ชายสี่คน...เกิดบนแผ่นดินไทย แต่มีชายบางคนทำลายชาติไทย!
ชายคนที่หนึ่ง-“มหาโจรเหลี่ยม” ผู้โกงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐไทย เพื่อปล้นชาติ-ล้มเจ้า-เปลี่ยนการเมืองไทยให้เป็นแบบชาติมะกัน ฯลฯ
ชายคนที่สอง-“สนธิลิ้ม” เป็นสื่อมวลชนปากกล้า ไม่มีอำนาจราชศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น มีเพียงสองมือเปล่ากับประชาชนผู้รักชาตินาม “พันธมิตรฯ” ร่วมกันขับไล่รัฐบาล “มหาโจรเหลี่ยม” จนจะล้มมิล้มแหล่
ชายคนที่สาม-“เผด็จการบังเละ” โผล่ออกมาทำรัฐประหาร โค่นล้มนายกรัฐมนตรี “เหลี่ยม” ลง
“บังเละ” ขึ้นต้นเป็น “ลำไม้ไผ่” แต่เหลาไปเหลามากลายเป็น “บ้องกัญชา” เพราะรัฐบาลทหารยุคนั้น คิดสั้นคิดตื้น คิดว่า “เหลี่ยม” แพ้ราบคาบหมดฤทธิ์แล้ว “บังเละ” จึงไม่ได้ปฏิรูปชาติใดๆ ทั้งสิ้น แถมเร่งให้มีการเลือกตั้งสกปรกแบบเดิมๆ อีกด้วย
ทั้งๆ ที่ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยุคนั้น ขจัดคนชั่วออกจากการเมืองไทยให้ได้ ก่อนจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่รัฐบาลทหารดื้อด้านไม่สนใจ ไม่ทำตามความต้องการของคนไทยแม้แต่น้อย
ผลของความไม่รับผิดชอบต่อชาติครั้งนั้น ทำให้ “มหาโจรเหลี่ยม” กับพลพรรค โกงเลือกตั้งกลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนชาติไทยต้องจมอยู่ในวิกฤตชั่วร้ายมาจนทุกวันนี้
นอกจาก “บังเละ” จะไม่รับผิดชอบ ทั้งต่อชาติและประชาชนหลังรัฐประหาร “มวยล้มต้มคนดู” แล้ว “บังเละ” ยังทำเซอร์ไพรส์ระดับชาติ หันไปสยบเป็น “ผี-โม่แป้ง” คอยรับใช้ “มหาโจรเหลี่ยม” ในสภาฯ อีกด้วย
รัฐประหาร “เยี่ยวไม่สุด” ของ “บังเละ” ทำให้ชาติไทยมีวิกฤตการเมืองนานัปการ จนมีการพลิกขั้วทางการเมืองหนึ่งครั้ง! ตามด้วย “รัฐประหาร” อีกครา... นำเอา “ชายคนที่สี่คนนี้” โผล่มา...
ชายคนที่สี่-“เผด็จการบิ๊กตู่” ผู้นำล้มรัฐบาลชั่วร้ายเครือข่าย “เหลี่ยม” และปิดฉาก “สภาเผด็จการ” ของนักการเมืองเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-ควาย-หมา-ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ ลง...“ชั่วคราว”
“บิ๊กตู่” ในฐานะผู้นำรัฐประหาร และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน บริหารชาติไทยมาสองปีกว่าแล้ว มีผลงานดีๆ ถูกใจประชาชนไม่น้อย แต่ยังมีต้นเหตุปัญหาชาติอีกหลายเรื่อง ที่ “บิ๊กตู่” ยังไม่ได้แก้ไขให้สำเร็จไปอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนนั้น...ยังอืดราว “เรือเกลือ”
เพราะถ้าไม่ปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปลายปี 2560 หรือต้นปี 2561 ตามที่ “บิ๊กตู่” ประกาศจะทำตามโรดแมปนั้น ก็จะเป็นช่องโหว่ให้พวก “มหาโจรเหลี่ยม” ฉวยโอกาสกลับมายึดอำนาจรัฐไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ในไม่ช้าก็เร็วแน่นอน
ดังนั้น ภารกิจสำคัญที่สุดของ “บิ๊กตู่” คือ...ต้อง “เยี่ยวให้สุด!”
นั่นคือ ต้องป้องกันทุกวิถีทางและต้องได้ผลแบบเต็มร้อย มิให้กลุ่มคนชั่วอย่าง“มหาโจรเหลี่ยม” และสมุนกลับมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทย ต้องไม่เปิดช่องให้เครือข่าย “มหาโจรการเมือง” ทั้งหลาย กลับเข้ามาปกครองบ้านเมืองได้อีกต่อไป และต้องทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติอย่างต่อเนื่องด้วย
ผลงานสองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก หลายคนยังไม่เชื่อว่า “บิ๊กตู่” จะทำได้ แต่ก็มีอีกหลายคนยังคงเชื่อว่า “บิ๊กตู่” น่าจะทำได้น่ะ
ถ้า “บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจล้นฟ้าในห้วงนี้ ทำภารกิจที่สำคัญยิ่งดังกล่าวข้างต้นไม่สำเร็จ ก็ต้องถือว่ารัฐประหารครั้งนี้ “เยี่ยวไม่สุด” เช่นกัน และเป็น “รัฐประหาร” ที่นำชาติไปลงทุนแบบ “ไม่คุ้มค่า” เพราะยังทำได้เพียงตัดตอนอำนาจ “มหาโจรเหลี่ยม” ลงแค่ชั่วคราวอีกหนเท่านั้น
“ชายคนที่หนึ่ง-เหลี่ยม” กับพวก ที่ทำชั่วต่อชาติไทยอย่างมหันต์ ยังคงลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายมาจนทุกวันนี้ และยังสนับสนุนปฏิบัติการร้ายทุกรูปแบบ เพื่อยึดอำนาจรัฐไว้โกงชาติและล้มเจ้า เพราะหวังอยู่ตลอดเวลาที่จะเปลี่ยนรัฐไทยให้เป็นแบบรัฐมะกัน
“ชายคนที่สี่-บิ๊กตู่” รู้อยู่แก่ใจว่า “หมาตัวไหน” เป็นหัวหน้า และ “ไอ้ลูกหมาฝูงไหน” เป็นขี้ข้าของพวกทำลายชาติไทย อีกทั้งยังรู้ว่า “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุน จะปล้นชาติได้อีกครั้งด้วยวิธีเดียวเท่านั้น นั่นคือ... ใช้ช่องทางเลือกตั้งสกปรกแบบเดิมนั่นเอง
หาก “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุน ยึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง “บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า รัฐบาลเครือข่ายของ “เหลี่ยม” จะยังคงปล้นชาติและล้มเจ้า ซึ่งจะทำให้สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ไร้ความมั่นคงและตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงอย่างแน่นอน
เพราะเรื่องของการยึดและใช้ “อำนาจรัฐ” สำหรับ “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุนนั้น จะยึดหลักการ “แค้นต้องชำระ” ใครขวางการปล้นชาติ “ต้องตายลูกเดียว!”
งานนี้...“ชายคนที่สอง-สนธิลิ้ม” สู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และประชาชน โดยไร้ตำแหน่งและอำนาจทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังได้รับ “รางวัลพิเศษ” จาก “คนชั่วบางคน” รุมยิงด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด แต่รอดตายมาได้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง “สนธิลิ้ม” ยังคงต่อสู้ตามสไตล์สื่อมวลชนปากกล้ากับ “มหาโจรเหลี่ยม” ต่อไปเหมือนเดิม หากสื่อของ “สนธิลิ้ม” ยังไม่เจ๊งไปเสียก่อน!...
ดังนั้น ภารกิจเพื่อชาติและประชาชน จึงอยู่ในมือของ “ชายคนที่สี่-บิ๊กตู่” แบบเต็มร้อย ใครบางคนจึงฝากข้อความตรงไปตรงมาไว้ว่า...
“ยามมีอำนาจ ทำแต่สิ่งดีๆ มากมาย แต่ไม่ได้ขจัดต้นเหตุปัญหาร้ายๆ ของชาติ สิ่งดีๆ ที่ทำย่อมมิใช่ผลงานของวีรบุรุษชาติ หากแต่เป็นแค่ผู้นำชาติทั่วๆ ไปคนหนึ่งเท่านั้น เพราะผลงานเหล่านั้น ใครมีอำนาจก็ต้องทำ และทำได้เหมือนกัน”
การจัดการ “ชายคนที่หนึ่ง” นั้น ถ้า “ชายคนที่สี่” ผู้มี “อำนาจพิเศษ” ตั้งใจทำจริง...ทำได้แน่นอนครับ...ฟันธง!
ชายคนที่หนึ่ง-“มหาโจรเหลี่ยม” ผู้โกงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐไทย เพื่อปล้นชาติ-ล้มเจ้า-เปลี่ยนการเมืองไทยให้เป็นแบบชาติมะกัน ฯลฯ
ชายคนที่สอง-“สนธิลิ้ม” เป็นสื่อมวลชนปากกล้า ไม่มีอำนาจราชศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น มีเพียงสองมือเปล่ากับประชาชนผู้รักชาตินาม “พันธมิตรฯ” ร่วมกันขับไล่รัฐบาล “มหาโจรเหลี่ยม” จนจะล้มมิล้มแหล่
ชายคนที่สาม-“เผด็จการบังเละ” โผล่ออกมาทำรัฐประหาร โค่นล้มนายกรัฐมนตรี “เหลี่ยม” ลง
“บังเละ” ขึ้นต้นเป็น “ลำไม้ไผ่” แต่เหลาไปเหลามากลายเป็น “บ้องกัญชา” เพราะรัฐบาลทหารยุคนั้น คิดสั้นคิดตื้น คิดว่า “เหลี่ยม” แพ้ราบคาบหมดฤทธิ์แล้ว “บังเละ” จึงไม่ได้ปฏิรูปชาติใดๆ ทั้งสิ้น แถมเร่งให้มีการเลือกตั้งสกปรกแบบเดิมๆ อีกด้วย
ทั้งๆ ที่ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยุคนั้น ขจัดคนชั่วออกจากการเมืองไทยให้ได้ ก่อนจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่รัฐบาลทหารดื้อด้านไม่สนใจ ไม่ทำตามความต้องการของคนไทยแม้แต่น้อย
ผลของความไม่รับผิดชอบต่อชาติครั้งนั้น ทำให้ “มหาโจรเหลี่ยม” กับพลพรรค โกงเลือกตั้งกลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนชาติไทยต้องจมอยู่ในวิกฤตชั่วร้ายมาจนทุกวันนี้
นอกจาก “บังเละ” จะไม่รับผิดชอบ ทั้งต่อชาติและประชาชนหลังรัฐประหาร “มวยล้มต้มคนดู” แล้ว “บังเละ” ยังทำเซอร์ไพรส์ระดับชาติ หันไปสยบเป็น “ผี-โม่แป้ง” คอยรับใช้ “มหาโจรเหลี่ยม” ในสภาฯ อีกด้วย
รัฐประหาร “เยี่ยวไม่สุด” ของ “บังเละ” ทำให้ชาติไทยมีวิกฤตการเมืองนานัปการ จนมีการพลิกขั้วทางการเมืองหนึ่งครั้ง! ตามด้วย “รัฐประหาร” อีกครา... นำเอา “ชายคนที่สี่คนนี้” โผล่มา...
ชายคนที่สี่-“เผด็จการบิ๊กตู่” ผู้นำล้มรัฐบาลชั่วร้ายเครือข่าย “เหลี่ยม” และปิดฉาก “สภาเผด็จการ” ของนักการเมืองเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-ควาย-หมา-ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ ลง...“ชั่วคราว”
“บิ๊กตู่” ในฐานะผู้นำรัฐประหาร และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน บริหารชาติไทยมาสองปีกว่าแล้ว มีผลงานดีๆ ถูกใจประชาชนไม่น้อย แต่ยังมีต้นเหตุปัญหาชาติอีกหลายเรื่อง ที่ “บิ๊กตู่” ยังไม่ได้แก้ไขให้สำเร็จไปอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนนั้น...ยังอืดราว “เรือเกลือ”
เพราะถ้าไม่ปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปลายปี 2560 หรือต้นปี 2561 ตามที่ “บิ๊กตู่” ประกาศจะทำตามโรดแมปนั้น ก็จะเป็นช่องโหว่ให้พวก “มหาโจรเหลี่ยม” ฉวยโอกาสกลับมายึดอำนาจรัฐไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ในไม่ช้าก็เร็วแน่นอน
ดังนั้น ภารกิจสำคัญที่สุดของ “บิ๊กตู่” คือ...ต้อง “เยี่ยวให้สุด!”
นั่นคือ ต้องป้องกันทุกวิถีทางและต้องได้ผลแบบเต็มร้อย มิให้กลุ่มคนชั่วอย่าง“มหาโจรเหลี่ยม” และสมุนกลับมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทย ต้องไม่เปิดช่องให้เครือข่าย “มหาโจรการเมือง” ทั้งหลาย กลับเข้ามาปกครองบ้านเมืองได้อีกต่อไป และต้องทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติอย่างต่อเนื่องด้วย
ผลงานสองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก หลายคนยังไม่เชื่อว่า “บิ๊กตู่” จะทำได้ แต่ก็มีอีกหลายคนยังคงเชื่อว่า “บิ๊กตู่” น่าจะทำได้น่ะ
ถ้า “บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจล้นฟ้าในห้วงนี้ ทำภารกิจที่สำคัญยิ่งดังกล่าวข้างต้นไม่สำเร็จ ก็ต้องถือว่ารัฐประหารครั้งนี้ “เยี่ยวไม่สุด” เช่นกัน และเป็น “รัฐประหาร” ที่นำชาติไปลงทุนแบบ “ไม่คุ้มค่า” เพราะยังทำได้เพียงตัดตอนอำนาจ “มหาโจรเหลี่ยม” ลงแค่ชั่วคราวอีกหนเท่านั้น
“ชายคนที่หนึ่ง-เหลี่ยม” กับพวก ที่ทำชั่วต่อชาติไทยอย่างมหันต์ ยังคงลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายมาจนทุกวันนี้ และยังสนับสนุนปฏิบัติการร้ายทุกรูปแบบ เพื่อยึดอำนาจรัฐไว้โกงชาติและล้มเจ้า เพราะหวังอยู่ตลอดเวลาที่จะเปลี่ยนรัฐไทยให้เป็นแบบรัฐมะกัน
“ชายคนที่สี่-บิ๊กตู่” รู้อยู่แก่ใจว่า “หมาตัวไหน” เป็นหัวหน้า และ “ไอ้ลูกหมาฝูงไหน” เป็นขี้ข้าของพวกทำลายชาติไทย อีกทั้งยังรู้ว่า “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุน จะปล้นชาติได้อีกครั้งด้วยวิธีเดียวเท่านั้น นั่นคือ... ใช้ช่องทางเลือกตั้งสกปรกแบบเดิมนั่นเอง
หาก “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุน ยึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง “บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า รัฐบาลเครือข่ายของ “เหลี่ยม” จะยังคงปล้นชาติและล้มเจ้า ซึ่งจะทำให้สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ไร้ความมั่นคงและตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงอย่างแน่นอน
เพราะเรื่องของการยึดและใช้ “อำนาจรัฐ” สำหรับ “มหาโจรเหลี่ยม” กับสมุนนั้น จะยึดหลักการ “แค้นต้องชำระ” ใครขวางการปล้นชาติ “ต้องตายลูกเดียว!”
งานนี้...“ชายคนที่สอง-สนธิลิ้ม” สู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และประชาชน โดยไร้ตำแหน่งและอำนาจทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังได้รับ “รางวัลพิเศษ” จาก “คนชั่วบางคน” รุมยิงด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด แต่รอดตายมาได้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง “สนธิลิ้ม” ยังคงต่อสู้ตามสไตล์สื่อมวลชนปากกล้ากับ “มหาโจรเหลี่ยม” ต่อไปเหมือนเดิม หากสื่อของ “สนธิลิ้ม” ยังไม่เจ๊งไปเสียก่อน!...
ดังนั้น ภารกิจเพื่อชาติและประชาชน จึงอยู่ในมือของ “ชายคนที่สี่-บิ๊กตู่” แบบเต็มร้อย ใครบางคนจึงฝากข้อความตรงไปตรงมาไว้ว่า...
“ยามมีอำนาจ ทำแต่สิ่งดีๆ มากมาย แต่ไม่ได้ขจัดต้นเหตุปัญหาร้ายๆ ของชาติ สิ่งดีๆ ที่ทำย่อมมิใช่ผลงานของวีรบุรุษชาติ หากแต่เป็นแค่ผู้นำชาติทั่วๆ ไปคนหนึ่งเท่านั้น เพราะผลงานเหล่านั้น ใครมีอำนาจก็ต้องทำ และทำได้เหมือนกัน”
การจัดการ “ชายคนที่หนึ่ง” นั้น ถ้า “ชายคนที่สี่” ผู้มี “อำนาจพิเศษ” ตั้งใจทำจริง...ทำได้แน่นอนครับ...ฟันธง!