ผู้จัดการรายวัน 360 - ผบก.น.2 วอนอย่าตีความ “ธวัชชัย” ถูกฆาตกรรม ด้าน ผกก.ทุ่งสองห้อง คนหลุดปาก ก้นร้อนขนตำรามาอธิบายผม “ถูกทำให้ตาย” ตามหลักชันสูตรพลิกศพ ก่อนย้ำ พนง.สอบสวนตั้งข้อสังเกตว่า อาจถูกผู้อื่นทำให้ตายระหว่างคุมขัง “น้องชายธวัชชัย” รอผลทางการก่อนแจ้งความ “หมอเหรียญมอง” เผยโดนคนอ้างเป็นลูกน้อง ตร.โทรขู่
วานนี้ (22 ก.ย.)ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นพ.สมโภชน์ จิตรเกษมสุข รังสีแพทย์ และ นพ.ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย แพทย์อายุรกรรมหัวใจที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขณะอยู่ห้อง CCU เดินทางเข้าให้ปากคำกรณีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินรุกป่าที่ จ.ภูเก็ต ที่ใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตอย่างมีปริศนา ระหว่างถูกควบคุมตัวอยูที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) โดยมีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องและอัยการร่วมสอบปากคำ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เจริญ ได้กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า นายธวัชชัย เสียชีวิต จากการถูกทำให้เสียชีวิต แต่ไม่ใช่การฆาตกรรม ว่า อย่าเพิ่งตีความคำว่า นายธวัชชัย ถูกทำให้เสียชีวิตเป็นฆาตกรรม ขอเวลาพนักงานสอบสวนรวบรวบพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีให้ชัดเจนก่อน
** ผกก.ทุ่งสองห้องแจกตำราแจงยิบ
ด้าน พ.ต.อ.มานะ ได้ชี้แจงเสริม โดยได้แจก เอกสารหนังสือการชันสูตรพลิกศพ หน้า 101 หมวด 2 การชันสูตรพลิกศพ มาตรา 148 ที่ระบุว่าเมื่อปรากฎแน่ชัดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิกศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย ซึ่งการตายโดยผิดธรรมชาตินั้น คือ (1) ฆ่าตัวตาย (2) ถูกผู้อื่นทำให้ตาย (3) ถูกสัตว์ทำร้ายตาย (4) ตายโดยอุบัติเหตุ และ (5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากกการสอบสวนแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม มีการระบุว่า ร่องรอย 3-4 จุดบนร่างของนายธวัชชัยไม่ได้กระทำด้วยตนเอง จากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์นี้เพียงพอที่จะระบุว่า ผู้ตายถูกผู้อื่นทำให้ตาย ซึ่งอาจจะเกิดจากความประมาท หรือฆาตกรรม แต่ยังไม่ได้สรุปสำนวนการชันสูตรพลิกศพ เพราะต้องรอหลักฐานอื่นๆด้วย
“เมื่อสรุปสำนวนคดีการชันสูตรพลิกศพแล้วทาง สน.ทุ่งสองห้องจะเสนอพนักงานอัยการ ส่งศาลต่อไป คดีนี้ไม่ใช่สำนวนคดีอาญาว่าต้องแจ้งข้อหาต่อใคร” พ.ต.อ.มานะกล่าว
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พ.ต.อ.มานะ เปิดเผยช่วงหนึ่งว่า นพ.ศุภชัย ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่า การปั้มหัวใจหลายครั้งจะส่งผลให้กระดูกซี่โครงหักได้ ส่วน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บัญชาการสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ได้นำภาพขั้นตอนการผ่าชันสูตรมาชี้แจง และได้มีการคำนวณระยะเวลาการตับแตกว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด แต่มีความชัดเจนว่าตับแตกที่บริเวณปีกขวามีการฉีกขาด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีความรุนแรงระดับใด โดยขณะนี้รู้ช่วงเวลาที่ตับแตกแล้ว แต่ไม่สามารถระบุได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี รวมถึงของแข็งที่ไม่มีคมกระแทก ที่ระบุลงในสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของแข็งชนิดใด แต่จากการสอบปากคำทีมแพทย์พบว่ามีร่องรอย 3-4 รอยทั้งภายนอกและภายในที่ยืนยันว่าไม่เป็นการฆ่าตัวตายเองแต่เป็นการถูกทำให้ตาย สำหรับลำดับการชี้แจงช่วงเวลาตั้งแต่การควบคุมตัวนายธวัชชัย ที่จ.นนทบุรีในเวลา 11.00 น. และนำมาควบคุมก่อนสอบปากคำที่ชั้น 4 และนำตัวไปสอบปากคำตอน 14.00 น. จนถึงนำตัวไปคุมที่ห้อมควบคุมผู้ต้องขัง ชั้น 6 ในเวลา 17.00 น.
“ทางพนักงานสอบสวนได้มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีการถูกผู้อื่นทำให้ตายในระหว่างที่ถูกคุมขัง” พ.ต.อ.มานะ ระบุ
** น้องชายเตรียมแจ้งความ
อีกด้าน นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย เปิดเผยว่า เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษ หากผลชันสูตรออกมาอย่างเป็นทางการว่าพี่ชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต พร้อมระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนัดเซ็นรับทราบผล CT scan
** “มือมืด” โทรขู่ “หมอเหรียญทอง”
เมื่อเวลา 17.45 น. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ระบุว่า “เมื่อเวลา 16.40 น. มีโทรศัพท์หมายเลข 087-834-9xxx ใช้ชื่อว่า "ภัทรสร" แสดงตนเป็นพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้ามาก่อกวนผม โดยก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. ก็ได้โทรมาก่อกวนพนักงานของ รพ.มงกุฎวัฒนะ แล้วครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ผมรับสายเอง บุคคลนี้อ้างว่าตนเองเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน โดยนางเข้ามาต่อว่าผมต่างๆ นานา เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกุล ผมก็บอกไปว่าหากผมทำให้นางเดือดร้อนเสียหายก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผมสิครับ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่านางคนนี้จะเป็นพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง ถามยศอะไรก็ไม่บอก ถามว่าผู้บังคับบัญชาชื่ออะไรก็ไม่บอก เอาแต่ซ่าส์”
วานนี้ (22 ก.ย.)ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นพ.สมโภชน์ จิตรเกษมสุข รังสีแพทย์ และ นพ.ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย แพทย์อายุรกรรมหัวใจที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขณะอยู่ห้อง CCU เดินทางเข้าให้ปากคำกรณีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินรุกป่าที่ จ.ภูเก็ต ที่ใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตอย่างมีปริศนา ระหว่างถูกควบคุมตัวอยูที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) โดยมีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องและอัยการร่วมสอบปากคำ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เจริญ ได้กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า นายธวัชชัย เสียชีวิต จากการถูกทำให้เสียชีวิต แต่ไม่ใช่การฆาตกรรม ว่า อย่าเพิ่งตีความคำว่า นายธวัชชัย ถูกทำให้เสียชีวิตเป็นฆาตกรรม ขอเวลาพนักงานสอบสวนรวบรวบพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีให้ชัดเจนก่อน
** ผกก.ทุ่งสองห้องแจกตำราแจงยิบ
ด้าน พ.ต.อ.มานะ ได้ชี้แจงเสริม โดยได้แจก เอกสารหนังสือการชันสูตรพลิกศพ หน้า 101 หมวด 2 การชันสูตรพลิกศพ มาตรา 148 ที่ระบุว่าเมื่อปรากฎแน่ชัดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิกศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย ซึ่งการตายโดยผิดธรรมชาตินั้น คือ (1) ฆ่าตัวตาย (2) ถูกผู้อื่นทำให้ตาย (3) ถูกสัตว์ทำร้ายตาย (4) ตายโดยอุบัติเหตุ และ (5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากกการสอบสวนแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม มีการระบุว่า ร่องรอย 3-4 จุดบนร่างของนายธวัชชัยไม่ได้กระทำด้วยตนเอง จากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์นี้เพียงพอที่จะระบุว่า ผู้ตายถูกผู้อื่นทำให้ตาย ซึ่งอาจจะเกิดจากความประมาท หรือฆาตกรรม แต่ยังไม่ได้สรุปสำนวนการชันสูตรพลิกศพ เพราะต้องรอหลักฐานอื่นๆด้วย
“เมื่อสรุปสำนวนคดีการชันสูตรพลิกศพแล้วทาง สน.ทุ่งสองห้องจะเสนอพนักงานอัยการ ส่งศาลต่อไป คดีนี้ไม่ใช่สำนวนคดีอาญาว่าต้องแจ้งข้อหาต่อใคร” พ.ต.อ.มานะกล่าว
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พ.ต.อ.มานะ เปิดเผยช่วงหนึ่งว่า นพ.ศุภชัย ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่า การปั้มหัวใจหลายครั้งจะส่งผลให้กระดูกซี่โครงหักได้ ส่วน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บัญชาการสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ได้นำภาพขั้นตอนการผ่าชันสูตรมาชี้แจง และได้มีการคำนวณระยะเวลาการตับแตกว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด แต่มีความชัดเจนว่าตับแตกที่บริเวณปีกขวามีการฉีกขาด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีความรุนแรงระดับใด โดยขณะนี้รู้ช่วงเวลาที่ตับแตกแล้ว แต่ไม่สามารถระบุได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี รวมถึงของแข็งที่ไม่มีคมกระแทก ที่ระบุลงในสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของแข็งชนิดใด แต่จากการสอบปากคำทีมแพทย์พบว่ามีร่องรอย 3-4 รอยทั้งภายนอกและภายในที่ยืนยันว่าไม่เป็นการฆ่าตัวตายเองแต่เป็นการถูกทำให้ตาย สำหรับลำดับการชี้แจงช่วงเวลาตั้งแต่การควบคุมตัวนายธวัชชัย ที่จ.นนทบุรีในเวลา 11.00 น. และนำมาควบคุมก่อนสอบปากคำที่ชั้น 4 และนำตัวไปสอบปากคำตอน 14.00 น. จนถึงนำตัวไปคุมที่ห้อมควบคุมผู้ต้องขัง ชั้น 6 ในเวลา 17.00 น.
“ทางพนักงานสอบสวนได้มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีการถูกผู้อื่นทำให้ตายในระหว่างที่ถูกคุมขัง” พ.ต.อ.มานะ ระบุ
** น้องชายเตรียมแจ้งความ
อีกด้าน นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย เปิดเผยว่า เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษ หากผลชันสูตรออกมาอย่างเป็นทางการว่าพี่ชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต พร้อมระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนัดเซ็นรับทราบผล CT scan
** “มือมืด” โทรขู่ “หมอเหรียญทอง”
เมื่อเวลา 17.45 น. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ระบุว่า “เมื่อเวลา 16.40 น. มีโทรศัพท์หมายเลข 087-834-9xxx ใช้ชื่อว่า "ภัทรสร" แสดงตนเป็นพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้ามาก่อกวนผม โดยก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. ก็ได้โทรมาก่อกวนพนักงานของ รพ.มงกุฎวัฒนะ แล้วครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ผมรับสายเอง บุคคลนี้อ้างว่าตนเองเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน โดยนางเข้ามาต่อว่าผมต่างๆ นานา เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกุล ผมก็บอกไปว่าหากผมทำให้นางเดือดร้อนเสียหายก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผมสิครับ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่านางคนนี้จะเป็นพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง ถามยศอะไรก็ไม่บอก ถามว่าผู้บังคับบัญชาชื่ออะไรก็ไม่บอก เอาแต่ซ่าส์”