ผู้จัดการรายวัน360/ศูนย์ข่าวขอนแก่น - "หมอเปรม" คุกคามสื่อขอนแก่น หลังถูกตามขอสัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีภาพว่อนเน็ตแต่งงานเด็กนักเรียนหญิง ม.5 สั่งลูกน้องจับนักข่าวอาวุโสถอดกางเกงเหลือแต่กางเกงใน พร้อมกักในห้องทำงานนานกว่า 2 ชั่วโมง ด้านสมาคมสื่อขอนแก่นประนามเป็นพฤติกรรมคุกคามสื่อชัดๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วานนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวหลายสำนักในจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางไปรอสัมภาษณ์ข้อเท็จจริงจาก นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ที่สำนักงานเทศบาลกรณีมีภาพเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ภายหลังไม่สามารถติดต่อกับ นพ.เปรมศักดิ์ ทางโทรศัพท์ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เห็นกลุ่มนักข่าวที่รอสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ บอกว่า "เดี๋ยวให้นักข่าวมาพร้อมๆ กันแล้วจะพูดทีเดียว"
กระทั่งเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้ออกมาเรียกนักข่าวเข้าไปในห้องทำงานนายกเทศมนตรี ที่มีนพ.เปรมศักดิ์ นั่งรออยู่แล้ว หลังจากนั้น นพ.เปรมศักดิ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ล็อคประตูห้อง เก็บกล้อง โทรศัพท์มือถือนักข่าวทุกคน
สำหรับผู้สื่อข่าวที่อยู่ในห้องดังกล่าวมีทั้งหมด 5 สื่อประกอบด้วย ช่อง3, มติชน, เดลินิวส์, เนชั่นทีวี และผู้สื่อข่าวจาก KKC เคเบิลทีวี นอกจากผู้สื่อข่าวจาก 5 สื่อนี้แล้วภายในห้องที่ถูกล็อคมีเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่และผู้บริหารรวมทั้ง นพ.เปรมศักดิ์ 7 คน ล้วนเป็นผู้ชายทั้งหมด
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวขึ้นว่า "วันนี้ผมไม่มีอะไรจะพูดหรือให้สัมภาษณ์แต่ขอตำหนิสื่อว่าเอาภาพไปลงทำไม ทำไมไม่ถามผมก่อน ผมก็อยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หลบหน้าไปไหน ...ผมคบกับนักข่าวมานานเป็นเรื่องเจ็บปวดมาก ผมนอนร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว"
นักข่าวช่อง 3 พยายามอ้างถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับภาพที่มีการแชร์อย่างแพร่หลายในโซเซียลมีเดีย แต่ นพ.เปรมศักดิ์ไม่พูดถึง นอกจากต่อว่าสื่อในเรื่องการนำภาพไปลงว่าเป็นการประจานเรื่องส่วนตัว และบิดเบือนข้อมูล เช่นไปเขียนว่า เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ที่ไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ก็ไปเขียนว่าผู้ว่าฯ เรียกไปพบ
"ผมไปพบผู้ว่าฯ จริงแต่ที่ไปเพราะผู้ว่าฯ อยากขอบคุณผม ที่ดึงเอาการประชุมสันนิบาตเทศบาลมาที่ขอนแก่นได้"
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวถึงภาพที่มีการแชร์ที่นั่งกับเด็กสาว และมีปึกธนบัตรที่มีผู้ระบุว่าเป็นเงิน 4 แสนบาทวางข้างหน้าสั้นๆ ว่า "มันแค่เป็นการช่วยเหลือครอบครัวเขาเพราะครอบครัวเขาเดือดร้อน" และพยายามพูดตำหนิสื่อต่อว่า ทำหน้าที่ไม่เหมาะสมและพูดเชิงข่มขู่ว่ามีเรื่องเยอะแยะ จะขอแฉนักข่าวบ้าง
"ไหนเดลินิวส์...ลงหนักมาก ผมอยากรู้ว่าถ้าผมถ่ายรูปคุณไปลงประจานคุณจะรู้สึกยังไง" หลังพูดจบก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่แก้ผ้าถอดกางเกงนักข่าวอาวุโสศูนย์ข่าวเดลินิวส์วัย 64 ปี โดยเจ้าหน้าที่ 4 คนเข้ามาถอดกางเกงเหลือกางเกงใน หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่เทศบาลถ่ายภาพนักข่าวที่ถูกถอดกางเกง ทั้งกล้องวิดิโอ โทรศัพท์มือถือ ท่ามกลางความตกตลึงของนักข่าวคนอื่นในห้อง แล้วจึงให้ใส่กางเกงกลับ
ทั้งนี้ กลุ่มนักข่าวถูกกักขังในห้องทำงานของ นพ.เปรมศักดิ์ นานกว่า 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นได้ว่ากล่าวตำหนิสื่อฝ่ายเดียวด้วยคำพูดต่างๆ นานา ตั่งแต่เวลา 10.30 น.จนถึง 12.00 น.จึงให้เจ้าหน้าเปิดประตูให้นักข่าวออกจากห้อง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในโซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพ นพ.เปรมศักดิ์ สวมเสื้อสีชมพู นั่งให้ผู้สูงอายุผูกข้อมือ โดยมีหญิงวัยรุ่นนั่งประกบคู่ผูกข้อมือเช่นเดียวกัน โดยมีเงินสดจำนวนหนึ่ง พระพุทธรูป และสมุดทะเบียนรถอยู่ในภาพ พร้อมกับข้อความอ้างว่า นพ.เปรมศักดิ์ สู่ขอหญิงสาววัยรุ่นที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเทศบาลตำบลบ้านไผ่ แบบเงียบ ๆ โดยมีสินสอด 4 แสนบาท พร้อมรถเก๋งโตโยต้า วีออส แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักต่าง ๆ พยายามสอบถาม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ ก็ไม่พบว่ามีการลงบันทึกประจำวัน
*** ตร.ชี้ผิดกฎหมายแน่นอน
ด้านพล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวานิชย์ ผบก.จว.ขอนแก่น กล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม หากมีการกักขังนักข่าวอาวุโสของเดลินิวส์จริง ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะแล้ว
*** สื่อมวลชนประณามเปรมศักดิ์
ล่าสุดพ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการคุกคาม และไม่ให้เกียรติสื่อ โดยการที่สื่อไปในวันนี้ เพราะต้องการไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นผลดีกับคนที่ตกเป็นข่าวด้วยซ้ำไปที่จะได้ออกมาชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง แต่ไม่ควรทำเช่นนี้ เนื่องจากหากไม่พอใจอะไรยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นในนามของสมาคมฯถือว่ากระทำของนพ.เปรมศักดิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์เป็นบุคคลสาธารณะ มีความรู้ถึงระดับปริญญาเอก แต่กลับไม่ให้เกียรติสื่อ ซึ่งตอนนี้ทางสมาคมฯเตรียมออกแถลงการณ์ประณามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วานนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวหลายสำนักในจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางไปรอสัมภาษณ์ข้อเท็จจริงจาก นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ที่สำนักงานเทศบาลกรณีมีภาพเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ภายหลังไม่สามารถติดต่อกับ นพ.เปรมศักดิ์ ทางโทรศัพท์ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เห็นกลุ่มนักข่าวที่รอสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ บอกว่า "เดี๋ยวให้นักข่าวมาพร้อมๆ กันแล้วจะพูดทีเดียว"
กระทั่งเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้ออกมาเรียกนักข่าวเข้าไปในห้องทำงานนายกเทศมนตรี ที่มีนพ.เปรมศักดิ์ นั่งรออยู่แล้ว หลังจากนั้น นพ.เปรมศักดิ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ล็อคประตูห้อง เก็บกล้อง โทรศัพท์มือถือนักข่าวทุกคน
สำหรับผู้สื่อข่าวที่อยู่ในห้องดังกล่าวมีทั้งหมด 5 สื่อประกอบด้วย ช่อง3, มติชน, เดลินิวส์, เนชั่นทีวี และผู้สื่อข่าวจาก KKC เคเบิลทีวี นอกจากผู้สื่อข่าวจาก 5 สื่อนี้แล้วภายในห้องที่ถูกล็อคมีเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่และผู้บริหารรวมทั้ง นพ.เปรมศักดิ์ 7 คน ล้วนเป็นผู้ชายทั้งหมด
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวขึ้นว่า "วันนี้ผมไม่มีอะไรจะพูดหรือให้สัมภาษณ์แต่ขอตำหนิสื่อว่าเอาภาพไปลงทำไม ทำไมไม่ถามผมก่อน ผมก็อยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หลบหน้าไปไหน ...ผมคบกับนักข่าวมานานเป็นเรื่องเจ็บปวดมาก ผมนอนร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว"
นักข่าวช่อง 3 พยายามอ้างถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับภาพที่มีการแชร์อย่างแพร่หลายในโซเซียลมีเดีย แต่ นพ.เปรมศักดิ์ไม่พูดถึง นอกจากต่อว่าสื่อในเรื่องการนำภาพไปลงว่าเป็นการประจานเรื่องส่วนตัว และบิดเบือนข้อมูล เช่นไปเขียนว่า เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ที่ไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ก็ไปเขียนว่าผู้ว่าฯ เรียกไปพบ
"ผมไปพบผู้ว่าฯ จริงแต่ที่ไปเพราะผู้ว่าฯ อยากขอบคุณผม ที่ดึงเอาการประชุมสันนิบาตเทศบาลมาที่ขอนแก่นได้"
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวถึงภาพที่มีการแชร์ที่นั่งกับเด็กสาว และมีปึกธนบัตรที่มีผู้ระบุว่าเป็นเงิน 4 แสนบาทวางข้างหน้าสั้นๆ ว่า "มันแค่เป็นการช่วยเหลือครอบครัวเขาเพราะครอบครัวเขาเดือดร้อน" และพยายามพูดตำหนิสื่อต่อว่า ทำหน้าที่ไม่เหมาะสมและพูดเชิงข่มขู่ว่ามีเรื่องเยอะแยะ จะขอแฉนักข่าวบ้าง
"ไหนเดลินิวส์...ลงหนักมาก ผมอยากรู้ว่าถ้าผมถ่ายรูปคุณไปลงประจานคุณจะรู้สึกยังไง" หลังพูดจบก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่แก้ผ้าถอดกางเกงนักข่าวอาวุโสศูนย์ข่าวเดลินิวส์วัย 64 ปี โดยเจ้าหน้าที่ 4 คนเข้ามาถอดกางเกงเหลือกางเกงใน หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่เทศบาลถ่ายภาพนักข่าวที่ถูกถอดกางเกง ทั้งกล้องวิดิโอ โทรศัพท์มือถือ ท่ามกลางความตกตลึงของนักข่าวคนอื่นในห้อง แล้วจึงให้ใส่กางเกงกลับ
ทั้งนี้ กลุ่มนักข่าวถูกกักขังในห้องทำงานของ นพ.เปรมศักดิ์ นานกว่า 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นได้ว่ากล่าวตำหนิสื่อฝ่ายเดียวด้วยคำพูดต่างๆ นานา ตั่งแต่เวลา 10.30 น.จนถึง 12.00 น.จึงให้เจ้าหน้าเปิดประตูให้นักข่าวออกจากห้อง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในโซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพ นพ.เปรมศักดิ์ สวมเสื้อสีชมพู นั่งให้ผู้สูงอายุผูกข้อมือ โดยมีหญิงวัยรุ่นนั่งประกบคู่ผูกข้อมือเช่นเดียวกัน โดยมีเงินสดจำนวนหนึ่ง พระพุทธรูป และสมุดทะเบียนรถอยู่ในภาพ พร้อมกับข้อความอ้างว่า นพ.เปรมศักดิ์ สู่ขอหญิงสาววัยรุ่นที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเทศบาลตำบลบ้านไผ่ แบบเงียบ ๆ โดยมีสินสอด 4 แสนบาท พร้อมรถเก๋งโตโยต้า วีออส แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักต่าง ๆ พยายามสอบถาม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ ก็ไม่พบว่ามีการลงบันทึกประจำวัน
*** ตร.ชี้ผิดกฎหมายแน่นอน
ด้านพล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวานิชย์ ผบก.จว.ขอนแก่น กล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม หากมีการกักขังนักข่าวอาวุโสของเดลินิวส์จริง ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะแล้ว
*** สื่อมวลชนประณามเปรมศักดิ์
ล่าสุดพ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการคุกคาม และไม่ให้เกียรติสื่อ โดยการที่สื่อไปในวันนี้ เพราะต้องการไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นผลดีกับคนที่ตกเป็นข่าวด้วยซ้ำไปที่จะได้ออกมาชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง แต่ไม่ควรทำเช่นนี้ เนื่องจากหากไม่พอใจอะไรยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นในนามของสมาคมฯถือว่ากระทำของนพ.เปรมศักดิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์เป็นบุคคลสาธารณะ มีความรู้ถึงระดับปริญญาเอก แต่กลับไม่ให้เกียรติสื่อ ซึ่งตอนนี้ทางสมาคมฯเตรียมออกแถลงการณ์ประณามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น