ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษาจำคุก 18 เดือน หนุ่มวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ฆ่าแมว 9 ตัว หลังเจ้าตัวรับสารภาพ ศาลสืบเสาะประวัติพบเคยต้องโทษคดีมาก่อน จึงไม่รอการลงโทษ
วานนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีทารุณกรรมฆ่าแมวไทย 9 ตัว ที่พนักงานอัยการศาลแขวง 2 เป็น โจทก์ ยื่นฟ้องนายภานุวัฒน์ สิงห์สาหัส อายุ 26 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นจำเลยในความผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสัวสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557
โดยคดีนี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังพนักงานสอบสวน ได้คุมตัวนายภานุวัฒน์ มาให้อัยการยื่นฟ้องคดีด้วยวาจาต่อศาล กรณีที่ได้ก่อเหตุทารุณกรรมสัตว์ที่เป็นแมวไทยโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวมทั้งสิ้น 9 ตัว ระหว่างวันที่ 10 - 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายภานุวัฒน์ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงให้พนักงานคุมประพฤติทำรายงานการสืบเสาะประวัติจำเลยประกอบการพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษา ซึ่งระหว่างนั้นนายภานุวัฒน์ จำเลย ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยศาลตีราคาประกัน 20,000 บาท
ขณะที่ ศาลพิเคราะห์คำฟ้องประกอบคำรับสารภาพแบะรายงานการสืบเสาะประวัติแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ มาตรา 20,31 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 381 ซึ่งการกระทำของจำเลย เป็นความผิดต่อกฎหมายบท ให้ลงโทษฐานกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควรซึ่งเป็นบทหนักที่สุด
จึงพิพากษาให้จำคุก 9 กระทง กระทงละ 4 เดือน รวมจำคุกเป็นเวลา 36 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 9 กระทงๆ ละ 2 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 18 เดือน (คิดเป็น 1 ปี 6 เดือน)
ทั้งนี้ พิเคราะห์รายงานการสืบเสาาะและพินิจจำเลยแล้ว ปรากฏว่า จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว ญาติของจำเลยได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว
สำหรับนายภานุวัฒน์ ผู้ต้องหา มีอาชีพเป็นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างย่านทองหล่อ แต่พักอาศัพอยู่ที่แมนชั่น ซ.มหาดไทย 13 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง มีพฤติกรรมขอรับอุปการะแมว จากผู้ที่ประกาศลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อ " โครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจรจัด" ซึ่งผู้ต้องหาเคยรับแมวมาอุปการะหลายตัว กระทั่งเกิดเหตุซึ่งวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อ " Watchdog Thailand" ได้เผยแพร่ข้อมูลที่มีผู้มาร้องเรียนว่า ผู้ต้องหารับแมวไปแล้วเมื่อจะติดตามกลับได้หายเงียบไป จึงเข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ กระทั่งพบผู้เสียหายอีกหลายราย จนพบซากแมวบริเวณแมนชั่นที่พักผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 14 ส.ค. พนักงานาอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ พ.ศ.2557
วานนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีทารุณกรรมฆ่าแมวไทย 9 ตัว ที่พนักงานอัยการศาลแขวง 2 เป็น โจทก์ ยื่นฟ้องนายภานุวัฒน์ สิงห์สาหัส อายุ 26 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นจำเลยในความผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสัวสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557
โดยคดีนี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังพนักงานสอบสวน ได้คุมตัวนายภานุวัฒน์ มาให้อัยการยื่นฟ้องคดีด้วยวาจาต่อศาล กรณีที่ได้ก่อเหตุทารุณกรรมสัตว์ที่เป็นแมวไทยโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวมทั้งสิ้น 9 ตัว ระหว่างวันที่ 10 - 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายภานุวัฒน์ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงให้พนักงานคุมประพฤติทำรายงานการสืบเสาะประวัติจำเลยประกอบการพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษา ซึ่งระหว่างนั้นนายภานุวัฒน์ จำเลย ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยศาลตีราคาประกัน 20,000 บาท
ขณะที่ ศาลพิเคราะห์คำฟ้องประกอบคำรับสารภาพแบะรายงานการสืบเสาะประวัติแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ มาตรา 20,31 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 381 ซึ่งการกระทำของจำเลย เป็นความผิดต่อกฎหมายบท ให้ลงโทษฐานกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควรซึ่งเป็นบทหนักที่สุด
จึงพิพากษาให้จำคุก 9 กระทง กระทงละ 4 เดือน รวมจำคุกเป็นเวลา 36 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 9 กระทงๆ ละ 2 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 18 เดือน (คิดเป็น 1 ปี 6 เดือน)
ทั้งนี้ พิเคราะห์รายงานการสืบเสาาะและพินิจจำเลยแล้ว ปรากฏว่า จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว ญาติของจำเลยได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว
สำหรับนายภานุวัฒน์ ผู้ต้องหา มีอาชีพเป็นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างย่านทองหล่อ แต่พักอาศัพอยู่ที่แมนชั่น ซ.มหาดไทย 13 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง มีพฤติกรรมขอรับอุปการะแมว จากผู้ที่ประกาศลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อ " โครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจรจัด" ซึ่งผู้ต้องหาเคยรับแมวมาอุปการะหลายตัว กระทั่งเกิดเหตุซึ่งวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อ " Watchdog Thailand" ได้เผยแพร่ข้อมูลที่มีผู้มาร้องเรียนว่า ผู้ต้องหารับแมวไปแล้วเมื่อจะติดตามกลับได้หายเงียบไป จึงเข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ กระทั่งพบผู้เสียหายอีกหลายราย จนพบซากแมวบริเวณแมนชั่นที่พักผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 14 ส.ค. พนักงานาอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ พ.ศ.2557
