xs
xsm
sm
md
lg

เร่งสอบชื่อย่อฉาว บัญชีส่วย'นาตารี'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - ป.ป.ท.สั่งสอบการเปิดกิจการ "นาตารี" ตามล่ารายชื่อในบัญชีจ่ายส่วย แม้จะเอาผิดยาก เพราะระบุเฉพาะชื่อหน่วยงานเท่านั้น คาดโทษผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ด้านกทม. ผอ.เขตดินแดง เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

วานนี้ (9 มิ.ย.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึง กรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นสถานบริการนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด ย่านรัชดา และพบบัญชีจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดหน่วยงานต่างๆ ว่า เรื่องดังกล่าวป.ป.ท.ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจับกุมด้วย เนื่องจากการจับกุมถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองและตำรวจ ส่วนป.ป.ท. จะเข้าไปตรวจสอบการประกอบกิจการเปิดบริการได้อย่างไร หรือมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์เตรียมสรุปรายงานข้อเท็จจริงมายังป.ป.ท. ซึ่งต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงตามที่พบว่ามีรายชื่อในบัญชีจ่ายส่วยเพื่อระบุให้ได้ว่าเป็นใคร เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด และเกี่ยวข้องกับการรับส่วยตามข่าวอย่างไร เบื้องต้นเชื่อว่าต้นสังกัดที่ปรากฏตามข่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน เพราะมีการเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบัญชีการจ่ายส่วยสามารถตรวจสอบเพื่อเอาผิดวินัยได้ง่ายกว่าการลงโทษทางอาญา เพราะโทษอาญาต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัย แต่อาจมีปัญหาเพราะการจ่ายส่วยระบุเพียงชื่อย่อหรือชื่อต้นสังกัด หากไม่มีพยานบุคคลยืนยันจะเชื่อมโยงเอาผิดอาญาได้ยาก ทั้งนี้ ในส่วนผู้บังคับบัญชาตามหน่วยงานที่มีชื่อปรากฏในบัญชีส่วยต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริง เพราะหากไม่ดำเนินการใด ๆ หัวหน้าหน่วยงานต้องรับผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะกทม.ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตเรื่องอาคารสถานที่ เพราะอาจมีการต่อเติมและใช้เสียงดังรบกวนพื้นที่ใกล้เคียง หากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่รู้เห็นเป็นใจสถานบริการเหล่านี้จะไม่สามารถเปิดบริการได้

เลขาธิการป.ป.ท. ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าการเสนอรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 โยกย้ายออกจากตำแหน่งเป็นล็อตที่ 4 ว่า ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายชื่อล็อตใหม่ในสัปดาห

*** “พงศพัศ”คาดโทษละเลยโดนวินัยแน่

พล.ต.อ พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้รายงานผลการจับกุมมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แล้ว รวมถึงพฤติการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นมีการย้าย 4 นายตำรวจ สน.ห้วยขวางไปช่วย ราชการที่ ศปก.บก.น.1 และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุกรณีที่มีเจ้าหน้าที่จากนอกหน่วยเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิดในสถานบริการ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบ

ส่วนการพบบัญชีรายชื่อและจำนวนตัวเลขการส่งส่วยนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบัญชีที่ระบุผู้รับเงินเป็นใครบ้าง โดยจะรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นครบาล หรือพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ถ้าหากมีนอกหน่วยไปจับกุมผู้กระทำ ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ รวมถึงการพนัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งกองวินัยไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อ พิจารณาดำเนินการทางวินัย ทั้งนี้ต้องรอให้ ผบ.ตร. พิจารณาจำเป็นต้องตั้งชุดคณะกรรมการตรวจสอบระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ต่อไป

พร้อมกันนี้ ได้มีการย้ำเตือนพล.ต.ท.ศานิตย์ ว่า หากมีการปล่อยปะเลย และไม่สอดส่องดูแล ให้สถานอาบอบนวด สถานบริการในลักษณะนี้ ผบ.ตร.จะพิจารณาดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น

*** เขตดินแดงตั้งกก.สอบบัญชีส่วย

ด้าน น.ส.ใสศรี หิรัฐประเสริฐวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้กทม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงบัญชีการจ่ายส่วย โดยพบว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงแห่งนี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นกองอาคาร กองสาธารณสุข และการตรวจสุขลักษณะ หรือสิ่งแวดล้อม ไม่น่าจะมีเหตุที่จะต้องรับส่วยจากสถานบริการแห่งนี้ เนื่องจากสถานบริการ “นาตารี” มีใบสถานประกอบกิจการที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม รายชื่อในโพยบัญชีที่พบ ที่มีการระบุคำว่า กทม. นั้น ไม่สามารถตีความได้ว่า เป็นหน่วยงานใดของกรุงเทพมหานคร เพราะอาจเป็นหน่วยงานที่ไม่ใช่ของเขตดินแดงก็เป็นได้ แต่ถ้าพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และเกี่ยวข้องกับเขตดินแดง ก็จะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินตามกฎระเบียบตามกฏหมายอย่างแน่นอน

*** แนะปชช.แจ้งเบาะแสเพิ่ม

ที่กระทรวงมหาดไทนย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ปค.) บุกจับสถานบริการนาตารี อาบอบนวด ว่า เจ้าหน้าที่ ปค. มีอำนาจหน้าที่ที่จะแก้ไขปัญหาสังคมตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาบางส่วนได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทย และการดำเนินงานด้านการข่าว โดยเป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงอยากบอกไปยังประชาชนว่าต้องช่วยกันจัดระเบียบสังคมให้ดีขึ้น เพราะปัญหามีหลายด้าน ทั้งการค้ามนุษย์ สิทธิมนุษยชน และเยาวชน จึงขอให้ร่วมมือกัน โดยสามารถแจ้งเบาะแสเพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้น พร้อมยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานร่วมกับตำรวจ และ คสช. ไม่ได้ทำเพียงแค่กระทรวงเดียวเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น