ผู้จัดการรายวัน360-"บอส"ทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาซิ่งเฟอร์รารี่ชน "ดาบวิเชียร" เสียชีวิต เบี้ยวพบอัยการ ทำให้ส่งฟ้องคดีอาญาไม่ได้ ขีดเส้นตายนัดหน้า หากเบี้ยวไม่มาอีก เจอหมายจับทันที
นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เปิดเผยถึงการนัดส่งตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อายุ 31 ปี ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ผู้ต้องหาคดีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณ ถ.สุขุมวิท เมื่อปี 2555 ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งให้ นายวรยุทธ มาพบอัยการ ว่า จนถึงขณะนี้นายวรยุทธ หรือทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อกับอัยการว่าจะขอเลื่อนการเข้าพบ หรือจะมาพบในเวลาใด และหากไม่เดินทางมาพบอัยการตามนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ อัยการจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ อีกครั้งเพี่อสอบถามถึงมูลเหตุที่ยังไม่สามารถติดตามตัวนายวรยุทธมาได้
ทั้งนี้ อัยการจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งนัดการส่งตัวกับนายวรยุทธให้มาพบอีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่เดินทางเข้าพบ และไม่มีการแจ้งเหตุขัดขัดข้องอีก ซึ่งลักษณะเข้าข่ายประวิงเวลา ทำให้การส่งฟ้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีเหตุจำเป็นที่สมควร อัยการจะประสานให้พนักงานสอบ ขอศาลออกหมายจับนายวรยุทธ ผู้ต้องหา เพื่อให้ได้ตัวมาฟ้อง โดยอัยการจะไม่ปล่อยเวลาให้ต้องเลื่อนคดีไป จนทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งอายุความสูงสุด 15 ปี
อย่างไรก็ตาม หากในระหว่างนี้ ทนายความของนายวรยุทธจะเดินทางมาขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุอันควรจำเป็นและสุดวิสัยจริงๆ เช่น การผ่าตัดกะทันหันอย่างไส้ติ่ง หรือการเจ็บป่วยร้ายแรง อย่างมะเร็ง แต่ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่เชื่อถือได้จากโรงพยาบาลมายืนยัน
นายสุทธิกล่าวว่า ที่ผ่านมา ญาติของผู้เสียชีวิต ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาดูว่ามีข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์อีกหรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับหนังสือเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนกำลังพิจารณา แต่เพื่อไม่ให้เป็นการล่าช้า อัยการยังยืนยันที่จะยื่นฟ้องตามคำสั่งเดิมใน 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย และไม่หยุดรถช่วยเหลือก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนี้ ญาติสามารถยื่นคำร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้หรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า อาจจะทำไม่ได้ เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่าญาติผู้ตายได้เซ็นสัญญายอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนไปแล้ว เมื่อครั้งที่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
เมื่อถามว่า อัยการจะให้เวลาพนักงานสอบสวนอีกเท่าไร ในการแจ้งนัดให้นายวรยุทธมาพบอัยการอีกครั้งที่ 2 นายสุทธิ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติจะให้เวลาพนักงานสอบสวน 15-20 วัน แต่ต้องเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหาเตรียมตัวด้วย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดจะไม่เกิน 30 วัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุจำเป็นด้วย แต่ถ้าผู้ต้องหาไม่มา โดยไม่แจ้งเหตุอีก อัยการคงมองเป็นเหตุอื่นไม่ได้นอกจากการประวิงเวลา ซึ่งต้องออกหมายจับ เพราะขณะนี้ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวการรายงานว่า การยื่นฟ้องคดีอาญา ตามหลักจะต้องมีตัวผู้ต้องหามาแสดงในวันยื่นฟ้องด้วย หากผู้ต้องหาไม่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เปิดเผยถึงการนัดส่งตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อายุ 31 ปี ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ผู้ต้องหาคดีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณ ถ.สุขุมวิท เมื่อปี 2555 ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งให้ นายวรยุทธ มาพบอัยการ ว่า จนถึงขณะนี้นายวรยุทธ หรือทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อกับอัยการว่าจะขอเลื่อนการเข้าพบ หรือจะมาพบในเวลาใด และหากไม่เดินทางมาพบอัยการตามนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ อัยการจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ อีกครั้งเพี่อสอบถามถึงมูลเหตุที่ยังไม่สามารถติดตามตัวนายวรยุทธมาได้
ทั้งนี้ อัยการจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งนัดการส่งตัวกับนายวรยุทธให้มาพบอีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่เดินทางเข้าพบ และไม่มีการแจ้งเหตุขัดขัดข้องอีก ซึ่งลักษณะเข้าข่ายประวิงเวลา ทำให้การส่งฟ้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีเหตุจำเป็นที่สมควร อัยการจะประสานให้พนักงานสอบ ขอศาลออกหมายจับนายวรยุทธ ผู้ต้องหา เพื่อให้ได้ตัวมาฟ้อง โดยอัยการจะไม่ปล่อยเวลาให้ต้องเลื่อนคดีไป จนทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งอายุความสูงสุด 15 ปี
อย่างไรก็ตาม หากในระหว่างนี้ ทนายความของนายวรยุทธจะเดินทางมาขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุอันควรจำเป็นและสุดวิสัยจริงๆ เช่น การผ่าตัดกะทันหันอย่างไส้ติ่ง หรือการเจ็บป่วยร้ายแรง อย่างมะเร็ง แต่ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่เชื่อถือได้จากโรงพยาบาลมายืนยัน
นายสุทธิกล่าวว่า ที่ผ่านมา ญาติของผู้เสียชีวิต ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาดูว่ามีข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์อีกหรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับหนังสือเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนกำลังพิจารณา แต่เพื่อไม่ให้เป็นการล่าช้า อัยการยังยืนยันที่จะยื่นฟ้องตามคำสั่งเดิมใน 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย และไม่หยุดรถช่วยเหลือก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนี้ ญาติสามารถยื่นคำร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้หรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า อาจจะทำไม่ได้ เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่าญาติผู้ตายได้เซ็นสัญญายอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนไปแล้ว เมื่อครั้งที่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
เมื่อถามว่า อัยการจะให้เวลาพนักงานสอบสวนอีกเท่าไร ในการแจ้งนัดให้นายวรยุทธมาพบอัยการอีกครั้งที่ 2 นายสุทธิ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติจะให้เวลาพนักงานสอบสวน 15-20 วัน แต่ต้องเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหาเตรียมตัวด้วย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดจะไม่เกิน 30 วัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุจำเป็นด้วย แต่ถ้าผู้ต้องหาไม่มา โดยไม่แจ้งเหตุอีก อัยการคงมองเป็นเหตุอื่นไม่ได้นอกจากการประวิงเวลา ซึ่งต้องออกหมายจับ เพราะขณะนี้ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวการรายงานว่า การยื่นฟ้องคดีอาญา ตามหลักจะต้องมีตัวผู้ต้องหามาแสดงในวันยื่นฟ้องด้วย หากผู้ต้องหาไม่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ