xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เปิดศึกไล่ศุภชัยพ้นปธ. หวั่นเจอ ม.44 เซตซีโร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กกต.ซัดกันนัว 3 กก.เสนอวาระประชุมเปลี่ยนตัวปธ. หลังจี้ "ศุภชัย" ให้ลงจากเก้าอี้ แล้วเจ้าตัวอ้าง กม.ไม่ชัด สุดท้ายมีมติให้ สนง.ร่อนหนังสือถาม คสช. ด้านพนักงานฯ วิจารณ์แซ่ด หวั่นเปิดช่อง คสช.เซ็ตซีโร่ กกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 2ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้สำนักงาน กกต. มีหนังสือสอบถามไปยัง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ว่า หากจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน กกต. จะทำได้หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นการขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 40/2559 ที่ให้งดการสรรหากรรมการองค์กรอิสระทั้งหมดไว้ก่อน และให้คนเก่าดำรงตำแหน่งจนครบวาระ หรือไม่

ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งมีวาระสำคัญในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานฯ แต่เมื่อเริ่มประชุม กกต. ได้ขอประชุมลับก่อน โดย กกต.คนหนึ่ง ได้ยกประเด็นการบริหารงานภายในสำนักงานขึ้นอภิปราย ทำนองตำหนิ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. ก่อนจะมีการทวงถาม นายศุภชัย ถึงข้อตกลงที่ได้เคยให้ไว้เมื่อครั้งได้รับการสรรหาให้เป็น กกต.ว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานกกต. ก็จะดำรงตำแหน่งเพียง 2 ปี ซึ่งขณะนี้พ้นระยะเวลาดังกล่าวมาแล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินการตามที่ตกลงไว้

นายศุภชัย ได้ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ช่วงก่อนหน้านี้ กกต.จะต้องเตรียมการเรื่องการออกเสียงประชามติ จึงอยากทำภารกิจสำคัญให้ลุล่วงก่อน รวมทั้งยังไม่ชัดเจนในข้อกฎหมาย ว่าหากตนเองลาออกจากตำแหน่งประธาน กกต. แล้ว จะทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง กกต.ไปด้วยหรือไม่ เพราะถ้าไปพิจารณาคำสั่งแต่งตั้ง เป็นการแต่งตั้งประธาน และกรรมการ ต่อมามีคำสั่ง คสช. ที่ 40/2559 ออกมา จึงเกรงว่าถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร อาจเป็นการขัดคำสั่งได้

จากนั้น ที่ประชุมก็มีการถกเถียงกันด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง โดยฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน กกต. มี 3 เสียง ขณะที่อีก 1 เสียง ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะสนับสนุนนายศุภชัย ชัดเจน แต่เห็นว่าประเด็นดังกล่าว เป็นเรื่องที่ตกลงกันของคน 3 คน ก่อนรับตำแหน่ง กกต. ไม่สมควรต้องมานำเสนอเป็นเรื่องพูดคุยในห้องประชุม กกต. ที่ไว้สำหรับพิจารณาเรื่องที่ภารกิจงานของกกต. ซึ่งการถกเถียงก็มีการยกการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่าย มาโจมตีกันไปมาด้วย แต่ไม่ได้ข้อสรุปจนที่สุด ต้องยุติการประชุม และนัดประชุมใหม่ในวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของพนักงานในเวลาต่อมาว่า “กกต.วงแตก”

ต่อมา เมื่อถึงวันประชุม 2ก.ย. ก่อนการประชุม พบว่า กกต.ฝ่ายที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานกกต. ได้มีการหารือกันที่ห้อง กกต.คนหนึ่ง และ เมื่อเริ่มการประชุม ซึ่งก็มีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานอยู่ในห้องประชุมจำนวนมาก กกต.คนเดิม ก็ได้เสนอว่าอยากจะเสนอวาระพิจารณาเปลี่ยนแปลงประธาน กกต.ก่อน และชี้ว่าเหตุผลทางกฎหมาย ที่นายศุภชัย อ้างเป็นเหตุให้ต้องอยู่ตำแหน่งต่อไปนั้น ไม่น่าจะใช่ เพราะการลาออกจากตำแหน่งประธาน กกต. ไม่ทำให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้ปฏิบัติมาแล้ว เมื่อคราว นายชัช ชลวร ลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังเป็นตุลาการฯ จนปัจจุบัน และคำสั่ง คสช. ที่ 40/2559 ก็เป็นกรณีการห้ามสรรหาใหม่ จึงไม่มีผล หากนายศุภชัย จะลาออกจากตำแหน่งประธานกกต. เพราะก็ยังเป็นกรรมการ ไม่ต้องมีเรื่องต้องสรรหาใหม่ แต่ก็มีการแย้งว่า ตามกฎหมาย หรือระเบียบกกต. ไม่ได้กำหนดไว้ให้ กกต.มีอำนาจพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน กกต. ท้ายที่สุด ที่ประชุม กกต.เสียงข้างมาก ก็มอบให้สำนักงาน มีหนังสือไปยังคสช. เพื่อขอความชัดเจนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมกกต. กระแสความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสร้างความหวั่นไหวให้กับพนักงาน กกต.เป็นอย่างมาก มีการตั้งประเด็นว่า การขัดแย้งครั้งนี้ อาจกลายเป็นโอกาสให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ทำการ "เซตซีโร" กกต.ทั้ง 5 คน ก็เป็นได้ เพราะขณะนี้ กกต.เสร็จสิ้นภารกิจการจัดการออกเสียงประชามติแล้ว การยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ สำนักงานก็ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจเต็มของ กรธ. ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้มี กกต. 7 คน การไม่มีกกต.ในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ไม่น่ามีปัญหา หรือถ้า คสช. แต่งตั้งมาใหม่ทั้ง 7 คน ความแตกแยกที่เป็นอยู่ ก็ยุติลง.
กำลังโหลดความคิดเห็น