วานนี้ (13 ก.ย.) ที่โรงแรมสตาร์ อ.เมืองฯ จ.ระยอง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง"การเป็นข้าราชการที่ดี ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท" ในโครงการสัมมนาเรื่องการติดตามผลการดำเนินงานไตรมาส 4 และการจัดทำแผนปฏิบัติการของส.ป.ก. ประจำปีงบประมาณ 2560 แก่ข้าราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งจัดโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยกล่าวขอให้เพื่อนข้าราชการ ร่วมกันสร้างความรู้รักสามัคคี ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความร่มเย็นเป็นสุข พร้อมกับได้นำความรักความปรารถนาดีจากนายกรัฐมนตรี มายังข้าราชการ และพี่น้องประชาชนชาวจ.ระยอง
ม.ล.ปนัดดา กล่าวตอนหนึ่งว่า การทำหน้าที่ของขรก.ต้องคิดว่า ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความโปร่งใสแก่ระบบขององค์กรให้มากที่สุด ความสำคัญอยู่ที่หัวของแต่ละองค์กร ที่สำนักงานก.พ.ร. คงต้องเพิ่มพูนระเบียบพิธี และตัวชี้วัด ให้กฎระเบียบ มีความสำคัญเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม และก่อให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ระบบคุณธรรมของขรก.สอนเราให้เกิดแนวคิดในเชิงลึก และรอบคอบที่เป็นรูปธรรม การนำสู่การปฏิบัติ ระเบียบแบบแผน และผลสัมฤทธิ์ของงาน นำพามาซึ่งความพึงพอใจแก่ประชาชนและสังคม ระบบราชการปัจจุบัน ต้องเป็นความเรียบง่าย เป็นสัญลักษณ์ของความไว้เนื้อเชื่อใจ มีน้ำใจไมตรีต่อกัน แนวนโยบายประชารัฐของรัฐบาล จึงมีเป้าประสงค์ให้เกิดการทำงานระหว่างทุกภาคส่วนเป็นไปด้วยความสมัครสมาน ไม่ข่มเหงรังแกซึ่งกัน ไม่เอาเปรียบกัน ยึดมั่นความโปร่งใส และมองประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก การคานอำนาจและความสมดุลจึงถือเป็นหัวใจทางการบริหารจัดการ ความเป็นรัฐและเรื่องส่วนตัวอันหมายถึงระบบวงศาคณาญาติจึงต้องแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด หากแยกออกจากกันไม่ได้ ระบบย่อมไม่เป็นระบบ ไม่ใช่ระเบียบพิธีทางการปกครอง และท้ายสุด คือ ความล้มเหลวของระบบ.
ม.ล.ปนัดดา กล่าวตอนหนึ่งว่า การทำหน้าที่ของขรก.ต้องคิดว่า ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความโปร่งใสแก่ระบบขององค์กรให้มากที่สุด ความสำคัญอยู่ที่หัวของแต่ละองค์กร ที่สำนักงานก.พ.ร. คงต้องเพิ่มพูนระเบียบพิธี และตัวชี้วัด ให้กฎระเบียบ มีความสำคัญเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม และก่อให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ระบบคุณธรรมของขรก.สอนเราให้เกิดแนวคิดในเชิงลึก และรอบคอบที่เป็นรูปธรรม การนำสู่การปฏิบัติ ระเบียบแบบแผน และผลสัมฤทธิ์ของงาน นำพามาซึ่งความพึงพอใจแก่ประชาชนและสังคม ระบบราชการปัจจุบัน ต้องเป็นความเรียบง่าย เป็นสัญลักษณ์ของความไว้เนื้อเชื่อใจ มีน้ำใจไมตรีต่อกัน แนวนโยบายประชารัฐของรัฐบาล จึงมีเป้าประสงค์ให้เกิดการทำงานระหว่างทุกภาคส่วนเป็นไปด้วยความสมัครสมาน ไม่ข่มเหงรังแกซึ่งกัน ไม่เอาเปรียบกัน ยึดมั่นความโปร่งใส และมองประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก การคานอำนาจและความสมดุลจึงถือเป็นหัวใจทางการบริหารจัดการ ความเป็นรัฐและเรื่องส่วนตัวอันหมายถึงระบบวงศาคณาญาติจึงต้องแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด หากแยกออกจากกันไม่ได้ ระบบย่อมไม่เป็นระบบ ไม่ใช่ระเบียบพิธีทางการปกครอง และท้ายสุด คือ ความล้มเหลวของระบบ.