ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายอุกอาจใช้ปืน-สเปรย์พริกไทย บุกปล้น ธ.กรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 ได้เงินไปเกือบล้าน หลังก่อเหตุจี้รถเก๋งขับหลบหนี แต่ไม่รอดถูกจับกุมไว้ได้ รับสารภาพจะนำเงินไปใช้หนี้พนัน
วานนี้ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกปล้นธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 บริเวณถนนศรีราชา-หนองยายบู่ หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานตำรวจในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุมาช่วยกันปิดล้อมเนื่องจากคนร้ายยังอยู่ในธนาคาร
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงธนาคารคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าประตูจึงวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 และเปิดหน้าต่างกระโดดวิ่งไปตามหลังคาตึก ไปลงที่บ้านเลขที่ 372/102 หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา พร้อมใช้อาวุธปืนจี้นายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพ ขับรถหลบหนีโดยไม่ทราบทิศทาง
** ใช้สเปรย์พริกไทยฉีดตา รปภ.
จากการสอบถาม นายสมทัย จันเพ็ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 กล่าวว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงสีเข้ม เปิดประตูเข้ามา ก่อนล้วงหยิบอาวุธปืน และสเปรย์พริกไทยฉีดใส่ตาของตนเองทำให้ตนมองอะไรไม่เห็น จากนั้นตรงเข้าไปยังเคาน์เตอร์ธนาคาร และใช้อาวุธปืนบังคับพนักงานให้นำเงินใส่กระเป๋าที่เตรียมไว้ โดยเบื้องต้น คาดว่าคนร้ายได้เงินสดไปเกือบ 1 ล้านบาท หลบหนีไปได้ดังกล่าว
ต่อมาเวลา 14.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายจนไปพบรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพฯ ที่จี้ไป จอดทิ้งไว้บริเวณวัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจากธนาคารฯ ที่ก่อเหตุประมาณ 4-5 กิโลเมตร และคนร้ายได้ลงจากรถลุยน้ำในท้องนาหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก ก่อนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผู้ต้องสงสัยมีกระเป๋าสะพายได้ลุยท้องนาไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากจุดจอดรถเก๋งประมาณ 300 เมตร ทราบต่อมาว่าเป็นบ้านของคนร้ายเพื่อมาเปลี่ยนชุดที่ใช้ก่อเหตุและได้ขับรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขย 7317 ชลบุรี ขับหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามและไปทันที่บริเวณ ซ.บังกาโลเรือนคำ ห่างจากบ้านที่เปลี่ยนชุดประมาณ 300 เมตร จึงควบคุมตัวไว้โดยไม่ขัดขืนแต่อย่างไร ซึ่งใช้เวลาในการติดตามจับกุมคนร้ายครั้งนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง
** หวังเอาเงินใช้หนี้พนันตามสูตร
จากการสอบถามคนร้ายทราบชื่อ นายนิพนธ์ เสือโพด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 166/5 หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา โดยให้การรับสารภาพสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้หนี้พนัน โดยมี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และควบคุมการทำแผนจี้ธนาคารในครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาศรีราชา 2 ว่า เงินที่คนร้ายจี้ไปครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 911,400 บาท ซึ่งโชคดีสามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และได้เงินดังกล่าวกลับคืนทั้งหมดโดยไม่มีการสูญหายแต่อย่างไร
นายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพ ที่ถูกคนร้ายจี้ไป เปิดเผยว่า ตน และแฟนสาวอยู่ภายในบ้าน ขณะนั้นแฟนสาวได้ยินเสียงอะไรตกที่หลังคาหน้าบ้านจึงออกไปดู พบคนร้ายกระโดดลงมาจากหลังคา จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนจี้และบังคับให้เอากุญแจรถยนต์มาให้โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย ซึ่งตนไม่กล้าขัดขืนจึงส่งกุญแจรถให้ จากนั้นคนร้ายก็รีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว.
วานนี้ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกปล้นธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 บริเวณถนนศรีราชา-หนองยายบู่ หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานตำรวจในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุมาช่วยกันปิดล้อมเนื่องจากคนร้ายยังอยู่ในธนาคาร
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงธนาคารคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าประตูจึงวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 และเปิดหน้าต่างกระโดดวิ่งไปตามหลังคาตึก ไปลงที่บ้านเลขที่ 372/102 หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา พร้อมใช้อาวุธปืนจี้นายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพ ขับรถหลบหนีโดยไม่ทราบทิศทาง
** ใช้สเปรย์พริกไทยฉีดตา รปภ.
จากการสอบถาม นายสมทัย จันเพ็ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 กล่าวว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงสีเข้ม เปิดประตูเข้ามา ก่อนล้วงหยิบอาวุธปืน และสเปรย์พริกไทยฉีดใส่ตาของตนเองทำให้ตนมองอะไรไม่เห็น จากนั้นตรงเข้าไปยังเคาน์เตอร์ธนาคาร และใช้อาวุธปืนบังคับพนักงานให้นำเงินใส่กระเป๋าที่เตรียมไว้ โดยเบื้องต้น คาดว่าคนร้ายได้เงินสดไปเกือบ 1 ล้านบาท หลบหนีไปได้ดังกล่าว
ต่อมาเวลา 14.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายจนไปพบรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพฯ ที่จี้ไป จอดทิ้งไว้บริเวณวัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจากธนาคารฯ ที่ก่อเหตุประมาณ 4-5 กิโลเมตร และคนร้ายได้ลงจากรถลุยน้ำในท้องนาหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก ก่อนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผู้ต้องสงสัยมีกระเป๋าสะพายได้ลุยท้องนาไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากจุดจอดรถเก๋งประมาณ 300 เมตร ทราบต่อมาว่าเป็นบ้านของคนร้ายเพื่อมาเปลี่ยนชุดที่ใช้ก่อเหตุและได้ขับรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขย 7317 ชลบุรี ขับหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามและไปทันที่บริเวณ ซ.บังกาโลเรือนคำ ห่างจากบ้านที่เปลี่ยนชุดประมาณ 300 เมตร จึงควบคุมตัวไว้โดยไม่ขัดขืนแต่อย่างไร ซึ่งใช้เวลาในการติดตามจับกุมคนร้ายครั้งนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง
** หวังเอาเงินใช้หนี้พนันตามสูตร
จากการสอบถามคนร้ายทราบชื่อ นายนิพนธ์ เสือโพด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 166/5 หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา โดยให้การรับสารภาพสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้หนี้พนัน โดยมี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และควบคุมการทำแผนจี้ธนาคารในครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาศรีราชา 2 ว่า เงินที่คนร้ายจี้ไปครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 911,400 บาท ซึ่งโชคดีสามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และได้เงินดังกล่าวกลับคืนทั้งหมดโดยไม่มีการสูญหายแต่อย่างไร
นายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพ ที่ถูกคนร้ายจี้ไป เปิดเผยว่า ตน และแฟนสาวอยู่ภายในบ้าน ขณะนั้นแฟนสาวได้ยินเสียงอะไรตกที่หลังคาหน้าบ้านจึงออกไปดู พบคนร้ายกระโดดลงมาจากหลังคา จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนจี้และบังคับให้เอากุญแจรถยนต์มาให้โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย ซึ่งตนไม่กล้าขัดขืนจึงส่งกุญแจรถให้ จากนั้นคนร้ายก็รีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว.