บุรีรัมย์-"นำพล หนองกี่พาหุยุทธ" อดีตยอดนักมวยไทยชาวบุรีรัมย์ เสียชีวิตแล้วที่ รพ.นางรอง ในวัย 47 ปี ด้วยโรคปอดติดเชื้อที่ป่วยเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี หลังล่าสุดอาการทรุดหนักถูกหามส่ง รพ. ขณะที่แฟนมวยและญาติแห่ร่วมรดน้ำศพแสดงความอาลัยที่บ้านเกิด ด้าน "อ.ปราโมทย์" เจ้าของค่าย เผยเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยและปิดตำนานนักชกเจ้าของฉายา "ขุนเข่าหน้าเปื่อย" ฌาปนกิจ 25 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วานนี้ (19 ก.ย.) นายนำพล สีจันทึก หรือนำพล หนองกี่พาหุยุทธ อายุ 47 ปี อดีตนักมวยไทยชื่อดังชาว ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าของฉายา “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ได้เสียชีวิตลงแล้ว ที่โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองกี่ และส่งต่อมายังโรงพยาบาลนางรอง เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการทรุดหนัก หายใจติดขัด และปวดตามร่างกายอย่างรุนแรง จากภาวะที่ป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี จนสภาพร่างกายซูบผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก แม้จะทำการรักษามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
โดยญาติได้เคลื่อนศพของนายนำพล ออกจากโรงพยาบาลนางรอง มาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเลขที่ 48 ม.9 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ บ้านของนางสมพอ สัมผัสสิน อายุ 54 ปี พี่สาวของนายนำพล โดยบรรยากาศที่บ้านได้มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพ
ต่อมานายกำพล สิริรัตตนนท์ นายอำเภอหนองกี่ พร้อมด้วยนายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ นายปราโมทย์ หอยมุกข์ เจ้าของค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ รวมทั้งญาติพี่น้องและแฟนมวย ได้เดินทางมาร่วมรดน้ำศพนายนำพล และแสดงความอาลัยกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว “สีจันทึก” โดยญาติจะประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 6 คืน ก่อนเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเก่าหนองกี่ ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.ที่จะถึงนี้
นายปราโมทย์ หอยมุกข์ เจ้าของค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายนำพล ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยไทย เพราะนำพลเป็นนักชกที่มีฝีมือเป็นเอกลักษณ์ในการชกถนัดการใช้เข่า และเป็นนักชกที่แตกง่ายจนได้ฉายาว่า “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ถ้าไม่แตกไม่ชนะ เคยขึ้นชกแล้วแตกเย็บถึง 268 เข็ม และถือเป็นการปิดตำนานนักชก “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้แก่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และประเทศไทย ที่ผ่านมาเป็นเจ้าของแชมป์ถึง 3 แชมป์ คือ รุ่นไลต์ฟลายเวต 108 ปอนด์, รุ่นฟลายเวต 112 ปอนด์ และรุ่นเฟเตอร์เวต 126 ปอนด์
"หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อ ได้กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิด โดยช่วงที่เจ็บป่วย ทั้งทางญาติ และค่ายมวยเองช่วยกันดูแลนำไปรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะอยากให้หายจากอาการป่วย แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้จนต้องจากไปในที่สุด อยากฝากให้ผู้หลับผู้ใหญ่ในวงการมวย เพื่อนนักมวย และแฟนมวย มาร่วมแสดงความไว้อาลัยให้กับนำพล สุดยอดนักมวยของไทยอีกคนหนึ่งด้วย"นายปราโมทย์กล่าว
สำหรับประวัติ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” เป็นอดีตนักมวยที่มีฝีไม้ลายมือไม่เป็นรองใคร จนถูกยกให้เป็น “ยอดมวย” ที่โด่งดังมากในช่วงปี 2530-2534 ซึ่งนำพลคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน ทั้งปะทะกับนักมวยในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นสุดยอดนักมวยไทยคนหนึ่งที่ได้สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกได้รู้จักศิลปะของแม่ไม้มวยไทย และทำให้ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิดของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน แต่หลังจากล้มป่วยด้วยโรคปอดจึงกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักของตัวเอง มากว่า 4 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุดได้เสียชีวิตลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วานนี้ (19 ก.ย.) นายนำพล สีจันทึก หรือนำพล หนองกี่พาหุยุทธ อายุ 47 ปี อดีตนักมวยไทยชื่อดังชาว ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าของฉายา “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ได้เสียชีวิตลงแล้ว ที่โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองกี่ และส่งต่อมายังโรงพยาบาลนางรอง เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการทรุดหนัก หายใจติดขัด และปวดตามร่างกายอย่างรุนแรง จากภาวะที่ป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี จนสภาพร่างกายซูบผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก แม้จะทำการรักษามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
โดยญาติได้เคลื่อนศพของนายนำพล ออกจากโรงพยาบาลนางรอง มาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเลขที่ 48 ม.9 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ บ้านของนางสมพอ สัมผัสสิน อายุ 54 ปี พี่สาวของนายนำพล โดยบรรยากาศที่บ้านได้มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพ
ต่อมานายกำพล สิริรัตตนนท์ นายอำเภอหนองกี่ พร้อมด้วยนายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ นายปราโมทย์ หอยมุกข์ เจ้าของค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ รวมทั้งญาติพี่น้องและแฟนมวย ได้เดินทางมาร่วมรดน้ำศพนายนำพล และแสดงความอาลัยกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว “สีจันทึก” โดยญาติจะประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 6 คืน ก่อนเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเก่าหนองกี่ ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.ที่จะถึงนี้
นายปราโมทย์ หอยมุกข์ เจ้าของค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายนำพล ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยไทย เพราะนำพลเป็นนักชกที่มีฝีมือเป็นเอกลักษณ์ในการชกถนัดการใช้เข่า และเป็นนักชกที่แตกง่ายจนได้ฉายาว่า “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ถ้าไม่แตกไม่ชนะ เคยขึ้นชกแล้วแตกเย็บถึง 268 เข็ม และถือเป็นการปิดตำนานนักชก “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้แก่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และประเทศไทย ที่ผ่านมาเป็นเจ้าของแชมป์ถึง 3 แชมป์ คือ รุ่นไลต์ฟลายเวต 108 ปอนด์, รุ่นฟลายเวต 112 ปอนด์ และรุ่นเฟเตอร์เวต 126 ปอนด์
"หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อ ได้กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิด โดยช่วงที่เจ็บป่วย ทั้งทางญาติ และค่ายมวยเองช่วยกันดูแลนำไปรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะอยากให้หายจากอาการป่วย แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้จนต้องจากไปในที่สุด อยากฝากให้ผู้หลับผู้ใหญ่ในวงการมวย เพื่อนนักมวย และแฟนมวย มาร่วมแสดงความไว้อาลัยให้กับนำพล สุดยอดนักมวยของไทยอีกคนหนึ่งด้วย"นายปราโมทย์กล่าว
สำหรับประวัติ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” เป็นอดีตนักมวยที่มีฝีไม้ลายมือไม่เป็นรองใคร จนถูกยกให้เป็น “ยอดมวย” ที่โด่งดังมากในช่วงปี 2530-2534 ซึ่งนำพลคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน ทั้งปะทะกับนักมวยในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นสุดยอดนักมวยไทยคนหนึ่งที่ได้สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกได้รู้จักศิลปะของแม่ไม้มวยไทย และทำให้ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิดของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน แต่หลังจากล้มป่วยด้วยโรคปอดจึงกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักของตัวเอง มากว่า 4 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุดได้เสียชีวิตลง