พอดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน! “แพตตี้-พิมพาภรณ์ เสริมพณิชกิจ” สาวหน้าหวานนักแสดงหน้าใหม่แห่งวิกหมอชิต ผู้รักการเดินทางและหลงใหลการท่องเที่ยวอย่างสุดพลัง เธอพร้อมพาเราออกเดินทางและบอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและเรื่องราวสุดฟิวกูดที่ยังอุ่นใจเมื่อได้นึกถึง . .
สู่ถนนสายบันเทิง
ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ “แพตตี้-พิมพาภรณ์ เสริมพณิชกิจ” ศิษย์เก่าจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งหลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาบ้างผ่านงานโฆษณา นิตยสาร และรายการทีวี ทว่าหลังจบการศึกษามาได้หนึ่งปี เธอพร้อมแล้วสำหรับเส้นทางการแสดงที่มีประตูแห่งความท้าทายเปิดรออยู่
“ก่อนหน้านี้ตอนเด็กๆ มีผลงานในวงการบันเทิงบ้างค่ะ พอเข้ามหา'ลัยไม่ได้รับงานแสดงเลยเพราะเรียนหนัก แต่ระหว่างนั้นมีถ่ายนิตยสาร โฆษณา บ้าง จริงๆ ตอนแรกอยากเรียนหมอ แต่พอได้มาดูคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มันเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเหมือนกันเลยเลือกสาขานี้ เพราะว่าได้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เหมือนตอนนี้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ด้านนี้ถือว่าดีเลยนะคะที่ได้เรียน”
สำหรับด้านงานแสดงในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ของทางช่อง 7 ขณะนี้ผลงานของเธอกำลังออนแอร์อยู่ทั้งสองเรื่อง เธอบอกกับเราว่าคาเรกเตอร์ของตัวละครทั้งสองเรื่องมีความต่างกัน ถือว่าเป็นความท้าทายที่ทำให้เธอต้องพิสูจน์ในความสามารถและพัฒนาฝีมือการแสดงของเธอสู่คนดู
“ตอนนี้ละครออนแอร์ติดกันสองเรื่องค่ะ ทางช่อง 7 เรื่องแรกคือ “คุณนายสายลับ” รับบทเป็นมาติกา คือน้องสาวบุญธรรมของพระเอก แต่เราแอบรักพี่ชายตัวเองเพราะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ส่วนตัวพี่ชายเขาคิดกับเราแค่น้องสาว ในเรื่องจะถูกกลั่นแกล้งเยอะมาก (ลากเสียง) จากตัวร้าย 3 คน ทั้งโดนผลักตกน้ำ โดนทุกอย่าง ร้องไห้ทั้งเรื่องเลยค่ะ (หัวเราะ)
อีกเรื่องที่กำลังออนแอร์อยู่คือเรื่อง “เจ้าบ่าวกลัวฝน” ซึ่งเรื่องนี้คาเรกเตอร์จะต่างกับเรื่องแรกมาก เรื่องที่สองก็จะน่ารัก บทจะเกาหลีๆ หน่อย จะเป็นบทใสๆ น่ารักๆ วัยเพิ่งเรียนจบ เราก็ไปแอบชอบคนๆ หนึ่ง ซึ่งเขาชอบเพื่อนสนิทเรา เราก็ต้องทำทุกวิถีทางให้เขารักเรา บทจะมีตั้งแต่น่ารักมากๆ จนถึงเศร้าเลยค่ะ”
หากพูดถึงความชอบและคาเรกเตอร์ที่ใกล้เคียงกับตัวตนเธอมากที่สุด สาวแพตตี้บอกกับเราว่าละครเรื่องเจ้าบ่าวกลัวฝนที่ได้รับบทเป็นแก้วตามีความใกล้เคียงกับตัวเธอมากกว่า ส่วนในเรื่องความยากของการแสดงเธอยอมรับเลยว่าการทำความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ
“จริงๆ แล้วแพตตี้ชอบทั้งสองเรื่องเลย อย่างเรื่องคุณนายสายลับรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ดูท้าทายกับตัวเราดี ส่วนเรื่องเจ้าบ่าวกลัวฝนมันเป็นตัวเรา เราเพิ่งเรียนจบเหมือนกัน มันใกล้ตัวและเล่นง่าย จริงๆ ชอบทั้งสองบทบาทเลยค่ะ
สำหรับแพตตี้คิดว่าขึ้นอยู่กับความเข้าใจ เราเป็นคนคิดเยอะ เราเรียนวิทยาศาสตร์เนอะจะชอบคิดว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับความเข้าใจของตัวละคร เราเป็นคนเกทอะไรยากก็ต้องทำการบ้านเยอะ”
ท่องเที่ยว = ของขวัญ
หากใครกำลังติดตามอินสตาแกรม @pimpatty คงได้เห็นว่าเธอชอบลงรูปภาพเกี่ยวกับการไปเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมากที่สุด นั่นอาจเป็นการบ่งบอกได้ว่าเธอหลงใหลในการเดินทางอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว คราวนี้เราจึงอดถามไม่ได้ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้สาวหน้าหวานคนนี้ตกหลุมรักในการท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้
“แพตตี้เป็นคนชอบไปเที่ยวค่ะ เพราะว่าส่วนตัวแล้วชอบประวัติศาสตร์ ชอบอ่านประวัติศาสตร์ของโลก เวลาเราไปในที่ๆ หนึ่ง เราจะรู้อะไรมากขึ้น มันก็ยิ่งทำให้เราอินกับมัน จริงๆ ถ้าเริ่มเลยคือชอบดูหนังที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แล้วเริ่มมาอ่าน พอเรียนที่จุฬาฯ จะมีวิชาเลือก เราก็ไปเรียนแล้วก็ยิ่งชอบ พอเราได้ไปเก็บประสบการณ์ต่างๆ มันยิ่งทำให้เราชอบมากขึ้น”
เธอเล่าด้วยแววตาคล้ายกับกำลังพาเราออกเดินทางตามรอยประวัติศาสตร์ไปกับเธอ ฟังน้ำเสียงดูแล้วสัมผัสได้ถึงความชื่นชอบในการท่องเที่ยวอย่างไม่ปฏิเสธ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ได้เห็นมุมมองและวัฒนธรรมของคนในประเทศนั้นๆ และยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการใช้ชีวิตของเธอได้อีกด้วย
“เราไปเห็นอารยธรรมและวัฒนธรรมของเขาว่า คนประเทศนี้เขาสุภาพมากๆ คนประเทศนี้เขาสะอาด เราไปเห็นการใช้ชีวิตและการดำรงค์ชีวิตของเขา จากที่ได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ แล้วเห็นความต่างของวัฒนธรรม เรามีความรู้สึกว่าทุกอย่างมันก็มีสิ่งที่ดีและไม่ดีต่างกันค่ะ เราก็เอาสิ่งดีๆ มาประยุกต์ใช้กับการใช้ชีวิตของเราได้”
เชื่อว่าคนเรามีรางวัลชีวิตที่ปรารถนาไม่เหมือนกัน บางคนอาจมอบของขวัญให้ตัวเองสักชิ้นในวันที่อ่อนล้าจากการทำงาน หรือบางคนอาจออกไปทำอะไรที่อยากทำเพื่อเติมพลังให้กับชีวิต เธอเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มอบการเดินทางให้เป็นรางวัลของชีวิต และยอมรับกับเราเลยว่าการท่องเที่ยวคือการชาร์ตแบทให้กับชีวิตได้ดีที่สุด
“คนเรามีความชอบต่างกันใช่ไหมคะ ผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่งอาจจะคิดว่าการที่ได้ซื้อของ ซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้า แล้วมันฟิวกูด แต่ของเรารู้สึกว่าการเก็บเงินไปเที่ยวมันคือสิ่งฟิวกูดสำหรับเรา เพราะว่าชีวิตหนึ่งมันสามารถทำอะไรได้อีกเยอะแยะ
เราคิดว่าถ้าวันหนึ่งเราอยากไปที่นี่มากเลย แต่แก่แล้วไปไม่ได้ ตอนที่เรามีแรงหรือมีชีวิตอยู่ ทำไมไม่ไปในที่ๆ อยากไป หรือทำอะไรที่อยากทำ ดีกว่าแก่มาแล้วไม่มีแรงไปแล้ว”
3 เรื่องฟิวกูดที่สุดในชีวิต
“เรื่องที่ทำให้รู้สึกฟิวกูดในชีวิต อย่างแรกคือที่เอนท์ติดจุฬาฯ ได้ อันนี้ฟิวกูดมากๆ (เน้นเสียง)” ทันทีที่เราโยนคำถามไปว่าเหตุการณ์ในชีวิตครั้งไหนที่ทำให้สาวหน้าหวานคนนี้รู้สึกประทับใจจนยากจะลืม เธอรีบตอบอย่างไม่ลังเลก่อนจะบอกเหตุผลกับเราว่าทำไมการเอนท์ติดที่จุฬาฯ ถึงเป็นเรื่องฟิวกูดในชีวิต
“เพราะว่ามันเป็นมหา'ลัยที่เราใฝ่ฝัน แต่ถ้าที่รู้สึกว่าฟิวกูดสุดๆ น่าจะเป็นเรื่องเรียน เพราะเรารู้สึกว่าเราซัคเซสในเรื่องเรียนมากๆ เพราะว่าตอนอยู่ประถมเคยไปแคสโฆษณา ได้เจอพี่แต้ว-ณฐพร เลยถามเขาว่าพี่เรียนที่ไหนคะ พี่เขาบอกเรียนบดินทรเดชา สอบเข้ายากมากเลย วันหนึ่งเราก็ได้เข้าบดินทรเดชา
พอได้เข้ามาแล้วได้คุยกับพี่เขาถามว่าพี่แต้วจะเรียนต่อที่ไหน พี่เขาบอกจะเข้าจุฬาฯ เราก็ใฝ่ฝันอีก เดี๋ยวเราจะเข้าจุฬาฯ ให้ได้ วันหนึ่งเราเอนท์ติดมันถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่เราภูมิใจ ถือว่าเราได้ทำในเรื่องการศึกษามันเป็นเรื่องที่ดีต่อเรา”
สำหรับเรื่องราวฟิวกูดเรื่องที่สอง เธอเล่าด้วยแววตาประทับใจว่าเป็นความภูมิใจที่ได้ทำงานขณะเรียนไปด้วย ถือเป็นเรื่องดีๆ ของชีวิตที่ทำให้เธอมีประสบการณ์ด้านการทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ
“เรื่องฟิวกูดในชีวิตเรื่องที่สองคือเรื่องทำงาน คือเราทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เหมือนเป็นพนักงานประจำ เข้าออฟฟิศ ประชุม เราได้มีโอกาสตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เราถือว่าเริ่มต้นเร็วซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ที่ได้เจอคนที่ดีๆ ได้ทำงานที่ดีๆ”
มาถึงเรื่องฟิวกูดเรื่องสุดท้ายที่ถ้าหากไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนชื่นชอบในการทำอาหารมาก โดยเฉพาะการทำขนมบราวนีย์ที่ทำออกมาได้อย่างอร่อยนุ่มลิ้น จนถึงขั้นส่งไปขายเลยทีเดียว
“อีกเรื่องคงเป็นเรื่องทำอาหารค่ะ เป็นคนชอบทำขนมและชอบเอาลงไอจี ตอนนี้มีขายบราวนีย์สูตรคิดเอง มีร้านๆ หนึ่งรับไปขาย เราทำวันละ 60 ชิ้น 2 วันขายหมด จุดเริ่มต้นคือนั่งดูคลิปยูทูปและรู้สึกว่าเขาอัดวีดีโอสวย เราอยากอัดวีดีโอทำอาหารลงไอจีบ้าง ปรากฏว่าทำให้คนชิมแล้วมันอร่อย เราก็เลยทำต่อเลยล่ะกัน มันจึงเป็นเรื่องราวที่ทำให้เราฟิวกูดได้เวลาที่รู้สึกเหนื่อย”
เรื่อง : พิมพรรณ มีชัยศรี
ภาพ : วชิร สายจำปา
ภาพบางส่วน : อินสตาแกรม
ชมภาพความน่ารักสาวแพตตี้ . .