xs
xsm
sm
md
lg

SPCGย้ำพัฒนา"โซล่าเซล" สร้างความมั่นคงพลังงานชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (6 ก.ย.) ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดเวทีเสวนาเรื่อง“อนาคตพลังงานหมุนเวียนไทยกับทิศทางพลังงานภูมิภาคอาเซียน”เพื่อเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นถึงทิศทางพลังงาน และแนวโน้มการใช้พลังงานทดแทนในอนาคต
นายศุภกิจ นันทะวรการ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ มูลนิธินโยบายสุขภาวะ มองถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนประเภทต่างๆ ว่า ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม มีการซื้อขายได้จริง ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าแล้ว โดยปัจจุบันราคาพลังงานแสงอาทิตย์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.70-3.30 บาทต่อหน่วย ส่วนพลังงานลม ราคา 1.10-3.50 บาทต่อหน่วย หากเทียบกับพลังงานหลักที่ใช้ในปัจจุบัน พลังงานหมุนเวียน มีราคาถูกกว่า
สำหรับประเทศไทย ตั้งแต่ปี 52- 56 มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการขายพลังงานเข้าสู่ระบบของไทยที่มีมากสุดในภาคกลาง รองลงมาภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ ในทางกลับกันนโยบายแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของรัฐบาลปี 58-79 ที่รัฐบาลอนุมัติเมื่อปี 58 ได้กำหนดว่า จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ เพิ่ม อาทิ โรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 โรง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าอื่นๆในอนาคต โดยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมาไทยทำลายสถิติการใช้พลังงานไฟฟ้าเลยจุดสูงสุดหลายครั้ง
"อีก 10 ปีข้างหน้าตั้งแต่ปี 58- 68 รัฐบาลจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 25 แห่ง ซึ่งจะทำให้อัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 บาทต่อหน่วย เพิ่มเป็น 5.26 บาทต่อหน่วย โดยราคานี้ ไม่นับรวมภาษีอื่นเพิ่มเติม แต่ศักยภาพการผลิตพลังงานหมุนเวียนของไทย ยังเพียงพอต่อจุดสูงสุดในการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า แต่การดำเนินการขึ้นอยู่ที่ว่า ส่วนราชการจะทำหรือไม่เท่านั้น"
ทั้งนี้ ปัญหา 10 ปีที่ผ่านมาของไทย กับนโยบายการรับซื้อพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนตัวมองว่าเป็นนโยบายการคอร์รัปชัน รูปแบบหนึ่ง คือ 1. การรับซื้อมีการกำหนดปริมาณเฉพาะ และเปิดเป็นรอบๆโดยไม่ยอมให้เปิดแบบรับซื้อเสรี จึงทำให้จำนวนการรับซื้อพลังงานทดแทนไม่มีความแน่นอน 2. ราคารับซื้อถูกกำหนดโดย
ฝ่ายการเมือง และไม่ยอมเปิดให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาราคากลาง จึงทำให้การปรับราคาไม่โปร่งใส 3. การอนุมัติโครงการต่างๆ ยังคงมีความล่าช้าในการพัฒนาทางธุรกิจ จึงทำให้ภาพรวม 3 นโยบายดังกล่าว เอื้อต่อการคอร์รัปชัน และ การใช้พลังงานทดแทนในอนาคต ไทยยังติดอยู่กับรูปแบบการทำอุตสาหกรรมแบบเดิม ดังนั้นควรต้องปรับตัว เช่น กลางวันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ กลางคืนใช้พลังงานชีวมวล ถ้าตอบปัญหาเรื่องนี้ได้ ก็จะแก้ปัญหาพลังงานฟอสซิลในอนาคตได้
ด้านนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ผู้พัฒนาธุรกิจพลังงานหมุนเวียนรายแรกในประเทศไทย อธิบายว่า ในไทยเริ่มมีการประกาศรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนครั้งแรก เมื่อ 6 ปีที่แล้ว สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ทางด้านพลังงานของประเทศ
"ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการพัฒนาและนำไปสู่การพึ่งตนเอง คือประชาชนที่มีความรู้ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้เอง หรือ solar roof top และเชื่อมั่นว่า แนวทางการพัฒนาการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ในชนบท และเป็นพลังงานที่ยั่งยืน และมั่นคงแก่ประเทศในอนาคต คาดว่าไทยจะสามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ถึงปีละกว่า 2 หมื่นเมกะวัตต์ เพราะอนาคตไม่เกิน 3 ปีข้างหน้าจะเป็นยุคของพลังงานหมุนเวียน และพลังงานทดแทน” นางวันดี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น