วานนี้(31พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี คสช. มีท่าทีผ่อนปรนในเรื่องเรียนคนเข้าปรับทัศนคติว่า ที่ผ่านมา ก็เป็นการเรียกไปเพื่อทำความเข้าใจ พูดคุย หาเหตุผลว่า ที่แสดงออกนั้นต้องการอะไร ไม่ได้มีการคุมขัง แค่หาที่พักให้ แล้วค่อยพูดคุยกันเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีคดีความติดตัวอยู่ ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไป
"ผมต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ถ้าไม่สงบ เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ก็ได้ ผมบอกว่าทุกคนต้องเรียนรู้ร่วมกัน ว่าจะอยู่กันอย่างไร อยากให้สังคมรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าปล่อยแล้วเกิดอะไรขึ้น ท่านต้องรับผิดชอบร่วมกับผม ไม่ใช่ให้ผมรับคนเดียว เมื่อผมเข้มงวดก็ว่า แต่เมื่อปล่อย ก็ถามว่าหากหนีจะรับผิดชอบอย่างไร เหมือนเป็นการลงที่ผมทั้งหมด ทำไมทุกคนไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี ดาวอังคารเคลื่อนใกล้โลก ซึ่งหมอดูเตือนว่า ไม่ให้พูดมาก ก็รับฟังไว้ แต่ถือว่าตัวเองทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะโมโห อารมณ์รุนแรงบ้าง ก็ต้องให้อภัยกัน เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ตนมีความกดดันเพราะงานที่ทำ ยังไม่เสร็จ และมีปัญหาอยู่มาก แต่ต้องทำให้ได้ เพราะเป็นความคาดหวังของประชาชน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. แถลงภายหลังการประชุมสำนักงานเลขาธิการคสช. ที่มี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ประธานการประชุม ว่า ในเรื่องการเชิญบุคคล หรือกลุ่มต่างๆ มาพูดคุย และหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ การเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง ปัญหาผู้มีอิทธิพล ปัญหาการจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมายที่ได้ดำเนินการมาเป็นระยะๆ โดยใช้พื้นที่ในค่ายทหารนั้น ต่อไปการพูดคุยในลักษณะดังกล่าว จะพิจารณาจัดให้มีขึ้นในสถานที่ราชการอื่นๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด หรือ สถานีตำรวจ เพื่อให้เกิดความสะดวกบรรยากาศของการพูดคุยให้ดีขึ้น
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณี คสช. ปรับเปลี่ยนเรื่องสถานที่เข้ารายงานตัวของผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล จากค่ายทหารเป็นศาลากลางจังหวัด ว่า จะรายงานตัวที่ไหนก็ได้ เพราะถือเป็นสถานที่เหมือนกัน เราพยายามทำให้ทุกอย่างมันดูเบาลงในทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องเข้ารายงานตัวกับทหารอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ใช้คำว่า เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องห่วง เขาทำให้ดี ทำไมรังเกียจทหารกันหรืออย่างไร ทหารไม่เคยทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการยกเลิกการเรียกปรับทัศนคติ เพราะขณะนี้เป็น รัฏฐาธิปัตย์ และตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจอะไรรุนแรง ไม่เคยใช้ มาตรา 44 จับคนไปขัง ไม่เคยใช้อำนาจลิดรอนสิทธิของประชาชน ทั้งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะเป็นหัวหน้าคสช. แต่พยายามเดินตามแนวทางประชาธิปไตยตลอด ดังนั้นขอว่า อย่าพยายามพูดให้เกิดความวุ่นวาย รอให้มีการเลือกตั้ง มีรัฐธรรมนูญ ตอนนั้นอยากทำอะไรก็ทำ แต่ขณะนี้ไม่ได้
เมื่อถามว่า กรณีที่เปิดโอกาสให้นักการเมืองออกนอกประเทศได้ เป็นเพราะการประชุมเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันอะไรทั้งสิ้น เป็นความคิดของนายกฯ เองทั้งหมด และทุกวันนี้ต่างชาติ เขาให้การยอมรับเรา โดยเฉพาะทุกครั้งที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ยอมรับ คงไล่ตนกลับแล้ว
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม. โดยจะมีนายทหารอักษรย่อ “ธ.”กับ “ก.”เข้ามา ว่า หากเชื่อกระแสข่าว ก็ไปถามคนที่เผยแพร่ ขณะนี้ยังไม่มีการปรับย้ายอะไรทั้งนั้น รัฐบาลเหลือเวลาอีกปีกว่า พยายามทำสิ่งที่นายกฯ วางเอาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนำทหารที่เกษียณอายุราชการเข้ามาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีการปรับย้ายอะไรทั้งสิ้น ไม่มี ขณะนี้นายกฯ ทำงานอย่างเดียว ไม่เคยพูดเรื่องดังกล่าวกับตน เมื่อถามย้ำว่า นายทหารที่เกษียณแล้ว จะไปอยู่ที่ไหน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็กลับไปอยู่บ้าน เมื่อถามอีกว่า หากเขายังไม่อยากกลับบ้าน จะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงต้องไปถามเขาเอง ตนไม่รู้
"ผมต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ถ้าไม่สงบ เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ก็ได้ ผมบอกว่าทุกคนต้องเรียนรู้ร่วมกัน ว่าจะอยู่กันอย่างไร อยากให้สังคมรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าปล่อยแล้วเกิดอะไรขึ้น ท่านต้องรับผิดชอบร่วมกับผม ไม่ใช่ให้ผมรับคนเดียว เมื่อผมเข้มงวดก็ว่า แต่เมื่อปล่อย ก็ถามว่าหากหนีจะรับผิดชอบอย่างไร เหมือนเป็นการลงที่ผมทั้งหมด ทำไมทุกคนไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี ดาวอังคารเคลื่อนใกล้โลก ซึ่งหมอดูเตือนว่า ไม่ให้พูดมาก ก็รับฟังไว้ แต่ถือว่าตัวเองทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะโมโห อารมณ์รุนแรงบ้าง ก็ต้องให้อภัยกัน เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ตนมีความกดดันเพราะงานที่ทำ ยังไม่เสร็จ และมีปัญหาอยู่มาก แต่ต้องทำให้ได้ เพราะเป็นความคาดหวังของประชาชน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. แถลงภายหลังการประชุมสำนักงานเลขาธิการคสช. ที่มี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ประธานการประชุม ว่า ในเรื่องการเชิญบุคคล หรือกลุ่มต่างๆ มาพูดคุย และหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ การเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง ปัญหาผู้มีอิทธิพล ปัญหาการจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมายที่ได้ดำเนินการมาเป็นระยะๆ โดยใช้พื้นที่ในค่ายทหารนั้น ต่อไปการพูดคุยในลักษณะดังกล่าว จะพิจารณาจัดให้มีขึ้นในสถานที่ราชการอื่นๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด หรือ สถานีตำรวจ เพื่อให้เกิดความสะดวกบรรยากาศของการพูดคุยให้ดีขึ้น
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณี คสช. ปรับเปลี่ยนเรื่องสถานที่เข้ารายงานตัวของผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล จากค่ายทหารเป็นศาลากลางจังหวัด ว่า จะรายงานตัวที่ไหนก็ได้ เพราะถือเป็นสถานที่เหมือนกัน เราพยายามทำให้ทุกอย่างมันดูเบาลงในทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องเข้ารายงานตัวกับทหารอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ใช้คำว่า เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องห่วง เขาทำให้ดี ทำไมรังเกียจทหารกันหรืออย่างไร ทหารไม่เคยทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการยกเลิกการเรียกปรับทัศนคติ เพราะขณะนี้เป็น รัฏฐาธิปัตย์ และตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจอะไรรุนแรง ไม่เคยใช้ มาตรา 44 จับคนไปขัง ไม่เคยใช้อำนาจลิดรอนสิทธิของประชาชน ทั้งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะเป็นหัวหน้าคสช. แต่พยายามเดินตามแนวทางประชาธิปไตยตลอด ดังนั้นขอว่า อย่าพยายามพูดให้เกิดความวุ่นวาย รอให้มีการเลือกตั้ง มีรัฐธรรมนูญ ตอนนั้นอยากทำอะไรก็ทำ แต่ขณะนี้ไม่ได้
เมื่อถามว่า กรณีที่เปิดโอกาสให้นักการเมืองออกนอกประเทศได้ เป็นเพราะการประชุมเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันอะไรทั้งสิ้น เป็นความคิดของนายกฯ เองทั้งหมด และทุกวันนี้ต่างชาติ เขาให้การยอมรับเรา โดยเฉพาะทุกครั้งที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ยอมรับ คงไล่ตนกลับแล้ว
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม. โดยจะมีนายทหารอักษรย่อ “ธ.”กับ “ก.”เข้ามา ว่า หากเชื่อกระแสข่าว ก็ไปถามคนที่เผยแพร่ ขณะนี้ยังไม่มีการปรับย้ายอะไรทั้งนั้น รัฐบาลเหลือเวลาอีกปีกว่า พยายามทำสิ่งที่นายกฯ วางเอาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนำทหารที่เกษียณอายุราชการเข้ามาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีการปรับย้ายอะไรทั้งสิ้น ไม่มี ขณะนี้นายกฯ ทำงานอย่างเดียว ไม่เคยพูดเรื่องดังกล่าวกับตน เมื่อถามย้ำว่า นายทหารที่เกษียณแล้ว จะไปอยู่ที่ไหน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็กลับไปอยู่บ้าน เมื่อถามอีกว่า หากเขายังไม่อยากกลับบ้าน จะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงต้องไปถามเขาเอง ตนไม่รู้
