ผู้จัดการรายวัน360- รัฐบาลผลักดันโครงการตลาดต้องชม ครบ 76 จังหวัดและกทม. เผยบางแห่งสร้างรายได้ถึง 5 แสนบาทต่อวัน เน้นชูเอกลักษณ์ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ตั้งเป้าผุดตลาดชม ชิม ช้อป 231 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 61
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลใช้กลไกประชารัฐ ผลักดันการเปิดตลาดชุมชนภายใต้โครงการ"ตลาดต้องชม" ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของชุมชน ได้ครบทุกจังหวัด และกทม. ตามเป้าหมายจำนวน 77 แห่งในปีแรกแล้ว สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนหลักแสนบาท โดยตลาดบางแห่งสามารถสร้างรายได้ราว 4–5 แสนบาทต่อวัน ส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่ผลิตสินค้ามาจำหน่ายบางครัวเรือนมีรายได้ 5 - 6 พันบาท ต่อวัน
"ตลาดต้องชม เป็นตลาดชุมชนที่มีการซื้อขายสินค้าท้องถิ่นคุณภาพดี ในราคาที่เป็นธรรม และยังคงรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนไว้ โดยมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ตลาดให้สวยงาม เป็นระเบียบ ช่วยดึงดูดคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทั้งสินค้าเกษตร หัตถกรรม โอทอป และสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ตลาดเซราะกราว จ.บุรีรัมย์ ตลาดนาวง จ.นครศรีธรรมราช กาดข่วงเมืองน่าน จ.น่าน ตลาดน้ำลำพญา จ.นครปฐม เป็นต้น"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นหลักสนับสนุนให้เกิดตลาดนี้ขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นย้ำว่า ตลาดต้องชม จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเป็นจุดเชื่อมโยงและกระจายผลผลิตอย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการค้าขาย และการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน คนในชุมชนจึงมีอาชีพ และมีรายได้ นำไปเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
"ในอนาคตกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ตลาดต้องชมเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ทุกคนรู้จัก และเป็นแหล่งชม ชิม ชอป ของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินโครงการตลาดต้องชมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พ่อค้า แม่ค้า ผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยรัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มตลาดต้องชมให้ครบจังหวัดละ 3 แห่ง รวมเป็น 231 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2561"
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลใช้กลไกประชารัฐ ผลักดันการเปิดตลาดชุมชนภายใต้โครงการ"ตลาดต้องชม" ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของชุมชน ได้ครบทุกจังหวัด และกทม. ตามเป้าหมายจำนวน 77 แห่งในปีแรกแล้ว สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนหลักแสนบาท โดยตลาดบางแห่งสามารถสร้างรายได้ราว 4–5 แสนบาทต่อวัน ส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่ผลิตสินค้ามาจำหน่ายบางครัวเรือนมีรายได้ 5 - 6 พันบาท ต่อวัน
"ตลาดต้องชม เป็นตลาดชุมชนที่มีการซื้อขายสินค้าท้องถิ่นคุณภาพดี ในราคาที่เป็นธรรม และยังคงรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนไว้ โดยมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ตลาดให้สวยงาม เป็นระเบียบ ช่วยดึงดูดคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทั้งสินค้าเกษตร หัตถกรรม โอทอป และสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ตลาดเซราะกราว จ.บุรีรัมย์ ตลาดนาวง จ.นครศรีธรรมราช กาดข่วงเมืองน่าน จ.น่าน ตลาดน้ำลำพญา จ.นครปฐม เป็นต้น"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นหลักสนับสนุนให้เกิดตลาดนี้ขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นย้ำว่า ตลาดต้องชม จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเป็นจุดเชื่อมโยงและกระจายผลผลิตอย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการค้าขาย และการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน คนในชุมชนจึงมีอาชีพ และมีรายได้ นำไปเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
"ในอนาคตกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ตลาดต้องชมเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ทุกคนรู้จัก และเป็นแหล่งชม ชิม ชอป ของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินโครงการตลาดต้องชมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พ่อค้า แม่ค้า ผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยรัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มตลาดต้องชมให้ครบจังหวัดละ 3 แห่ง รวมเป็น 231 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2561"