วานนี้ (26 ก.ย.) ที่กองปราบปราม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช., นางธิดา ถาวรเศรษฐ, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายนิสิต สินธุไพร, นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ, นายยงยุทธ ติยะไพรัช, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์, นายสมหวัง อัสราษี, นายยศวริศ ชูกล่อม, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ, นายเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์, นายอารี ไกรนรา, นายสมชาย ใจมุ่ง, นายพรศักดิ์ ศรีละมุด และ นายศักดิ์รพี พรหมชาติ รวม 19 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรายงานตัวในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ห้ามมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป กรณีร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายจตุพรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นคำร้องขอให้พนักงานสอบสวนสอบพยานเพิ่มอีก 8 ปาก เช่น นายอุดม มั่งมีดี, นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง, พล.ต.อ.วิฬุรห์ พื้นแสง, นายชัยเกษม นิติศิริ, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายโภคิน พลกุล และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ซึ่งพยานทั้งหมดเป็นนักกฎหมาย แต่หากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาต ตัวเองกับพวกจะถูกนำตัวส่งอัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาสั่งคดี เมื่อถึงตอนนั้นตนเองและพวกก็จะทำการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการศาลทหาร และขอสอบพยานเพิ่มเติม เนื่องจากว่าขณะเปิดศูนย์ปราบโกงนั้นทาง คสช.เองไม่ได้มีคำสั่งห้าม และสามารถจัดตั้งได้ แต่พอภายหลังจากเปิดศูนย์ดังกล่าวแล้วกลับมีการสั่งห้าม
ต่อมาเวลา 11.00 น. ภายหลังสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง นายจตุพรเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนอนุญาตให้นำพยานบุคคล 8 ปากเข้าให้ข้อมูล โดยให้เวลา 15 วันในการสอบสวนพยาน และนัดให้ตนกับพวกเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ หากพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง ก็จะนำสำนวนพร้อมตัวเองกับพวกส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดีต่อไป
นายจตุพรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นคำร้องขอให้พนักงานสอบสวนสอบพยานเพิ่มอีก 8 ปาก เช่น นายอุดม มั่งมีดี, นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง, พล.ต.อ.วิฬุรห์ พื้นแสง, นายชัยเกษม นิติศิริ, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายโภคิน พลกุล และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ซึ่งพยานทั้งหมดเป็นนักกฎหมาย แต่หากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาต ตัวเองกับพวกจะถูกนำตัวส่งอัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาสั่งคดี เมื่อถึงตอนนั้นตนเองและพวกก็จะทำการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการศาลทหาร และขอสอบพยานเพิ่มเติม เนื่องจากว่าขณะเปิดศูนย์ปราบโกงนั้นทาง คสช.เองไม่ได้มีคำสั่งห้าม และสามารถจัดตั้งได้ แต่พอภายหลังจากเปิดศูนย์ดังกล่าวแล้วกลับมีการสั่งห้าม
ต่อมาเวลา 11.00 น. ภายหลังสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง นายจตุพรเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนอนุญาตให้นำพยานบุคคล 8 ปากเข้าให้ข้อมูล โดยให้เวลา 15 วันในการสอบสวนพยาน และนัดให้ตนกับพวกเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ หากพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง ก็จะนำสำนวนพร้อมตัวเองกับพวกส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดีต่อไป