วานนี้ (2มิ.ย.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานการกำหนดรูปแบบรายการออกอากาศทางสถานวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ โดยมีนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ เป็นประธาน และมีตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ 6 ช่อง คือช่อง 3 ,5, 7 .9 .11 และ ไทยพีบีเอส เข้าร่วมประชุม เพื่อหาข้อสรุปรูปแบบการจัดรายการออกอากาศ โดยที่ประชุมมีมติให้สำนักงานกกต.เป็นผู้จัดทำไตเติ้ลเข้ารายการ ที่ทุกช่องจะใช้ร่วมกัน ซึ่งจะออกอากาศในช่วงเวลา 17.30 -18.00 น. ทุกวันจันทร์และพุธ เริ่ม 27 มิ.ย. ถึง 6 ส.ค.59
ในส่วนของรายการจะแบ่งเป็น กกต. ,กรธ.และสนช. รวม 7 ตอน ซึ่งในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมอบหมายให้ช่องใดเป็นผู้ผลิต ทั้งนี้ ตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์เห็นว่าให้ กกต.ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพื่อให้เป็นผู้ผลิตทั้ง 7 ตอน และยังไม่ได้ข้อยุติว่า จะใช้ช่องใดเป็นแม่ข่ายในการกระจายสัญญาณ
สำหรับที่เหลืออีก 6 ตอน ที่จะให้ทั้ง 6 ช่องจัดรายการนั้น ในการประชุมครั้งนี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถส่งรายชื่อแขกร่วมรายการได้ทั้งหมด เพราะอยู่ระว่างการวางแผนของสถานี และติดต่อแขกร่วมรายการ มีเพียงช่อง 7 และไทยพีบีเอส ที่ชัดเจนในเรื่องตัวพิธีกร และเนื้อหาว่า ช่อง 7 จะทำเรื่องศาล และศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนไทยพีบีเอส ทำเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และการปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้ นายแสวง ได้กำชับ ตัวแทนสถานที่เข้าประชุมว่าขอให้เชิญบุคคลที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงตัวแทนของรัฐบาลและ กรธ.เท่านั้น เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความรู้เพียงด้านเดียว แต่หากยังไม่สามารถเลือกผู้ใดได้ ก็ขอให้แจ้งมายัง กกต. ซึ่งจะพิจารณาบุคคลให้เลือก เพื่อให้เกิดความรอบด้าน และปลอดภัย
อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง วันที่ 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมชุดใหญ่ที่มี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เป็นประธาน และทีวีดิจิตอล 19 ช่อง เข้าร่วมด้วย
ในส่วนของรายการจะแบ่งเป็น กกต. ,กรธ.และสนช. รวม 7 ตอน ซึ่งในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมอบหมายให้ช่องใดเป็นผู้ผลิต ทั้งนี้ ตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์เห็นว่าให้ กกต.ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์รัฐสภา เพื่อให้เป็นผู้ผลิตทั้ง 7 ตอน และยังไม่ได้ข้อยุติว่า จะใช้ช่องใดเป็นแม่ข่ายในการกระจายสัญญาณ
สำหรับที่เหลืออีก 6 ตอน ที่จะให้ทั้ง 6 ช่องจัดรายการนั้น ในการประชุมครั้งนี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถส่งรายชื่อแขกร่วมรายการได้ทั้งหมด เพราะอยู่ระว่างการวางแผนของสถานี และติดต่อแขกร่วมรายการ มีเพียงช่อง 7 และไทยพีบีเอส ที่ชัดเจนในเรื่องตัวพิธีกร และเนื้อหาว่า ช่อง 7 จะทำเรื่องศาล และศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนไทยพีบีเอส ทำเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และการปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้ นายแสวง ได้กำชับ ตัวแทนสถานที่เข้าประชุมว่าขอให้เชิญบุคคลที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงตัวแทนของรัฐบาลและ กรธ.เท่านั้น เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความรู้เพียงด้านเดียว แต่หากยังไม่สามารถเลือกผู้ใดได้ ก็ขอให้แจ้งมายัง กกต. ซึ่งจะพิจารณาบุคคลให้เลือก เพื่อให้เกิดความรอบด้าน และปลอดภัย
อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง วันที่ 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมชุดใหญ่ที่มี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เป็นประธาน และทีวีดิจิตอล 19 ช่อง เข้าร่วมด้วย
