วานนี้ (13ก.ย.) ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีการพิจารณา เรื่องข้อเสนอการจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. พิจารณาเสร็จแล้ว
นายวิทยา แก้วภราดัย กมธ.ด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ข้อเสนอของกมธ.การเมือง จะส่งไปยัง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาประกอบการยกร่างกฎหมายลูก จากนั้นกรธ.จะส่งไปยังสนช. เพื่อพิจารณาตามกรอบเวลา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางกมธ.ไม่ได้เขียนให้คสช. เข้ามาจัดการเลือกตั้ง
ส่วนในเรื่องการให้เงินรางวัล ผู้ชี้ช่องจับทุจริตการเลือกตั้ง ไม่ได้ให้ไปเอาเงินจากกกต. มาเป็นรางวัล แต่เราต้องการให้มีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมา สำหรับจัดการกับคนซื้อเสียงและขายเสียง หากใครกลั่นแกล้งเพื่อหวังรางวัล ก็จะได้รับโทษหนักกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ช่วยเสริมให้กกต. มีคนช่วยหาหลักฐานมากขึ้น
ส่วนเรื่องเงินบริจาคตามประเพณี ถ้าสมาชิกเห็นควรให้สามารถบริจาคได้ ตนก็เห็นว่า ควรพิจารณาขึ้นเงินเดือน ส.ส. และนายกฯไปด้วย เพราะเงินเดือนนายกฯไทย ถือว่าต่ำกว่าหลายประเทศ ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ ทางกรธ.ก็จะต้องรับฟังต่อไป
ด้านนายวันชัย สอนศิริ โฆษก กมธ.ด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า การพูดคุยกันในกมธ.การเมือง มีการพูดถึงว่า ที่ผ่านมาในการพิจารณางบประมาณของกมธ.งบประมาณ เขาเรียกกันว่าเป็นห้องตบทรัพย์ ซึ่งข้าราชการประจำ และ อดีตอธิบดีบางท่านใน สปท. ก็ยืนยันว่า ถูกเรียกรับเงินตบทรัพย์กันจริง โดยส.ส.ที่เป็นกมธ. พิจารณางบประมาณ ถือว่าห้อง กมธ.งบประมาณ เป็นที่ทำมาหากินของนักการเมืองบางคน บางกลุ่ม แล้วมาลอยหน้าลอยตานั่งเป็นรัฐมนตรี ตนและนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ด้านการเมือง สปท. ไม่ได้ห้อยโหนใครเลย มีแต่พวกเห่าหอนเท่านั้น สิ่งที่พวกเรา กมธ.ชุดนี้ทำทั้งหมด มีคนทุกสี ทุกกลุ่ม เข้าร่วมระดมความเห็นรอบด้าน ทั้ง
หมดไม่ได้แกล้งทำลายใคร แต่เราอยากได้นักการเมืองดีๆ และที่กล่าวหาว่า คนที่ทำเรื่องแบบนี้เพราะหวังเป็น ส.ว 250 คนหรือไม่ ถ้าทำเรื่องนี้แล้วเนรมิตรให้ตัวเองได้เป็นได้ ตนก็ยากเป็น
ขณะที่นายเสรี กล่าวสรุปว่า ขอให้เข้าใจว่างานของ สปท. เป็นหน่วยนำเสนอแนะ เสนอแล้วก็ต้องรับฟังและพิจารณาปรับปรุง ที่ผ่านมาหาก สปท. เสนอเรื่องเก่าไม่กล้าเสนอเรื่องที่ทำให้การเมืองดีขึ้น ไม่กล้ารีเซ็ต ไม่กล้าเสนออะไรใหม่ๆ ก็ต้องถามว่าแล้วเราจะมาปฏิรูปกันทำไม กฎหมายลูกที่เราเสนอนี้ อาจดูรุนแรงบ้าง แต่เจตนาคือ ต้องการให้มีกฎหมายปราบโกงเช่นเดียวกับรธน.ปราบโกง ส่วนที่ให้กระทรวงมหาดไทยมาช่วยงาน กกต.นั้น เราไม่ได้เสนอมหาดไทยมาช่วยอย่างเดียว แต่ให้หน่วยงานอื่นมาร่วมด้วย เพราะต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น และคสช.ก็ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และข้อเสนอเหล่านี้ทาง กรธ.และสนช.ก็ต้องพิจารณาต่อไป เราจะไม่ทำตัวเป็นศาลรธน.เสียเอง ไม่วินิจฉัยว่าถูกหรือผิด
ต่อมาที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. 136 ต่อ 2 งดออกเสียง 4 คะแนน และเห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง 154 ต่อ 0 งดออกเสียง 17 คะแนน ก่อนส่งรายงานไปยัง กรธ. สนช.และ ครม.ต่อไป
นายวิทยา แก้วภราดัย กมธ.ด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ข้อเสนอของกมธ.การเมือง จะส่งไปยัง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาประกอบการยกร่างกฎหมายลูก จากนั้นกรธ.จะส่งไปยังสนช. เพื่อพิจารณาตามกรอบเวลา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางกมธ.ไม่ได้เขียนให้คสช. เข้ามาจัดการเลือกตั้ง
ส่วนในเรื่องการให้เงินรางวัล ผู้ชี้ช่องจับทุจริตการเลือกตั้ง ไม่ได้ให้ไปเอาเงินจากกกต. มาเป็นรางวัล แต่เราต้องการให้มีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมา สำหรับจัดการกับคนซื้อเสียงและขายเสียง หากใครกลั่นแกล้งเพื่อหวังรางวัล ก็จะได้รับโทษหนักกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ช่วยเสริมให้กกต. มีคนช่วยหาหลักฐานมากขึ้น
ส่วนเรื่องเงินบริจาคตามประเพณี ถ้าสมาชิกเห็นควรให้สามารถบริจาคได้ ตนก็เห็นว่า ควรพิจารณาขึ้นเงินเดือน ส.ส. และนายกฯไปด้วย เพราะเงินเดือนนายกฯไทย ถือว่าต่ำกว่าหลายประเทศ ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ ทางกรธ.ก็จะต้องรับฟังต่อไป
ด้านนายวันชัย สอนศิริ โฆษก กมธ.ด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า การพูดคุยกันในกมธ.การเมือง มีการพูดถึงว่า ที่ผ่านมาในการพิจารณางบประมาณของกมธ.งบประมาณ เขาเรียกกันว่าเป็นห้องตบทรัพย์ ซึ่งข้าราชการประจำ และ อดีตอธิบดีบางท่านใน สปท. ก็ยืนยันว่า ถูกเรียกรับเงินตบทรัพย์กันจริง โดยส.ส.ที่เป็นกมธ. พิจารณางบประมาณ ถือว่าห้อง กมธ.งบประมาณ เป็นที่ทำมาหากินของนักการเมืองบางคน บางกลุ่ม แล้วมาลอยหน้าลอยตานั่งเป็นรัฐมนตรี ตนและนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ด้านการเมือง สปท. ไม่ได้ห้อยโหนใครเลย มีแต่พวกเห่าหอนเท่านั้น สิ่งที่พวกเรา กมธ.ชุดนี้ทำทั้งหมด มีคนทุกสี ทุกกลุ่ม เข้าร่วมระดมความเห็นรอบด้าน ทั้ง
หมดไม่ได้แกล้งทำลายใคร แต่เราอยากได้นักการเมืองดีๆ และที่กล่าวหาว่า คนที่ทำเรื่องแบบนี้เพราะหวังเป็น ส.ว 250 คนหรือไม่ ถ้าทำเรื่องนี้แล้วเนรมิตรให้ตัวเองได้เป็นได้ ตนก็ยากเป็น
ขณะที่นายเสรี กล่าวสรุปว่า ขอให้เข้าใจว่างานของ สปท. เป็นหน่วยนำเสนอแนะ เสนอแล้วก็ต้องรับฟังและพิจารณาปรับปรุง ที่ผ่านมาหาก สปท. เสนอเรื่องเก่าไม่กล้าเสนอเรื่องที่ทำให้การเมืองดีขึ้น ไม่กล้ารีเซ็ต ไม่กล้าเสนออะไรใหม่ๆ ก็ต้องถามว่าแล้วเราจะมาปฏิรูปกันทำไม กฎหมายลูกที่เราเสนอนี้ อาจดูรุนแรงบ้าง แต่เจตนาคือ ต้องการให้มีกฎหมายปราบโกงเช่นเดียวกับรธน.ปราบโกง ส่วนที่ให้กระทรวงมหาดไทยมาช่วยงาน กกต.นั้น เราไม่ได้เสนอมหาดไทยมาช่วยอย่างเดียว แต่ให้หน่วยงานอื่นมาร่วมด้วย เพราะต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น และคสช.ก็ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และข้อเสนอเหล่านี้ทาง กรธ.และสนช.ก็ต้องพิจารณาต่อไป เราจะไม่ทำตัวเป็นศาลรธน.เสียเอง ไม่วินิจฉัยว่าถูกหรือผิด
ต่อมาที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. 136 ต่อ 2 งดออกเสียง 4 คะแนน และเห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง 154 ต่อ 0 งดออกเสียง 17 คะแนน ก่อนส่งรายงานไปยัง กรธ. สนช.และ ครม.ต่อไป
