะที่หลักฐานหลักจะเป็นในส่วนของคลิปวีดีโอที่ปรากฎ และใบรับรองจากแพทย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับข้อความที่โพสต์บนเฟสบุ๊ค
วันเดียวกัน นายณัฐสุรัชร์ บุญจันทร์ อายุ 19 ปี คู่กรณีที่ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจ โดยทางพนักงานสอบสวน ได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด โดยนายณัฐสุวัชร์ ได้เดินทางมาพร้อมบิดา.