เอเจนซีส์ / MGR online - สื่อนอกตีข่าว อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี โผล่มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทด้านไอทีน้องใหม่ในอังกฤษที่มีเอี่ยวจับมือกับ “เทมาเส็ก” รับงานโครงการไอทีของรัฐบาลแดนลอดช่อง พร้อมเตรียมระดมเงินลงทุนก้อนใหม่ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หวังเดินหน้ารับงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที-ไซเบอร์ให้รัฐบาลหลายประเทศอย่างเต็มตัว
รายงานข่าวซึ่งปรากฏในหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษ ระบุว่า บริษัท “เซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ด” ซึ่งมีทักษิณ ชินวัตร อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นหัวเรือใหญ่ กำลังเดินหน้าแผนระดมทุนครั้งใหญ่ ซึ่งหากแผนการนี้ประสบความสำเร็จจะทำให้บริษัทไอทีขนาดเล็กสัญชาติอังกฤษแห่งนี้กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าในตลาดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และจะเป็น “ใบเบิกทาง” ให้บริษัทสามารถลุยธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานทางไซเบอร์ในระดับนานาชาติได้อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทเซ็นตริกส์ ที่มีทักษิณ ชินวัตร นั่งเก้าอี้เป็นทั้ง “ผู้ถือหุ้น” และ “ผู้อำนวยการ” เพิ่งประสบความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงเป็นผู้ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีภายใต้โครงการ “Smart Nation” ของรัฐบาลสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่ “แหล่งข่าว” เปิดเผยว่าทักษิณใช้สายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับผู้บริหารของเทมาเส็ก (บรรษัทการลงทุนแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์) ช่วย “อำนวยความสะดวก” ให้บริษัทเซ็นตริกส์ของเขาได้รับงานเมกะโปรเจกต์นี้ โดยแลกเปลี่ยนกับการที่ให้เทมาเส็กได้เข้ามาถือหุ้น-ร่วมลงทุนกับทางเซ็นตริกส์ในอนาคต
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของทีมข่าวต่างประเทศ MGR online พบข้อมูลว่าบริษัทเซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ดได้จดทะเบียนก่อตั้งกิจการกับรัฐบาลอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ปี 2008 ภายใต้ชื่อบริษัท “เซอร์เวอร์ เซ็นตริก ซีเคียวริตี้ ลิมิเต็ด”
แต่หลังเปิดดำเนินกิจการได้เพียง 5 เดือนทางบริษัทได้ประสบ “ปัญหาภายใน” บางประการ และได้มีการแจ้งขอเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “เซ็นตริกส์ ลิมิเต็ด” เมื่อ 18 สิงหาคม ปี 2008 ก่อนจะมีการเปลี่ยนชื่อกิจการอีกหลายครั้ง และเลือกใช้ชื่อเซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ด เป็นชื่อล่าสุด
ขณะเดียวกันทีมข่าวต่างประเทศ MGR online ยังได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทไอทีแห่งนี้จากฐานข้อมูลธุรกิจของเมืองผู้ดี ซึ่งพบหลักฐานว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ปี 2015 โดยมีการระบุว่า ตัวเขาถือสัญชาติไทย แต่มีถิ่นพำนักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตลอดจนมีการลงทะเบียนที่อยู่ในอังกฤษสำหรับการติดต่อธุรกิจไว้ที่บ้านเลขที่ 27 สเตอร์ลิง เฮาส์ ถนนแฮตช์แลนด์ โรด ในเมืองเรดฮิลล์ ของเขตเซอร์เรย์ และมีรหัสไปรษณีย์คือ “RH1 6RW”
ทั้งนี้ นอกเหนือจากอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยแล้ว ยังปรากฏชื่อของนักธุรกิจชื่อดังหลายรายเป็นคณะผู้บริหารของบริษัทไอทีแห่งนี้ ทั้งเดวิด เอ็ดเวิร์ด สเวนด์เซน นักธุรกิจด้านไอทีชื่อดังจากออสเตรเลีย รวมถึงเซอร์ฟรานซิส เฮนรี แม็คเคย์ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงระดับแถวหน้าของอังกฤษรวมอยู่ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า หลังการระดมทุนในครั้งนี้ ทางบริษัทไอทีสัญชาติอังกฤษที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นหัวเรือใหญ่แห่งนี้จะเดินหน้าเข้ารับงานด้านการพัฒนาระบบไอที และความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับรัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย.
รายงานข่าวซึ่งปรากฏในหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษ ระบุว่า บริษัท “เซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ด” ซึ่งมีทักษิณ ชินวัตร อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นหัวเรือใหญ่ กำลังเดินหน้าแผนระดมทุนครั้งใหญ่ ซึ่งหากแผนการนี้ประสบความสำเร็จจะทำให้บริษัทไอทีขนาดเล็กสัญชาติอังกฤษแห่งนี้กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าในตลาดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และจะเป็น “ใบเบิกทาง” ให้บริษัทสามารถลุยธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานทางไซเบอร์ในระดับนานาชาติได้อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทเซ็นตริกส์ ที่มีทักษิณ ชินวัตร นั่งเก้าอี้เป็นทั้ง “ผู้ถือหุ้น” และ “ผู้อำนวยการ” เพิ่งประสบความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงเป็นผู้ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีภายใต้โครงการ “Smart Nation” ของรัฐบาลสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่ “แหล่งข่าว” เปิดเผยว่าทักษิณใช้สายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับผู้บริหารของเทมาเส็ก (บรรษัทการลงทุนแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์) ช่วย “อำนวยความสะดวก” ให้บริษัทเซ็นตริกส์ของเขาได้รับงานเมกะโปรเจกต์นี้ โดยแลกเปลี่ยนกับการที่ให้เทมาเส็กได้เข้ามาถือหุ้น-ร่วมลงทุนกับทางเซ็นตริกส์ในอนาคต
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของทีมข่าวต่างประเทศ MGR online พบข้อมูลว่าบริษัทเซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ดได้จดทะเบียนก่อตั้งกิจการกับรัฐบาลอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ปี 2008 ภายใต้ชื่อบริษัท “เซอร์เวอร์ เซ็นตริก ซีเคียวริตี้ ลิมิเต็ด”
แต่หลังเปิดดำเนินกิจการได้เพียง 5 เดือนทางบริษัทได้ประสบ “ปัญหาภายใน” บางประการ และได้มีการแจ้งขอเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “เซ็นตริกส์ ลิมิเต็ด” เมื่อ 18 สิงหาคม ปี 2008 ก่อนจะมีการเปลี่ยนชื่อกิจการอีกหลายครั้ง และเลือกใช้ชื่อเซ็นตริกส์ อินฟอร์เมชัน ซีเคียวริตี้ เทคโนโลจีส์ ลิมิเต็ด เป็นชื่อล่าสุด
ขณะเดียวกันทีมข่าวต่างประเทศ MGR online ยังได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทไอทีแห่งนี้จากฐานข้อมูลธุรกิจของเมืองผู้ดี ซึ่งพบหลักฐานว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ปี 2015 โดยมีการระบุว่า ตัวเขาถือสัญชาติไทย แต่มีถิ่นพำนักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตลอดจนมีการลงทะเบียนที่อยู่ในอังกฤษสำหรับการติดต่อธุรกิจไว้ที่บ้านเลขที่ 27 สเตอร์ลิง เฮาส์ ถนนแฮตช์แลนด์ โรด ในเมืองเรดฮิลล์ ของเขตเซอร์เรย์ และมีรหัสไปรษณีย์คือ “RH1 6RW”
ทั้งนี้ นอกเหนือจากอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยแล้ว ยังปรากฏชื่อของนักธุรกิจชื่อดังหลายรายเป็นคณะผู้บริหารของบริษัทไอทีแห่งนี้ ทั้งเดวิด เอ็ดเวิร์ด สเวนด์เซน นักธุรกิจด้านไอทีชื่อดังจากออสเตรเลีย รวมถึงเซอร์ฟรานซิส เฮนรี แม็คเคย์ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงระดับแถวหน้าของอังกฤษรวมอยู่ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า หลังการระดมทุนในครั้งนี้ ทางบริษัทไอทีสัญชาติอังกฤษที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นหัวเรือใหญ่แห่งนี้จะเดินหน้าเข้ารับงานด้านการพัฒนาระบบไอที และความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับรัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย.